posttoday

ฟิลิปปินส์ ยิ่งยลยิน ยิ่งถวิลคิดถึงเธอ

16 กันยายน 2560

ความงามจากการเดินทางนั้น บางทีก็อาจเกิดขึ้นจากการละสายตาออกจากเป้าหมายบ้าง หรือไม่ก็ลองถอยออกมามองเป้าหมายใหม่ในระยะที่ไกลกว่าเดิมนิดหนึ่ง อาจทำให้เราค้นพบและมองเห็นเป้าหมายในมุมมองใหม่ที่สวยงามแปลกตาตื่นใจมากขึ้น ที่ประเทศฟิลิปปินส์ก็เช่นกัน ถ้าอยากเห็นภาพความเป็นฟิลิปปินส์ในปัจจุบันต้องไปที่มะนิลา เพราะที่นั่นมีทุกอย่างที่จะบอกเรื่องราวของประเทศนี้ แต่ถ้าอยากเห็นสุดยอดความงามของฟิลิปปินส์ ต้องมาที่เกาะโบโฮล (Bohol) เพราะว่าที่นี่มีทุกอย่างที่เป็นความงามทางธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นท้องฟ้าคราม น้ำใส หาดทรายขาว แล้วก็ธรรมชาติเขียวชอุ่ม ใครที่รักธรรมชาติ รับรองว่าไปที่นี่มีทุกอย่างที่อยากเห็นกันเลยทีเดียว

ความงามจากการเดินทางนั้น บางทีก็อาจเกิดขึ้นจากการละสายตาออกจากเป้าหมายบ้าง หรือไม่ก็ลองถอยออกมามองเป้าหมายใหม่ในระยะที่ไกลกว่าเดิมนิดหนึ่ง อาจทำให้เราค้นพบและมองเห็นเป้าหมายในมุมมองใหม่ที่สวยงามแปลกตาตื่นใจมากขึ้น ที่ประเทศฟิลิปปินส์ก็เช่นกัน ถ้าอยากเห็นภาพความเป็นฟิลิปปินส์ในปัจจุบันต้องไปที่มะนิลา เพราะที่นั่นมีทุกอย่างที่จะบอกเรื่องราวของประเทศนี้ แต่ถ้าอยากเห็นสุดยอดความงามของฟิลิปปินส์ ต้องมาที่เกาะโบโฮล (Bohol) เพราะว่าที่นี่มีทุกอย่างที่เป็นความงามทางธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นท้องฟ้าคราม น้ำใส หาดทรายขาว แล้วก็ธรรมชาติเขียวชอุ่ม ใครที่รักธรรมชาติ รับรองว่าไปที่นี่มีทุกอย่างที่อยากเห็นกันเลยทีเดียว

ฟิลิปปินส์ ยิ่งยลยิน ยิ่งถวิลคิดถึงเธอ

เกาะ Bohol เป็นเกาะที่ขึ้นชื่อว่าค่อนข้างปลอดภัย การเดินทางไปไหนมาไหนค่อนข้างสะดวก นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาส่วนใหญ่มีเป้าหลักอยู่ 2 อย่าง หนึ่ง คือมาดู Chocolate hills และสองก็คือ มาเที่ยวทะเล เพราะนี่คือประเทศที่มีชายฝั่งทะเลรวมกันยาวเป็นอันดับ 5 ของโลก หาดทรายขึ้นชื่อที่สุดก็คือ หาด "ดูมารูอัน" (Dumaruan) เป็นหาดทรายขาวและกว้างสุด ตั้งอยู่ในเขตปังเลา (Panglao) ซึ่งเป็นเกาะเล็กๆ เชื่อมต่อกับเกาะใหญ่โบโฮล คนที่มาหาดนี้ส่วนใหญ่เป็นคนชอบบรรยากาศสบายๆ ไม่วุ่นวายมาก เพราะถ้าอยากได้บรรยากาศคึกคัก ถ้าอยากเห็นหาดที่คึกคัก แล้วก็มีชีวิตชีวามากกว่า ต้องที่หาดอโลน่า บีช (Alona beach) เพราะว่าเต็มไปด้วยโรงแรม รีสอร์ท ร้านอาหาร แล้วก็แหล่งบริการนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คนที่รักการดำน้ำ สรุปง่ายๆ ก็คือ ถ้าชอบบรรยากาศสบายๆ ควรไปที่ "ดูมารูอัน" แต่ถ้าชอบเที่ยวทะเลมันส์ๆ ก็ต้องมาที่ "อโลน่า"

