posttoday

ชัตเตอร์ … กดติดชีวิตใกล้สูญพันธุ์

06 สิงหาคม 2560

ทุกครั้งเมื่อเขาลั่นชัตเตอร์ นอกจากจะได้ภาพถ่ายแล้ว ช่างภาพชื่อดังผู้นี้ยังสามารถช่วยชีวิตสัตว์โลก โดยเฉพาะสปีชีส์ที่ใกล้สูญพันธุ์ไว้

โดย...เพ็ญแข สร้อยทอง ภาพ : โจเอล ซาร์ตอเร 

ทุกครั้งเมื่อเขาลั่นชัตเตอร์ นอกจากจะได้ภาพถ่ายแล้ว ช่างภาพชื่อดังผู้นี้ยังสามารถช่วยชีวิตสัตว์โลก โดยเฉพาะสปีชีส์ที่ใกล้สูญพันธุ์ไว้ 

ตลอดเวลากว่า 20 ปีที่ผ่านมา ช่างภาพของเนชั่นแนลจีโอกราฟฟิก นักพูด นักเขียน ครู นักอนุรักษ์ชื่อ “โจเอล ซาร์ตอเร” ออกเดินทางพร้อมกล้องคู่ใจไปเก็บภาพสิ่งมีชีวิตซึ่งหลงเหลืออยู่บนโลก โดยเฉพาะสปีชีส์ที่หายากและใกล้สูญพันธุ์เพื่อรักษาพวกมันให้รอด แม้สุดท้ายแล้วบางชนิดอาจจะเหลือเพียงแค่ในภาพถ่าย!

จากตำนานที่เล่าขานกันต่อๆ มา เมื่อมีเหตุการณ์น้ำท่วมโลก โนอาห์รักษาพันธุ์สัตว์บนโลกนี้ให้รอดด้วยการนำพวกมันขึ้นเรืออาร์คของเขา โจเอล จึงเรียกภารกิจช่วยสัตว์น้อยใหญ่ทั้งหลายให้รอดของเขานี้ว่า Photo Ark

ด้วยโปรเจกต์นี้ทำให้ช่างภาพชาวเนบราสกา สหรัฐ ออกเดินทางไป 40 ประเทศทั่วโลก โจเอล ใช้เวลาทำงานกว่า 1,000 ชั่วโมง ถ่ายภาพสัตว์มากกว่า 6,000 ชนิด (สปีชีส์) ประกอบด้วยสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม 900 ชนิด สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ 600 ชนิด นก 1,800 ชนิด ปลา 700 ชนิด และสัตว์เลื้อยคลาน 1,200 ชนิด เป็นเสมือนการสร้างเรืออาร์ค (ของโนอาห์) ที่รวบรวมความหลากหลายทางชีวภาพของโลกไว้ เขาถ่ายรูปมามากกว่า 2 หมื่นรูป รวมทั้งภาพวิดีโอด้วย แต่ถึงอย่างนั้นก็มีสัตว์บางชนิดที่สูญพันธุ์ก่อนที่เขาจะไปถึง

เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ ภาพและเรื่องราวเบื้องหลังเบื้องลึกการทำงานในโปรเจกต์ Photo Ark ของ โจเอล ซาร์ตอเร โดยเฉพาะกับภารกิจตามถ่ายรูปสัตว์ชนิดที่หายากและใกล้สูญพันธุ์เต็มทีถูกนำเสนอในรูปของหนังสารคดีใช้ชื่อว่า RARE : Creatures of the Photo Ark ออกอากาศทางช่องพีบีเอส สหรัฐ

สารคดีนี้พาคนดูเดินทางไปกับโจเอล ทั้งที่เมืองจีนเพื่อพบตะพาบยักษ์แห่งแม่น้ำแยงซี ไปสเปนตามหาลิงซ์สเปน ค้นหากอริลลาครอสริเวอร์ที่แอฟริกา ไปถึงนิวซีแลนด์เพื่อถ่ายภาพโรวีหรือนกกีวีออการิโตสีน้ำตาล ฯลฯ

