posttoday

มุมโปรดของชีวิต ความสุขครบวงจรของ ศิกวัสส์ ลือโสภณ

23 กันยายน 2560

มุมแห่งความสุขของคนเรานั้นแตกต่างกันไป บางคนเป็นที่บ้าน บางคนที่ทำงาน บางคนอาจจะที่ฟิตเนสสักแห่ง

โดย อณุสรา ทองอุไร

มุมแห่งความสุขของคนเรานั้นแตกต่างกันไป บางคนเป็นที่บ้าน บางคนที่ทำงาน บางคนอาจจะที่ฟิตเนสสักแห่ง แต่ของชายหนุ่มคนนี้ ศิกวัสส์ ลือโสภณ ลูกชายร้านทำผมชื่อดังย่านฝั่งธน “ร้านพิศมัย” ที่เปิดมานานกว่า 40 ปี

เขาเคยมีร้านของตัวเองย่านเพลินจิต กิจการไปได้ดี พอหมดสัญญาเลยเลิกทำร้าน แล้วมาช่วยร้านคุณแม่พักใหญ่ ควบคู่ไปกับการนำเข้าผลิตภัณฑ์สปา ก่อนจะไปหุ้นคนรู้จักเปิดร้านทำผมอยู่ปีกว่า สุดท้ายคิดว่าถึงเวลาต้องมาทำของตัวเอง

มุมโปรดของชีวิต ความสุขครบวงจรของ ศิกวัสส์ ลือโสภณ

ดังนั้น เมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา เขาจึงเปิดร้าน Zik Zleep Zalon เป็นสลีบซาลอนแห่งแรกในประเทศไทย ในซอยอารีย์ ที่เอาร้านทำผมผสมสปาไว้ด้วยกัน ณ จุดเดียว ที่นี่จึงถือเป็นมุมชีวิต มุมโปรดของเขา ณ เวลานี้ เพราะกินนอน ทำงาน พักผ่อน บันเทิง ครบทุกอย่าง

ที่เป็นเช่นนี้ ก็อย่างที่รู้กันว่ากรุงเทพฯ เมืองฟ้าอมรของเรานั้น รถติดหนักหนา ถ้าจะให้บ้านอยู่ที่หนึ่ง ที่ทำงานอยู่อีกแห่งหนึ่ง จุดพักผ่อนก็อีกจุดหนึ่งนั้นคงไม่ไหว แต่ละที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่งใช้เวลาเดินทาง 1-2 ชั่วโมง เพลียใจไม่ไหวจะเคลียร์ เขาจึงสร้างสถานที่ที่เป็นศูนย์รวมแห่งความสุขใจไว้ที่จุดเดียว คือที่ร้านแห่งนี้ที่ถือว่าเป็นมุมโปรดของชีวิต ณ เพลานี้

เขา บอกว่า ในสังคมปัจจุบันที่ค่อนข้างเครียดและวุ่นวาย หากเราสามารถหาเวลาในการพักสายตาได้สัก 15 นาที คงจะเป็นสวรรค์น้อยๆ เลยทีเดียว หลายคนอาจจะเข้าใจความรู้สึกที่เวลาเข้าร้านทำผม การได้สระผมแล้วช่างนวดศีรษะให้ แล้วมันฟินสุดๆ แต่ในขณะที่เราเคลิบเคลิ้มอยู่อ้าวเสร็จแหล้วเหรอ แหม! อยากจะนอนต่ออีกสักหน่อยได้ไหมนะ

มุมโปรดของชีวิต ความสุขครบวงจรของ ศิกวัสส์ ลือโสภณ

เพราะรู้ถึงความต้องการแบบนี้ เขาก็เลยเลือกทำในสิ่งที่เขาชอบและใช่สำหรับคนส่วนใหญ่ จะได้เอาใจลูกค้าให้มีความสุขด้วย การเปิดสลีบซาลอน เพื่อการผ่อนคลายอย่างแท้จริงในเวลาเพียง 90 นาที ด้วยการคิดค้นท่านวดผ่อนคลายร่างกาย ศีรษะ คอ บ่า ไหล่ หลัง มือ โดยนำเทคนิคจากการทำสปาเข้ามาผสมผสานกันอย่างลงตัว

