สวนรถไฟวิวดี สุขภาพดีลงที่บีทีเอสหมอชิต

โดย โยโมทาโร่ ภาพ : Pornprom Satrabhaya

 หากคุณนั่งรถไฟฟ้าบีทีเอสมาลงที่สถานีหมอชิต คุณจะมีอยู่ 3 ทางเลือก ก็คือไปเดินเล่นที่สวนจตุจักร หรือต่อรถไฟฟ้าใต้ดินไปลงที่สถานีพหลโยธิน เดินเที่ยวเล่นที่เซ็นทรัลลาดพร้าว และทางเลือกสุดท้ายคือต่อรถแท็กซี่ไม่เกิน 50 บาทเพื่อไปที่สวนรถไฟ หรือชื่อเต็มยศก็คือ “สวนวชิรเบญจทัศ” ซึ่งคุณจะได้ปั่นจักรยานชมวิวดีๆ ที่หาได้ยากใจกลางเมืองหลวง และเป็นสถานที่ที่เราอยากจะแนะนำให้ไปมากที่สุด

 การเดินทางมาที่สวนรถไฟเพื่อมาปั่นจักรยานนั้น สำหรับคนที่มีรถส่วนตัวอยากจะฝ่าการจราจรมาเอง ให้วิ่งเข้าถนนพหลโยธินมุ่งหน้าไปถนนวิภาวดี เมื่อถึงแยกสวนจตุจักรให้ชิดซ้ายเตรียมเข้าถนนกำแพงเพชร 3 วิ่งตรงมาเรื่อยๆ จนสุดทาง ถึงสามแยกให้เลี้ยวซ้ายไปทางหอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ ผ่านหอจดหมายเหตุไป ก็จะเห็นป้ายบอกทางเข้าที่จอดรถสวนรถไฟ เสียค่าจอดไม่กี่สิบบาทแต่ดีกว่าเสี่ยงจอดริมถนน

 ส่วนคนที่มารถไฟฟ้า แนะนำว่าไม่ต้องนำจักรยานมาเอง เพราะที่สวนรถไฟมีบริการให้เช่าจักรยาน มีทั้งแบบปั่นชิลๆ มีที่นั่งเด็ก กับแบบเสือภูเขาปั่นเอาจริงเอาจัง บางร้านมีโปรโมชั่นปั่นครบ 5 ครั้ง ฟรี 1 ก็มี แบบนี้สบายกว่า แค่พาตัวมาลงที่สถานีรถไฟฟ้าหมอชิต แล้วต่อแท็กซี่หรือวินมอเตอร์ไซค์ไม่กี่นาทีเท่านั้น

 ช่วงเวลาที่เหมาะกับการมาเที่ยวสวนรถไฟมีอยู่ 2 ช่วงเวลา คือ ตอนเช้าก่อน 8 โมงเช้า และช่วงเย็นตั้งแต่ 4 โมงเย็นเป็นต้นไป อากาศไม่ร้อนและเล่นได้นาน ส่วนตัวชอบช่วงเวลาเช้ามากกว่าให้ความรู้สึกสดชื่น อากาศเย็นสบายกว่า แต่ร้านจักรยานอาจจะยังไม่เปิดให้บริการมากเท่ากับช่วงเย็น

 สวนรถไฟนั้นเคยเป็นสนามกอล์ฟของการรถไฟแห่งประเทศไทย มีพื้นที่ทั้งหมด 375 ไร่ ภายหลังปรับเปลี่ยนมาเป็นสวนสาธารณะ ที่ได้รับพระราชทานนามใหม่จากสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ให้ชื่อ “สวนวชิรเบญจทัศ”

 ดังนั้น ทิวทัศน์เนินสนามหญ้าต่างๆ นั้น จะดูสวยงามเหมือนสนามกอล์ฟ แต่มีถนนและต้นไม้สูงใหญ่ที่เหมาะแก่การวิ่งและปั่นจักรยานออกกำลังกายอย่างมาก

 ในช่วงแรกๆ นั้น กระแสการปั่นจักรยานยังมีไม่มากนัก ส่วนใหญ่จะมาวิ่งกันเสียมากกว่า แต่ก็มีร้านให้เช่าจักรยานมากมาย ต่อมาภายหลังเริ่มมีคนนิยมปั่นจักรยานกันมากขึ้น และจักรยานแต่ละคันก็มักจะชอบปั่นฝึกซ้อมทำความเร็วกันจนเกิดอันตรายแก่คนวิ่งออกกำลังกายที่ใช้ถนนเส้นเดียวกัน

 ทางสวนรถไฟจึงปรับเปลี่ยนให้มีเลนจักรยานโดยเฉพาะ ระยะทางใหม่ประมาณ 3.4 กิโลเมตร แต่จะมีบางส่วนที่ใช้กับเส้นทางเดิมบ้าง แต่ก็ถือว่าปลอดภัยกับคนเดินถนนมาก

 แม้ว่าเส้นทางใหม่จะแคบกว่า แต่จากประสบการณ์ที่เห็น ก็ยังมีนักปั่นที่ชอบทำความเร็วสูงพยายามขับขี่ในเส้นทางนี้ ซึ่งเป็นอันตรายต่อคนปั่นจักรยานทั่วไปที่นิยมปั่นชมวิว ชมนกชมไม้ ซึ่งสวนรถไฟออกแบบไว้อย่างนั้น อีกทั้งยังมีเด็กๆ ปั่นจักรยานในเส้นทางนี้ ถ้าพ้นมุมอับแล้วเจอเด็กเล็กปั่นจักรยานเล่นอยู่จะอันตรายมาก

 อยากฝากสำหรับนักปั่นเสือหมอบหรือคนที่ชอบปั่นทำความเร็วว่า ควรมาในวันธรรมดาในช่วงกลางวันที่ไม่ใช่ตอนปิดเทอม ถ้าอยากจะซ้อมทำความเร็วจริงๆ แนะนำไปที่สนามบินสุวรรณภูมิจะเหมาะสมกว่า มีทางตรงยาวร่วม 20 กว่ากิโลเมตร โชคดีอาจจะได้เจอทีมชาติซ้อมด้วยก็ได้ ที่สวนรถไฟไม่เหมาะกับการปั่นทำความเร็ว เพราะชื่อก็บอกอยู่ว่าเป็นสวนสาธารณะจะมาใช้บริการ ก็ต้องคิดถึงคนอื่นให้มาก

 นอกจากนี้ ที่นี่ยังมีสวนพฤกษศาสตร์ ลานกีฬา อุทยานผีเสื้อและแมลงกรุงเทพฯ สามารถเช่าเรือพายเล่นได้อีกด้วย แต่ทั้งหมดนี้ แนะนำให้มาช่วงเย็น จะได้ครบทุกอรรถรสที่สวนรถไฟ จะทำให้คุณอยากกลับมาอีกครั้ง

..........ล้อมกรอบ.........

 สวนรถไฟเปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 05.00-21.00 น. ค่าเช่าจักรยานราคาประมาณคันละ 20-30 บาท/วัน ค่าเช่าเรือพาย 30 บาท/ชั่วโมง