แม่น้ำ ลำธาร ทุ่งนา ป่าไม้ หรือว่าหาดทรายกับท้องทะเลก็เห็นหมดแล้ว แต่มาถึง Bohol ทั้งทีจะขาดอีกที่หนึ่งไปไม่ได้ นั่นก็คือภูเขานั่นเอง เพราะภูเขาทำให้ Bohol เริ่มเป็นที่รู้จักจากนักท่องเที่ยว ในฐานะที่ตั้งของ Chocolate hills เป็น กลุ่มภูเขาทรงกรวยคว่ำสีน้ำตาล ดูเหมือนกับว่าภูเขาทั้งลูกถูกราดด้วยช็อกโกแลต เกิดจากการทับถมและผุกร่อนของแนวปะการังใต้ท้องทะเลเมื่อหลายล้านปีก่อน มีภูเขาแบบนี้อยู่ทั่วเกาะมากถึง 1,268 ลูก ส่วนใหญ่ก็จะมีความสูง 100-160 ฟุต แต่ลูกที่สูงที่สุดจะสูงถึง 400 ฟุต ช่วงหน้าร้อนจะเป็นช่วงที่สวยที่สุด ในการมาเที่ยว Chocolate hills เพราะว่าภูเขาจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล แต่ยังมีพื้นเป็นสีเขียว แล้วมีท้องฟ้าที่สีฟ้าสดมาก จึงเป็นที่มาที่เขาเรียกว่า Chocolate hills นั่นเอง แต่ถึงแม้จะไม่ใช่หน้าร้อน เราก็ยังจะเห็นความสวยงามไปอีกแบบ เพราะว่าสีเขียวของภูเขาเหล่านี้มักมอบความรู้สึกชุ่มชื่นหัวใจแก่ผู้ที่ได้พบเห็นเสมอ

ฟิลิปปินส์ ยิ่งยลยิน ยิ่งถวิลคิดถึงเธอ

ตลอดสองข้างทางของการเดินทางถ้าเราละสายตาออกจาก Chocolate hills ลงบ้าง เราก็จะมีโอกาสได้เห็นความงามอีกหลายรูปแบบที่แทรกอยู่อย่างเช่น การถอยออกมามองให้เห็นภาพกว้างๆ ของกลุ่ม Chocolate hills ที่เรียงตัวกันอย่างสวยงามมาก ยิ่งเวลาที่แสงแดดส่องลงมากระทบภูเขาด้วยแล้วยิ่งสวยกว่าเดิม หรือแม้แต่ในเวลาหลังฝน เราก็จะเห็นกลุ่มไอน้ำลอยตัวขึ้นมาจากหุบเขา ซึ่งก็สวยงามแปลกตาไปอีกแบบ ใครที่มาเที่ยวที่ Bohol หากไม่ได้เห็นภาพในมุมนี้ก็จะต้องรู้สึกเสียใจอย่างมาก

ด้วยความที่ Bohol จะมีภูเขาแบบนี้เต็มไปหมด แล้วแต่ละจุดก็มีความสวยงาม มีเอกลักษณ์แตกต่างกันไป คนที่นี่ก็เลยตั้งชื่อให้เป็น Gimmick เท่ๆ ตามสภาพที่มองเห็นอย่างเช่นเรียกว่า Three sisters hills ก็คือภูเขาสามพี่น้อง หรือภูเขา สามสาว เรียกว่า Pregnant hills หรือภูเขาตั้งครรภ์ คนที่นี่เขาบอกว่า "โน่น ไกลๆ โน่นเป็นหัวของเธอ ตรงนี้ก็เป็นหน้าอกของเธอ และตรงนี้เองที่มีเบบี๋อยู่ข้างใน" ส่วนภูเขาที่ตั้งอยู่เดี่ยวๆ เขาเรียกว่า Lonely hill หรือภูเขาเดียวดาย เป็นต้น นอกจากมองเห็นความสวยงามภายนอกแล้วหากเรานึกภาพตามและจินตนาการไปตามภูเขาแต่ละลูกก็จะมองเห็นเรื่องราว ความน่ารักๆ ซ่อนอยู่ภายในภูเขาทุกลูกเหล่านั้น ช่วยสร้างสีสันและความสนุกสนานให้กับการเดินทางไม่น้อย