งานของโจเอลยากลำบาก ต้องใช้ความเพียรพยายามและอดทนอย่างมาก เขาหลงทาง ต้องซ่อนตัว หาวิธีติดตั้งเครื่องมืออุปกรณ์ต่างๆ ความผิดพลาดเกิดได้ เมื่อสัตว์ป่านึกว่าอุปกรณ์ช่างภาพเป็นของเล่น ของกิน ยิ่งเป็นสัตว์ใหญ่ ความยุ่งยากและความสนุกในการทำงานก็ใหญ่ขึ้นเช่นกัน แต่ถึงอย่างนั้นช่างภาพคนนี้ก็ชอบที่จะถ่ายสัตว์ตัวเล็กๆ ด้วย สัตว์หลายชนิดเป็นสิ่งที่เราอาจจะมองข้าม แต่ในความเป็นจริงแล้ว ทุกๆ ตัวมีผลกระทบยิ่งใหญ่ต่อระบบนิเวศ

โจเอลต้องการให้งานของเขากระตุ้นให้ผู้คนตระหนักว่า การสูญเสียมาถึงเร็ว ถ้าหากว่า เรายังคงดุ่มเดินไปเส้นทางสายปัจจุบัน การสูญเสียสัตว์แต่ละสายพันธุ์นั้นนำมาซึ่งผลกระทบต่อระบบนิเวศ รวมทั้งมนุษยชาติ เพราะฉะนั้นการช่วยรักษาแต่ละสปีชีส์ไว้จึงหมายถึง การช่วยตัวเรา รวมทั้งลูกหลานของเราด้วย

ชัตเตอร์ … กดติดชีวิตใกล้สูญพันธุ์

หลังจากเห็นภาพของเขาโจเอล คาดหวังว่า ทุกคนจะรู้สึกและเปลี่ยนหนทางในการดำรงชีวิตซึ่งมีผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของสัตว์โลก เขาต้องการดึงคนทั่วไปให้มามีส่วนร่วมในการอนุรักษ์และช่วยเหลือสัตว์เหล่านี้ ก่อนที่มันจะสายเกินไป ภาพถ่ายของเขาจึงไม่ต่างกับเป็น “เวคอัพคอลล์” สำหรับสัตว์ที่เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ 

ความพยายามของโจเอล ที่สำเร็จผลเป็นรูปธรรมอย่างเช่น ภาพถ่ายนกแก้วในอเมริกาใต้ และหมีโคอาลาในออสเตรเลียได้กระตุ้นให้รัฐบาลท้องถิ่นออกมาปกป้องสัตว์ใกล้สูญพันธุ์เหล่านี้ ในสหรัฐอเมริกาภาพถ่ายของเขาก็ช่วยให้นกกระจอกแกรสช็อปเปอร์และแมลงเสือซอลต์ครีกรอด

ถึงอย่างนั้นภารกิจของโจเอล ยังไม่จบง่ายๆ เป้าหมายของเขาคือ การถ่ายภาพสัตว์ประมาณ 1.2 หมื่นชนิด และงานนี้เขาต้องการพลังจากผู้คนทั่วโลกมาช่วย

“สัตว์คือ บทกวี พวกมันเป็นผลงานศิลปะที่งดงาม” โจเอล ซาร์ตอเร ถ่ายทอดความงดงามของสัตว์ชนิดต่างออกมาในรูปภาพ หลายภาพมีชีวิต มีอารมณ์ มีเรื่องราวอยู่ในนั้น “ผมต้องการให้คนดูแลรักษา ตกหลุมรัก และลงมือทำ” เขายังคงยืนยันว่า ความหวังยังมีอยู่

ที่ผ่านมาบุคคลทั่วไปสามารถเข้ามาสนับสนุนโครงการนี้ โดยช่วยซื้อภาพ หรือหนังสือรวมภาพของ โจเอล ซาร์ตอเร เปิดให้ รวมทั้งบริจาค หรือร่วมกันส่งสัญญาณเตือนภัยและช่วยปลุกจิตสำนึกผ่านโซเชียลมีเดียด้วยการติดแฮชแท็ก #SaveTogether

เข้าไปชมภาพอันน่าทึ่งฝีมือของ โจเอล ซาร์ตอเร ได้ที่ www.joelsartore.com/gallery/the-photo-ark/

เมื่อได้เห็นหัวใจของคุณอาจจะไหวยวบและครุ่นคิดไม่คลายว่า เราจะทำอะไรได้บ้างเพื่อช่วยสัตว์โลกเหล่านี้ให้ดำรงคงเผ่าพันธุ์คู่โลกต่อไป