posttoday

ทวีพล เจริญกิตติคุณไพศาล ยึดธรรมะบริหารชีวิต

07 ตุลาคม 2560

แม้ ทวีพล เจริญกิตติคุณไพศาล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เวิลด์ลีส

โดย ฉัตรชัย ธนจินดาเลิศ 

 แม้ ทวีพล เจริญกิตติคุณไพศาล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เวิลด์ลีส จะมีอายุครบวัยเกษียณ 60 ปีไปแล้ว ตั้งแต่ปี 2559 แต่คณะกรรมการบริษัทก็ยังคงให้เขาช่วยบริหารงานต่อไปอยู่

 เพราะถือได้ว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ที่หาตัวจับยากคนหนึ่งในวงการ ซึ่งไม่ใช่จะหาคนมาทำงานแทนที่ได้ง่ายๆ ในยุคที่การแข่งขันในธุรกิจเช่าซื้อยังรุนแรงอยู่

ทวีพล บอกว่า แม้เขาจะได้รับการว่าจ้างให้ทำงานในบริษัท เวิลด์ลีส ต่อไป แต่ก็เลือกต่อเป็นแบบระยะสั้นปีต่อปีเท่านั้น เพื่อให้ทั้งตัวเขาและบริษัทไม่มีข้อผูกมัดที่นานเกินไป หากบริษัทได้ผู้บริหารคนใหม่มาแล้ว เขาก็พร้อมลุกจากเก้าอี้ได้ทันที จะได้มีเวลามากพอทำในสิ่งอื่นที่ตัวเองต้องการด้วย

 ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทวีพลก็ได้เตรียมอาชีพเสริมไว้รองรับยามเกษียณไว้แล้ว เป็นธุรกิจเล็กๆ ที่เกี่ยวข้องกับงานบริการด้านกาแฟ ในรูปแบบ “ออฟฟิศ คอฟฟี่ ซิสเต็ม” มีลักษณะเป็นตู้กาแฟ ที่คอยให้บริการกับพนักงานบริษัทโดยอัตโนมัติ  

 "เป็นเครื่องนำเข้ามาจากอิตาลี ซึ่งปัจจุบันมีให้บริการอยู่ 50-60 เครื่องแล้ว ที่ติดตั้งอยู่ตามบริษัทหรือองค์กรต่างๆ ส่วนการคิดค่าบริการก็มีทั้งแบบที่คิดค่าบริการต่อแก้ว หรือคิดป็นค่าเช่าเครื่องก็ได้ โดยใช้วัตถุดิบของเราทั้งหมด และไปให้บริการสินค้าทุกวัน"

ทวีพล บอกว่า โดยส่วนตัวเขาเคยมีประสบการณ์ทำตู้กาแฟมาก่อนหน้านี้แล้ว จึงไม่ใช่ของใหม่สำหรับเขา ซึ่งย้อนกลับไปเมื่อ 10 ปีก่อน เขายังเป็นผู้ทำธุรกิจรุ่นแรกๆ ที่ให้บริการสั่งซื้อสินค้าทางโทรศัพท์ เพียงแต่ช่วงเวลานั้นอาจจะมาเร็วไปหน่อย ลูกค้ายังไม่นิยมเหมือนปัจจุบัน จึงไม่ประสบความสำเร็จมากนัก

 ไม่เพียงเท่านั้น ประสบการณ์ทำงานที่ผ่านมายังสอนให้เขาเรียนรู้อีกหลายอย่าง และต้องอยู่บนความไม่ประมาท

ทวีพล เจริญกิตติคุณไพศาล ยึดธรรมะบริหารชีวิต

 เมื่อช่วงเกิดวิกฤตเศรษฐกิจต้มยำกุ้ง ปี 2540 ตัวเขาเองต้องกลายเป็นผู้แบกรับภาระหนี้สินของบริษัทถึง 800 ล้านบาท ในฐานะกรรมการผู้จัดการบริษัท ที่ต้องมีส่วนร่วมในการเซ็นค้ำประกันเงินกู้ในสมัยนั้น ซึ่งก็ต้องใช้เวลาแก้ปัญหาและฟันฝ่าอุปสรรคนานถึง 6-7 ปี ถึงจะรอดพ้นวิกฤตและกลับมาสู่ภาวะปกติได้ จึงถือว่าได้เป็นบทเรียนสำคัญเรื่องหนึ่งของชีวิตก็ว่าได้

 อย่างไรก็ตาม นอกเหนือจากเรื่องของธุรกิจที่สร้างรายได้เพื่อใช้เป็นปัจจัยในการดำรงชีวิตหลังเกษียณแล้ว ในแง่ของจิตใจเอง เขาก็ดูแลตัวเองเป็นอย่างดี ด้วยการวางแนวทางมุ่งปฏิบัติธรรมมาอย่างต่อเนื่อง

โดยมีโอกาสศึกษาธรรมกับ “พระอาจารย์วิชัย กัมมสุทโธ” สมัยตั้งแต่ท่านยังอยู่ที่เกาะสีชัง จนปัจจุบันย้ายมาอยู่ที่สถานปฏิบัติธรรมป่าวิเวกสิกขาราม เลขที่ 55 หมู่ 11 ต.เก่างิ้ว อ.พล จ.ขอนแก่น และเป็นบ้านเกิดของพระอาจารย์เอง

 "ไม่เพียงแต่ตัวเองเท่านั้นที่หาโอกาสศึกษาธรรมะ แต่ทุกๆ เช้าก็จะให้สาขาต่างๆ เปิดคำสอนธรรมะของพระอาจารย์ให้พนักงานฟังไปด้วย เพื่อให้นำธรรมะไปใช้กับชีวิตประจำวันได้ และยังส่งผลดีทำให้พนักงานเกิดความสงบในการทำงานมากขึ้น รวมถึงยังได้พาพนักงานระดับหัวหน้าไปปฏิบัติธรรมด้วย

 “ผมศึกษาทั้งธรรมะและปฏิบัติธรรมควบคู่กับ ซึ่งก็ทำให้ชีวิตมีความสงบมากขึ้น ทำให้ตัวเองเย็นลง อย่างผมมีลูก 3 คน ทุกวันพระก็นำเขาสวดมนต์ พาลูกไปวัดด้วย ไปกันทั้งครอบครัว จะได้ค่อยๆ ซึมซับธรรมะเข้าไปในตัว” ทวีพล กล่าวทิ้งท้าย