การใช้รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส แม้กระทั่งเก้าอี้นอนสระก็เป็นเก้าอี้อัตโนมัติ ใหญ่ นุ่ม สบาย นำเข้าจากต่างประเทศเพื่อเน้นให้ลูกค้าผ่อนคลายได้มากที่สุด สามารถนอนสระผมอยู่โดยไม่ขัดกับสรีระ โดยหลังจากสระเสร็จ ก็สามารถปรับนั่งเพื่อที่จะไดรผมได้ทันที โดยไม่ต้องลุกเดิน ย้ายเก้าอี้เหมือนร้านทั่วไป

“คือเป็นมุมความสุขของเรา ซึ่งเราก็อยากจะถ่ายทอด หรือส่งต่อความสุขนั้นไปสู่ลูกค้าของเราด้วย บ่อยครั้งที่ไปสระผมแล้วอยากงีบหลับสัก 20 นาที เพราะการได้สระผมแล้วนอนหลับสัก 30-40 นาที มันคือสวรรค์เลยนะ บางคนไปหาเวลางีบตามร้านนวดเท้า หรือโรงหนัง แต่มันไม่สบายเท่ากับนอนสระผม นวดผมไปด้วย ใช่ไหมล่ะ ผมก็อยากให้ที่นี่เป็นมุมแห่งความสุขความสบายของทุกๆ คน คือระหว่างสระผมทำทรีตเมนต์  1 ชม.นี่คุณหลับยาวไปได้เลย” เขากล่าวด้วยรอยยิ้ม

ศิกวัสส์ บอกว่า เขาเป็นช่างผมโดยสายเลือด เห็นคุณแม่ทำร้านทำผมมาตั้งแต่เด็กๆ หลังจากเขาเรียนจบมหาวิทยาลัย เขาก็ไปเรียนทำผมที่ วิดัล ซาซูน ที่ประเทศอังกฤษอยู่ปีกว่า เรียกว่าเรียนเต็มหลักสูตรตั้งแต่ต้นจนจบ เขายังคว้ารางวัลอันดับ 3 ของโลก ทั้งด้านทำสีผมและซอยผม จึงกลับมาเปิดร้านทำผมร้านแรกที่ซอยร่วมฤดี และมีลูกค้าแน่นร้านทุกวัน

ต่อมาเข้าก็นำเข้าสกินแคร์จากประเทศอเมริกา ซึ่งถือเป็นผลิตภัณฑ์อันดับต้นๆ ที่ใช้ในสปา ระดับ 5 ดาวเท่านั้น พร้อมทั้งเขายังเป็นผู้ที่เทรนด์สปา 5 ดาวหลายแห่งในประเทศไทย ประสบการณ์ร้านทำผมและสปากว่า 20 ปี ทำให้เขามาค้นพบจุดที่ลงตัวระหว่างสปากับร้านทำผมเข้าด้วยกัน จนเป็น MY space สำหรับเขา ร้านทำผมผสมสปาที่ผ่อนคลายหลับสบาย ณ จุดเดียว

มุมโปรดของชีวิต ความสุขครบวงจรของ ศิกวัสส์ ลือโสภณ

“ถ้าใครอยากคืนกำไรชีวิตให้ตัวท่านเอง อยากผ่อนคลายให้หายเครียด อยากหลับ พร้อมกับทำผมสวยให้เสร็จสรรพในจุดเดียว มาที่นี่ได้เลยครับ (หัวเราะ)”

