posttoday

เตรียมตัวให้พร้อม จะกี่มาราธอนก็พร้อมลุย

25 กันยายน 2560

เทรนด์วิ่งมาราธอนยังไม่มีทีท่าจะจางลงง่ายๆ เพราะยังคงเป็นหนึ่งในกีฬาท็อปฮิตที่คนรุ่นใหม่ให้ความสนใจ

เทรนด์วิ่งมาราธอนยังไม่มีทีท่าจะจางลงง่ายๆ เพราะยังคงเป็นหนึ่งในกีฬาท็อปฮิตที่คนรุ่นใหม่ให้ความสนใจ นอกจากจะได้สุขภาพแล้ว ยังได้คอนเนกชั่น แถมมีรูปสวยๆ ถ่ายลงโซเชียล ทว่า สำหรับมือใหม่หัดวิ่งมาราธอน หรือใครที่ยังเอาแต่กลัวๆ กล้าๆ ปลอบใจตัวเองว่าแค่เดินยังเหนื่อย ลองคิดใหม่ เพราะแค่เตรียมตัวให้พร้อม ไม่ดูถูกศักยภาพตัวเอง จะมาราธอนไหนก็พิชิตได้ไม่เกินเอื้อม

เริ่มจากมาทำความเข้าใจความแตกต่างของมาราธอนแต่ละประเภทกันก่อน -- สำหรับการวิ่งมาราธอน หมายถึงการวิ่งในระยะทางประมาณ 42.195 กิโลเมตร ซึ่งถือว่าเป็นการวิ่งระยะไกลมาก และอาจจะหนักเกินไปสำหรับมือใหม่ เพราะฉะนั้นช่วงเริ่มต้นแนะนำเป็นการวิ่งมินิฮาล์ฟมาราธอน ระยะทาง 10.5 กิโลเมตร หรือการวิ่งฮาล์ฟมาราธอน ระยะทาง 21.1 กิโลเมตร ไม่ว่าจะเลือกแบบไหน ก่อนลงสนาม อย่าลืมเตรียมพร้อมให้ดี หรือศึกษาคู่มือนักวิ่งมาราธอนที่รวบรวมและคัดสรรมาให้แล้วว่าจำเป็น!

 1.อย่าอ่อนซ้อม

ไม่ว่าเป้าหมายของคุณจะเป็นมาราธอน หรือมินิฮาล์ฟมาราธอน ต้องมั่นใจก่อนว่าร่างกายพร้อมจะวิ่งระยะไกลแล้ว ทางที่ดีก่อนจะผลีผลามริลงสนาม ข้อมูลจากเว็บไซต์ของทีมบียอนด์ ทีมนักวิ่งที่มีฝันจะเปิดโอกาสให้ทุกคนเข้ามามีส่วนร่วมเล่นกีฬาได้อย่างเท่าเทียมกัน แนะนำว่าควรซ้อมวิ่งออกกำลังกายอยู่เป็นประจำ และต่อเนื่องอย่างน้อย 1 ปี พอร่างกายเริ่มชินแล้ว ก็เริ่มเพิ่มบททดสอบที่ท้าทายขึ้นด้วยการฝึกวิ่งระยะไกล เพื่อเป็นการเทรนร่างกายในเบื้องต้น

ควรต้องซ้อมวิ่งให้ได้ระยะทางรวมกันสัปดาห์ละ 24-32 กิโลเมตร อย่างน้อยเป็นเวลา 4-6 เดือน ก่อนลงวิ่งมาราธอน หากคิดว่าฝึกซ้อมจนร่างกายฟิตแล้ว 2-3 เดือนก่อนลงแข่งขัน ให้ลองซ้อมวิ่งในระยะทาง 24 กิโลเมตรแบบม้วนเดียวจบ ทั้งหมดนี้ก็เพื่อให้โอกาสที่เป้าหมายที่จะพิชิตเส้นชัยอยู่ใกล้แค่เอื้อม แถมยังช่วยป้องกันอาการบาดเจ็บกล้ามเนื้อไปด้วย

2.รู้จักลิมิตร่างกาย

หากระหว่างการซ้อมวิ่งเกิดบาดเจ็บหรือป่วยขึ้นมา ห้ามซ้อมวิ่งต่อเด็ดขาด จนกว่าอาการเจ็บป่วยจะหายสนิทจริงๆ  นอกจากนี้ อีกเคล็ดลับที่สำคัญ คือ ถึงจะมุ่งมั่นในการฝึกซ้อมขนาดไหน แต่อย่ามองข้ามอานุภาพของการพักผ่อนให้เพียงพอ ทางที่ดีก่อนลงสนามวิ่งมาราธอนจริงๆ ต้องพักผ่อนให้เต็มอิ่ม อย่างน้อยต้องนอนหลับไม่ต่ำกว่า 7 ชั่วโมง เพื่อที่ตื่นมาจะได้รู้สึกกระปรี้กระเปร่า

นอกจากนี้ ยังต้องกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ ในช่วงที่ซ้อมวิ่งระยะไกล แต่ในช่วงก่อนเริ่มลงสนามวิ่งประมาณ 1 ชั่วโมง ควรกินอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตเล็กน้อย เช่น ขนมปังหรือกล้วย 1 ลูก เพื่อให้ร่างกายมีพลังงานไปใช้ในการวิ่งที่สำคัญ ก่อนถึงเวลาลงสนามประมาณ 20-30 นาที นักวิ่งควรดื่มน้ำ 1-2 แก้ว และเข้าห้องน้ำให้เรียบร้อย ส่วนในระหว่างที่วิ่งอยู่ ควรจิบน้ำเป็นระยะๆ หรือถ้ารู้สึกกระหายน้ำจนปากคอแห้ง หมายถึงร่างกายกำลังอยู่ในสภาวะขาดน้ำ ควรแวะหยิบน้ำจากจุดบริการมาจิบแก้กระหายโดยเร็วที่สุด

3.ยืดเหยียดกล้ามเนื้อเพิ่มความฟิต

ก่อนวิ่งมาราธอนก็ควรยืดเหยียดร่างกาย เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมกล้ามเนื้อ และกระตุ้นการทำงานของหัวใจและหลอดเลือดไปพร้อมๆ กัน โดยควรวอร์มร่างกายประมาณ 10-15 นาทีล่วงหน้า 

4.เตรียมอุปกรณ์ให้พร้อม

ไม่ว่าจะเป็นรองเท้า เสื้อผ้า หมวก ผ้าคาดหัวเพื่อกันเหงื่อไหลเข้าตา ต้องเตรียมให้พร้อม แนะนำให้เลือกใช้ของที่คุ้นเคยที่สุด เช่น รองเท้า ไม่จำเป็นต้องให้รางวัลตัวเองด้วยการซื้อคู่ใหม่ เพราะอาจจะกัดหรือทำให้วิ่งไม่ถนัด จนกลายเป็นว่าซ้อมแทบตาย มาตกม้าตายเพราะรองเท้าทำพิษ

สำหรับนักวิ่งหญิง ถ้ามีประจำเดือนในช่วงนั้นพอดี แนะนำให้ใส่ผ้าอนามัยแบบสอด และอย่าลืมทาครีมกันแดดเพื่อปกป้องผิวด้วย