posttoday

เรื่องกล้วยๆ ในการรักษาโรคกระเพาะ

19 สิงหาคม 2560

กล้วยน้ำว้า เป็นผลไม้พื้นบ้านที่หาได้ง่ายโดยทั่วไป และราคาไม่แพงมากนัก สรรพคุณโดยรวมๆ ช่วยในการลดน้ำหนัก เพราะมีวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ

โดย...โสภิตา สว่างเลิศกุล [email protected]

 กล้วยน้ำว้า เป็นผลไม้พื้นบ้านที่หาได้ง่ายโดยทั่วไป และราคาไม่แพงมากนัก สรรพคุณโดยรวมๆ ช่วยในการลดน้ำหนัก เพราะมีวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายมากกว่า 10 ชนิด เช่น โปรตีน วิตามินเอ วิตามินบี 6 วิตามินบี 12 วิตามินซี ธาตุเหล็ก ธาตุโพแทสเซียม ธาตุแมกนีเซียม โปรตีน คาร์โบไฮเดรต เป็นต้น 

 อีกทั้งยังมีงานวิจัยที่สนับสนุนว่า กล้วยน้ำว้าสุกมีน้ำตาลจากธรรมชาติ 3 ชนิด คือ ซูโครส กลูโคส และ ฟรุกโตส และมีเส้นใยอาหาร ซึ่งช่วยเพิ่มพลังงานในร่างกาย จึงทำให้การรับประทานกล้วยเพียงวันละ 2 ลูก สามารถเพิ่มพลังงานในร่างกายเท่ากับการออกกำลังกาย 90 นาทีกันเลยทีเดียว

 การกินกล้วยน้ำว้าจะให้พลังงานทันทีและอยู่ได้นาน ช่วยการดูดซึมสารอาหารในลำไส้ใหญ่ได้ดี รักษาสมดุลระบบทางเดินอาหารและเป็นยาระบายอย่างอ่อน รักษาอาการอักเสบของลำไส้ใหญ่ และโรคทางทวาร ช่วยรักษาโรคกระเพาะ ช่วยลดความดันเลือดสูงและหลอดเลือดแตกได้ ช่วยการทำงานของหัวใจและควบคุมสมดุลของน้ำในร่างกาย ช่วยแก้ปัญหาเลือดจาง

 กล้วยน้ำว้าเมื่อเทียบกับกล้วยหอมและกล้วยไข่ กล้วยน้ำว้าจะให้พลังงานมากที่สุด

 กล้วยน้ำว้าห่ามและสุกมีธาตุเหล็กในปริมาณสูง ช่วยสร้างเม็ดเลือดแดง ป้องกันโรคโลหิตจาง มีแคลเซียม ฟอสฟอรัส และวิตามินซีช่วยบำรุงกระดูก ฟัน และเหงือกให้แข็งแรง ช่วยให้ผิวพรรณดี มีเบต้าแคโรทีน ไนอาซีนและใยอาหาร ช่วยให้ระบบขับถ่ายคล่องขึ้น

 การกินกล้วยน้ำว้าสุก จะช่วยระบายท้องและสามารถรักษาโรคเลือดออกตามไรฟันในเด็กเล็กได้ ช่วยลดอาการเจ็บคอ เจ็บหน้าอกที่มีอาการไอแห้งร่วมด้วย โดยกินวันละ 4-6 ลูก แบ่งกินกี่ครั้ง ก็ได้

 กินกล้วยก่อนแปรงฟันทุกวันจะทำให้ไม่มีกลิ่นปาก และผิวพรรณดี เห็นผลได้ใน 1 สัปดาห์ กล้วยน้ำว้าดิบและห่ามมีสารแทนนิน เพกตินมีฤทธิ์ฝาดสมาน รักษา อาการท้องเสียที่ไม่รุนแรงได้ โดยกินครั้งละครึ่งผล หรือ 1 ผล อาการท้องเสียจะทุเลาลง