เขา บอกต่อไปว่า คนส่วนใหญ่มักจะละเลยการดูแลหนังศีรษะ เพราะหนังศีรษะของคนเรานั้นก็ต้องการการบำรุงรักษาดูแลไม่แพ้กับการดูแลผิวหน้า ผิวกาย ดังนั้นการใช้ผลิตภัณฑ์เพื่อดูแลสภาพหนังศีรษะที่เหมาะสม การนวดกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตบริเวณศีรษะนั้น จะสามารถเพิ่มออกซิเจนเพื่อไปหล่อเลี้ยงเส้นผมได้มากขึ้น ช่วยลดปัญหาการหลุดร่วง เพิ่มการเจริญเติบโตของเส้นผมได้เป็นอย่างดี และชะลอความสูงวัยของเส้นผมทำให้หงอกช้าลง เพราะการดูแลหนังศีรษะที่ถูกต้องจะช่วยให้ผ่อนคลาย สมองปลอดโปร่งช่วยให้สมาธิดีขึ้น

นอกจากมีความสุขในการทำงานแบบวันสต็อปเซอร์วิสแล้ว คือบ้านที่ทำงานคือจุดเดียวไม่เสียเวลารถติดจากการเดินทาง ศิกวัสส์ยังมีความสุขกับการสะสมกรรไกรหลากหลายชนิดอีกด้วย

เขา เล่าว่า ตอนแรกๆ ก็ไม่ได้คิดว่ามันคือการสะสม เนื่องจากเป็นของที่ต้องใช้งานจริงก็เลยซื้อบ่อย เวลาไปเมืองนอกโดยเฉพาะที่ประเทศญี่ปุ่น กรรไกรมีคุณภาพดีทำมาจากเหล็กแบบที่ทำดาบซามูไร

"มันจะพอดีกับน้ำหนักมือเรา จับแล้วมันพอเหมาะพอเจาะกับมือเราพอดี ที่เมืองไทยไม่เจอที่เหมาะมือแบบนี้ เวลาเจอถูกใจจะรีบซื้อไว้ทันที ไม่ว่าจะเดินทางไปประเทศไหนทั้งเอเชีย ยุโรป หรืออเมริกา ก็มักจะมองหากรรไกร ซื้อเก็บกลับมาเสมอๆ ถ้าไม่ซื้อจะเสียดายเวลาอยากได้ขึ้นมาก็หายาก

มุมโปรดของชีวิต ความสุขครบวงจรของ ศิกวัสส์ ลือโสภณ

“แล้วพวกเหล็กดีๆ บ้านเราไม่ค่อยมี ยิ่งที่ประเทศญี่ปุ่นนี่ต้องสั่งจองล่วงหน้าหลายเดือน ด้ามหนึ่งก็ 4-5 หมื่นบาท บางด้ามเป็นแสนก็มี มันเป็นเครื่องมือในการทำมาหากินของเรา เป็นเรื่องที่ต้องลงทุน ไม่ได้เวอร์นะ ว่าทำไมต้องใช้ของแพงๆ ขนาดนั้น แต่ซื้อมาด้ามหนึ่งก็ใช้นานเป็นเกือบ 10 ปี ถ้าเราไม่ไปทำตกนะ กรรไกรถ้าทำตกนี่เสียหายมาก ห้ามตกเป็นอันขาด กรรไกรของผมต้องเก็บอย่างดี ถ้าไปไหนหลายวันก็ต้องเก็บเข้าเซฟ เพราะหลายอันนี่ก็หลายบาท (หัวเราะ) ตอนนี้มีเกือบ 20 ด้าม ด้ามแรกที่ใช้จนวันนี้ก็ยังเก็บไว้อยู่ 10 กว่าปีแล้ว” เขา กล่าวอย่างจริงจัง

ศิกวัสส์ กล่าวทิ้งท้ายว่า สถานที่แห่งความสุขของเขาก็คือร้านแห่งนี้ เพราะเป็นทุกสิ่งทุกอย่าง เป็นงาน เป็นบ้าน เป็นจุดนัดพบ เป็นจุดเริ่มต้นของความสุขและพร้อมที่จะส่งความสุขไปยังบุคคลอื่นๆ อีกต่อไปด้วย

เพราะการได้ทำงานที่รัก มันจะชื่นมื่นเติมเต็มไม่เหมือนกับไปทำงาน มันมีความสุข ความสบายใจ เหมือนไปเจอเพื่อน โชคดีที่ชีวิตออกแบบได้ตามใจฝัน จึงเป็นทุกวันที่เรามีความสุขทุกๆ วัน