posttoday

อภิรักษ์ ไทพัฒนกุล สุขภาพแข็งแรง เกษียณงานยังห่างไกล

19 สิงหาคม 2560

แม้จะย่างเข้าสู่วัย 74 ปีแล้ว แต่ อภิรักษ์ ไทพัฒนกุล ยังคงได้รับความไว้วางใจจากบริษัท ไทยประกันชีวิต

โดย...ฉัตรชัย ธนจินดาเลิศ

 แม้จะย่างเข้าสู่วัย 74 ปีแล้ว แต่ อภิรักษ์ ไทพัฒนกุล ยังคงได้รับความไว้วางใจจากบริษัท ไทยประกันชีวิต ให้ทำงานอยู่ในตำแหน่งกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ได้เกษียณอายุการทำงานเหมือนกับใครอื่นเขา

 อภิรักษ์ บอกว่า  ตอนนี้ยังไม่คิดที่จะหยุดทำงาน หรือเกษียณอายุ ตราบใจที่สภาพร่างกาย  สุขภาพ และสมองยังดีอยู่ ที่สำคัญนายจ้างยังพร้อมจ้างให้ทำงานต่อไปด้วย

 แต่เมื่อใดก็ตามที่ร่างกายทรุดลงหรือไม่ไหวแล้ว ก็ต้องขอหยุดการทำงานไว้แค่นี้ ดังนั้นสิ่งสำคัญสุดในตอนนี้ คือต้องทำให้สุขภาพแข็งแรงอยู่เสมอ

 “หลังจากที่ได้ทุน ก.พ. ไปเรียนด้านคณิตศาสตร์ประกันภัย ที่สหรัฐอเมริกา และเป็นคนแรกของไทยที่สอบได้คุณวุฒิระดับสูงด้านคณิตศาสตร์ประกันภัยถึง 5 เล่ม ก็กลับมาทำงานอยู่ที่กรมการประกันภัย 5 ปี จากนั้นก็ย้ายมาทำงานที่ไทยประกันชีวิตจนถึงปัจจุบันก็ 42 ปีแล้ว รวมกันอยู่ในแวดวงประกันมา 47 ปี ซึ่งทุกวันนี้ ก็ยังไม่เบื่อและยังสนุกกับการทำงานอยู่” อภิรักษ์ กล่าว

 อภิรักษ์ เล่าต่อว่า ทุกวันนี้ยังดูแลตัวเองเป็นอย่างดี ด้วยการออกกำลังกายช่วงเช้าๆ ทุกวัน หลังจากตื่นนอนเวลา 4.30 วันละครึ่งชั่วโมงขึ้นไป และถ้าเป็นวันเสาร์-อาทิตย์ หรือวันหยุด ก็เพิ่มเวลาออกกำลังกายมากขึ้นอีก

 "อย่างท่าวิดพื้นก็ทำเป็นหลักมาตั้งแต่สมัยหนุ่มๆ แล้ว จากที่เคยวิดพื้นได้สูงๆ ขึ้นสุดแขนลงสุดแขน แต่พออายุมากขึ้น ก็ปรับเป็นวิดพื้นเตี้ยๆ พอ เน้นทำนานๆ หรือไม่ก็เดินนานๆ แกว่งแขนไปด้วย ทำเป็นชั่วโมง จะได้เผาผลาญพลังงานได้ดี ทำให้เลือดหมุนเวียนดีขึ้น รู้จักเลือกออกกำลังกายให้เหมาะสมกับตัวเอง"

 ส่วนเรื่องอาหารการกินก็เน้นกินผัก ผลไม้ให้มากหน่อย “ไม่หวาน ไม่มัน ไม่เค็ม” อย่างเวลากินผักก็จะไม่ปรุงรสเลย อาศัยแบบกินกับมะเขือเทศให้มีรสเปรี้ยวช่วยบ้าง อาหารอย่างอื่นก็พยายามกินให้น้อยลง

 "อย่างปัจจุบันผมก็กินเหลือแค่ 2 มื้อ เริ่มทำมาได้ 1 ปีแล้ว แค่เช้ากับเที่ยงเท่านั้น ส่วนมื้อเย็นไม่กินและปัจจุบันก็กำลังเริ่มกินแค่มื้อเดียวแล้ว"