ประเทศนี้นอกจากจะมีลักษณะภูมิประเทศที่สวยงาม นิสัยใจคอของผู้คนก็น่ารัก เป็นมิตรคล้ายๆ กับคนไทย อาหารการกินก็คล้ายๆ กับอาหารไทย แล้วก็มีรสชาติอร่อย การมาเที่ยวเกาะ Bohol นี้ แต่ละกิจกรรมมีความน่าสนใจมากกว่าที่คิด ดังนั้น สำหรับใครบางคนที่คิดว่าจะแบกเป้ไปเที่ยวเอง รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่ อาหารการกินมีให้เลือกหลายแบบ ถ้าอยากรับประทานซีฟู้ดอร่อยๆ ก็มีร้านอาหารใกล้ชายหาด ถ้าอยากรับประทานฟาสต์ฟู้ดแบบง่ายๆ ก็เข้าไปในเมือง ถ้าอยากลองรับประทานอาหารเหมือนคนพื้นเมืองก็มีร้านค้าอยู่ทั่วไป แต่ถ้าอยากรับประทานอาหาร พร้อมๆ กับดื่มด่ำบรรยากาศไปด้วย ก็ต้องมาที่แม่น้ำโลบ่อค (Loboc) เป็นแม่น้ำสายหลัก ซึ่งคนที่นี่ได้ใช้หล่อเลี้ยงชีวิต ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการคมนาคมทางน้ำ เรื่องของการประมง ตลอดจนการสร้างรายได้ให้คนในท้องที่จากการท่องเที่ยวได้จากการทำรีสอร์ทริมน้ำ จากกีฬาทางน้ำ หรือแม้แต่การสร้างภัตตาคารลอยน้ำไว้บริการนักท่องเที่ยวด้วยระยะเวลาประมาณ 2 ชั่วโมง กับราคาอาหาร แบบบุพเฟ่ต์ หัวละ 450 เปโซ หรือประมาณ 300 บาท เป็นราคาที่ไม่แพงจนเกินไป แถมมีดนตรีเพราะๆ มีการแสดงพื้นเมืองให้ได้ชมกันด้วย ต้องบอกว่าคุ้มมากๆ

ฟิลิปปินส์ ยิ่งยลยิน ยิ่งถวิลคิดถึงเธอ

แต่ถ้าใครล่องเรือชมบรรยากาศสองฟากฝั่งของแม่น้ำโลบ่อคแล้ว ยังรู้สึกไม่เต็มอิ่ม ก็แนะนำให้ขึ้นไปมองสัมผัสความสวยงามของธรรมชาติลงมาจากที่สูง คือ การห้อยสลิงข้ามแม่น้ำ ในแบบที่เรียกว่า ซิปไลน์ (Zipline) ซึ่งแบบนี้ก็ต้องบอกว่าสวยก็จริง แต่ก็มีความหวาดเสียวมากกว่าเหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบท้าทายความตื่นเต้นแปลกใหม่ไปสร้างความท้าทายให้กับตัวเอง