 สรรพคุณอื่นๆ ของกล้วยน้ำว้าสุก นอกจากเป็นอาหารและของหวาน ยาระบายสำหรับผู้ที่มีอุจจาระแข็ง หรือเป็นริดสีดวงทวารขั้นเริ่มแรก จนกระทั่งถ่ายเป็นเลือด ผลดิบเป็นยาฝาดสมาน แก้ท้องเสีย บำบัดอาการแผลในกระเพาะอาหารและอาหารไม่ย่อย หัวปลีแก้โรคโลหิตจาง ลดน้ำตาลในเลือด และแก้โรคเกี่ยวกับลำไส้

 ทั้งนี้ การกินกล้วยน้ำว้าสุกเป็นของว่างหลังอาหารเย็นช่วยแก้อาการนอนไม่หลับได้

เรื่องกล้วยๆ ในการรักษาโรคกระเพาะ

 ในเพจมูลนิธิหมอชาวบ้าน ให้ข้อมูลเรื่องกล้วยน้ำว้า รักษาโรคกระเพาะโดยเฉพาะว่า กล้วยเป็นผลไม้ที่เกิดมาเพื่อดูแลท้องไส้ ไม่ว่าท้องเสีย ท้องผูก เป็นโรคกระเพาะ

 ในวัฒนธรรมไทยใหญ่ เชื่อว่าการกินกล้วยน้ำว้าจะทำให้ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บ และให้ความฉ่ำเย็นกับที่อยู่อาศัย ดังนั้นในการสร้างบ้านเรือน หรือการแยกครอบครัวใหม่ จะต้องมีต้นกล้วยเป็นพืชมงคลที่นำไปปลูกไว้เสมอ

 การที่กล้วยเป็นยาเย็น เมื่อรู้สึกแสบร้อนในกระเพาะอาหาร ซึ่งถือเป็นการกำเริบของธาตุไฟ ให้กินกล้วยจะช่วยได้ ทั้งในแบบของการตากแห้ง ตำผงกินกับน้ำร้อน หรือคลุกกินกับน้ำผึ้ง หรือกินกล้วยสุกธรรมดาก็ได้

 มีการวิจัยโดยใช้กล้วยในการรักษาโรคกระเพาะพบว่า ได้ผลน่าพอใจ เนื่องจากกล้วยไปกระตุ้นให้ผนังกระเพาะสร้างเยื่อเมือกมากขึ้น เยื่อเมือกนี้จะปิดแผลทำให้แผลหายเร็ว ผู้ที่มีปัญหาในกระเพาะจะมีอาการดีขึ้น กระเพาะแข็งแรงขึ้นโอกาสเป็นแผลก็น้อยลง แต่ไม่ไปลดกรดอันจะไปทำลายกลไกธรรมชาติของร่างกาย จนทำให้เกิดความแปรปรวนของธาตุในร่างกาย

 ดังนั้น กล้วยจึงเป็นทั้งยารักษาและป้องกันโรคกระเพาะในเวลาเดียวกัน

 นอกจากนี้ กล้วยยังช่วยลดคลายเครียด จากการที่กรดอะมิโนทริปโทเฟนที่มีอยู่ในกล้วยเปลี่ยนเป็นซีโรโทนิน ซึ่งเป็นสารที่ช่วยให้เกิดอาการผ่อนคลายอารมณ์ผ่องใส และรู้สึกมีความสุข

 รู้กันดีว่าความเครียดเป็นปัจจัยเสริมที่ทำให้เกิดโรคกระเพาะกล้วยจึงช่วยรักษาโรคกระเพาะอย่างเป็นองค์รวมเลยทีเดียว

 สำหรับตำรับยาแก้โรคกระเพาะ ให้นำกล้วยดิบมาฝานเป็นแว่นบางๆ อบให้อุณหภูมิ 50 องศาเซลเซียส หรือตากแดดอ่อนๆ จนกว่าจะแห้ง ห้ามใช้ความร้อนสูงกว่านี้เด็ดขาด เพราะสารที่มีฤทธิ์รักษาโรคกระเพาะในกล้วยจะสูญเสียหรือหมดฤทธิ์ไป จากนั้นนำมาบดเป็นผง กินครั้งละ 1 ช้อนชา ก่อนอาหารวันละ 3 เวลา หรือจะผสมกับน้ำผึ้งด้วยก็ได้