 ตัวเขาอ่านหนังสือเกี่ยวกับสุขภาพเยอะมาก  อภิรักษ์บอกและก็เลือกนำมาใช้กับตัวเอง ซึ่งหนังสือทุกเล่มนั้นดีหมด เพียงแต่บางเรื่องไม่สามารถปฏิบัติได้หมด ก็ต้องเลือกที่เหมาะสมกับตัวเองแล้วนำมาปฏิบัติ และตรวจเช็กสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ

 ส่วนเรื่องเกษียณหรือไม่เกษียณเมื่อใดนั้นต้องขึ้นอยู่กับตัวเองด้วย คือ ร่างกายต้องแข็งแรง ถ้าไม่แข็งแรงและยังทำงานอยู่ ตัวเองก็จะไม่มีความสุข

 "อย่างผมอ่านหนังสือของญี่ปุ่นที่มีคุณหมอเป็นคนเขียน เขาก็แนะนำว่า กินน้อยๆ สุขภาพจะดี หิวแล้วสุขภาพจะดี คุณหมอคนนั้นเขาก็กินแค่มื้อเดียว ผมก็เห็นว่าดีและทำตามบ้าง พอตอนหลังเขาออกมาอีก 1 เล่ม กินน้อยแล้วอายุยืน อ่านไป 2-3 รอบ ก็เข้าใจแนวคิดแล้ว และเริ่มกินมื้อเดียว ซึ่งทำมาได้ระยะหนึ่งแล้ว ร่างกายก็ไม่มีปัญหาอะไร

 “เพราะความหิวนี้ จะทำให้ร่างกายหลั่งสารชนิดหนึ่งออกมาเพื่อซ่อมแซมส่วนที่สึกหร่อ ทำให้หลอดเลือดดี แข็งแรง เป็นเรื่องบวกทั้งนั้น เพราะการกินน้อยนอกจากทำให้ประหยัดเงินแล้ว ยังทำให้สุขภาพดีอีกด้วย ซึ่งผมก็ต้องทำอย่างนั้น เพราะเป้าหมายผม คือ ทำให้สุขภาพดี ทำวันนี้ให้ดีที่สุด”

 ส่วนจะอยู่ได้อีกกี่ปีกี่วันไม่รู้ อภิรักษ์ บอกว่า เป็นเรื่องอนาคต ช่างมัน อยู่ได้เท่าไรก็เท่านั้น แต่วันนี้ขอให้มีสุขภาพดีและมีความสุข สนุกสนานเป็นพอ

 "ต้องคิดบวก ปล่อยวาง ไม่ต้องไปเครียดกับอะไรก็ตามที่เข้ามา  บางคนทำดี ไม่สำเร็จก็ไปเครียด ทำให้จิตใจไม่ดี ร่างกายโทรม  ต้องสั่งจิตตัวเองไม่ให้เครียด อย่างผมทำจนเคยชินแล้ว เป็นนิสัยแล้ว สามารถควบคุมตัวเองได้ ถ้าทำอะไรที่ดีงามให้กับตัวเองแล้ว คนอื่นไม่เดือดร้อน ผมก็ทำ แต่ถ้าทำแล้วคนอื่นเดือดร้อน ผมก็ไม่ทำ ทำในสิ่งที่ดีกับตัวเราเอง แล้วไม่มีคนเดือดร้อนผมก็ทำ

 “ถ้าจิตใจเราเป็นคนดีแล้ว เราก็จะไม่เครียด ถ้าคนอื่นทำเรื่องมากระทบเรา เราก็ให้อภัย เราก็จะไม่เครียด  จิตเราก็ไม่มีการโกรธแค้น ไม่โกรธ ไม่เกลียด ใครทำอะไรเรา ก็ให้อภัย ยิ่งอายุมากขึ้น ก็ทำให้นิ่ง จิตมันคุ้มครอง คุมพฤติกรรมของกายตัวเอง” อภิรักษ์ กล่าวทิ้งท้าย