นอกจากจะมีท้องทะเล มีภูเขา มีแน่น้ำแล้ว ที่นี่ก็ยังมีถ้ำอีกด้วย แถมยังเป็นถ้ำที่มีความพิเศษคือเป็นถ้ำหินปูนที่อยู่ใต้ดินลงมาแล้วใต้สุดของถ้ำ ก็ยังมีบ่อน้ำใหญ่ๆ ชื่อว่า Hinagdanan ฮินักดานัน ถูกค้นพบโดยบังเอิญ เมื่อเจ้าของที่ทำการแผ้วถางแล้วพบกับรูขนาดใหญ่ เมื่อลองโยนหินทิ้งลงไปก็ได้ยินเสียงสะท้อนกลับขึ้นมา จึงทำบันไดไม้ไผ่ลงไป ซึ่งคำว่า ฮินักดานัน นั้นก็แปลว่า บันได นั่นเอง ถ้ำนี้ยาวประมาณ 100 เมตรเอง แต่ด้วยความสวยงามของหินงอก หินย้อย บวกกับสระน้ำในถ้ำ และแสงสว่างที่ลอดผ่านช่องแสงเล็กๆ จากด้านบน ก็เลยทำให้คนนิยมมาถ่ายรูปกัน

อย่างที่ทราบกันว่าคนฟิลิปปินส์ กินข้าวเป็นอาหารหลัก แล้วก็จะทำนากัน แต่ด้วยความที่มีการเจริญเติบโต ทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยีอยู่ไม่น้อย จึงทำให้มีภาพที่เป็นการผสมผสานระหว่างเกษตรกรรมสมัยใหม่และสมัยเก่า เช่น มีการใช้โรงสีข้าวเคลื่อนที่เป็นเครื่องจักรสมัยใหม่ แต่กลับใช้แรงงานควาย หรือว่า Carabao ในการขับเคลื่อนโรงสี ซึ่งทำให้เห็นว่าแม้เจริญเติบโตอย่างไร แต่ความเก่าและเป็นธรรมชาติก็ไม่ถูก ละเลยให้สูญเปล่า สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้สอดคล้องกลมกลืนเนียนเนื้อให้มองเห็นในวิถีประจำวันทั่วไปอย่างไม่แปลกตา

ฟิลิปปินส์ ยิ่งยลยิน ยิ่งถวิลคิดถึงเธอ

ทุกวันนี้เราอยู่ในยุคที่เรียกว่ามีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีการสื่อสารมากมายไปหมด หากว่าเราอยู่บ้านเราก็สามารถรับรู้ข้อมูลหรือสนุกสนานกับจอมือถือของเราได้อย่างเต็มที่ แต่เชื่อไหมว่าในขณะเดียวกันนั้นเอง ในใจเรากลับโหยหาสิ่งที่เรียกว่าธรรมชาติ เพราะการอยู่กับธรรมชาติทำให้รู้สึกว่าเราใจเย็น สงบและมีความสุขมากยิ่งขึ้น คนจำนวนไม่น้อยจึงอยากไปเที่ยวเวียดนามทางตอนเหนือ ไปเที่ยวลาวตอนใต้ ไปเมียนมาทางตอนใต้กัน ไปเที่ยวที่ที่เชื่อว่าจะได้สัมผัสธรรมชาติสวยงามและบริสุทธิ์ แม้ว่าการเดินทางท่องเที่ยวตามแหล่งธรรมชาติเหล่านั้นอาจไม่ใช่ที่สวยที่สุดที่เราเคยเห็น หรือไม่ใช่ที่สะดวกสบายที่สุดที่เคยไปมา แต่เป็นการเดินทางสร้างประสบการณ์โดยเราต้องเป็นผู้เดินทางเข้าไปสัมผัสและรับรู้ด้วยตัวเอง บนเส้นทางที่ไม่ได้สะดวกสบายนักนั่นแหละที่ทำให้การเดินทางครั้งนั้นมีความหมายมากขึ้น

ทีมงาน 360 องศา เชื่อว่าหากใครที่ชื่นชอบการเดินทางเช่นนี้ การจัดกระเป๋าเดินทางครั้งต่อไปจุดหมายปลายทาง คือการไปเที่ยวเกาะต่างๆ ในประเทศฟิลิปปินส์ ที่ที่ยังมีความงามตามธรรมชาติ สวยงาม และบริสุทธิ์ไม่น้อยกว่าประเทศ อื่นๆ แน่นอน

เชิญติดตามชมเรื่องราวทั้งหมดนี้ ได้ในรายการโลก 360 องศา วันเสาร์นี้ เวลา 20.55 น. ทาง ททบ. 5