posttoday

ให้ความรักด้วยหนังสือ

29 กรกฎาคม 2560

การให้นั้นมีหลายรูปแบบ ให้เงิน ให้สิ่งของ ให้เวลา หรือให้ในสิ่งที่คุ้นเคยเกี่ยวข้องกับการที่คุณทำอยู่ก็ดีไม่น้อย

โดย...อณุสรา ทองอุไร-ณัฐวดี ภิญญศิริ ภาพ : วีรวงศ์ วงศ์ปรีดี

 การให้นั้นมีหลายรูปแบบ ให้เงิน ให้สิ่งของ ให้เวลา หรือให้ในสิ่งที่คุ้นเคยเกี่ยวข้องกับการที่คุณทำอยู่ก็ดีไม่น้อย เช่น เดียวกับเขาคนนี้ นพ.พงศกร จินดาวัฒนะ Senior Director of Communication ประจำอยู่ที่ศูนย์การแพทย์ โรงพยาบาลกรุงเทพ และเจ้าของสำนักพิมพ์กรู๊ฟ พับลิชชิ่ง

 และอีกบทบาทที่สำคัญไม่แพ้กันก็คือการเป็นนักเขียนดังโดยเฉพาะแนวผีแนวผ้า เจ้าของนามปากกา พงศกร ซึ่งคุณหมอถือว่าเป็นผู้ที่มีจิตใจอาสามีกิจกรรมเพื่อการแบ่งปันอยู่เสมอ
 โดยล่าสุดเมื่อต้นเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา คุณหมอและกลุ่มนักเขียนที่สนิทกัน 2-3 คน อาทิ ปุ้ย-กิ่งฉัตร ปิยะพร ศักดิ์เกษม ได้รวมตัวกันหาหนังสือและวรรณกรรมเด็ก เพื่อไปบริจาคให้กับโรงเรียนบ้านโต๋ จ.เชียงใหม่ เดินทางขึ้นเขากว่า 50 กิโลเมตร
 การหาทุนเองส่วนหนึ่งและเชิญชวนเพื่อนๆ นักเขียนและแฟนคลับของสำนักพิมพ์ช่วยกันบริจาคหนังสือ เพื่อไปมอบให้กับห้องสมุดโรงเรียนบ้านโต๋ ซึ่งเป็นโรงเรียนบนเขา
 เริ่มจากรุ่นน้องที่รู้จักคนหนึ่ง รุ่นน้องคนนี้ก็ได้เล่าให้ นพ.พงศกร ฟังว่า ตนเคยเป็นครูสอนอยู่ที่โรงเรียนบ้านแม่โต๋ ซึ่งเป็นโรงเรียนที่รับการคัดเลือกเพื่อถ่ายทำสารคดีเรื่อง “เด็กโต๋” โดยสารคดีเรื่องนี้เป็นสารคดีที่บอกเล่าถึงการเป็นอยู่ของเด็กชาวเขาที่ไม่เคยมีโอกาสได้เห็นทะเล จนครูมีนโยบายว่า หากนักเรียนคนไหนเรียนจบ ม.3 จะให้ทุนการศึกษาไปเที่ยวชมทะเลของจริง

ให้ความรักด้วยหนังสือ

 “เพราะหนังสือที่มีลายเซ็นของนักเขียนจะมีมูลค่าเพิ่มมากขึ้น จึงเริ่มทำการประมูลเพื่อเรี่ยไรเงินส่วนนี้มาซื้อหนังสือให้กับเด็กๆ ในขณะที่อีกส่วนจะเป็นการร่วมสมทบทุนที่ได้มาจากการประกาศลงผ่านเฟซบุ๊ก ซึ่งผมได้ไล่รายชื่อหนังสือวรรณกรรมเยาวชนที่ผมเคยชอบอ่านตอนเด็กๆ แล้วโพสต์ลงไป เช่น แมงมุมขายาว ต้นส้มแสนรัก เจ้าชายน้อย  โรงงานช็อกโกแลต แฮร์รี่พอร์ตเตอร์  คนที่ผ่านมาและสนใจเขาก็จะส่งหนังสือเล่มนั้นมาให้เลยบ้าง หรือหากบางคนไม่สะดวกเขาก็จะส่งเป็นจำนวนเงินมูลค่าพอดีกับหนังสือเล่มที่ยังขาดอยู่เข้ามา จนสุดท้าย ก็ได้หนังสือครบตามที่ไล่รายชื่อเอาไว้ รวมเป็นเงินทั้งสิ้นราว 3 หมื่นกว่าบาท” คุณหมอเล่าด้วยรอยยิ้ม
 คุณหมอคิดว่าการอ่านหนังสือคือการเปิดโลกและช่วยเสริมสร้างจินตนาการให้แก่เด็กๆ และแม้ว่าเด็กอาจจะขาดแคลนไม่มีความพร้อมในด้านอื่นๆ แต่เขาอยากให้เด็กๆ มีความเท่าเทียมกันในเรื่องการอ่าน เพราะเด็กๆ ที่นี่ยังขาดอีกหลายสิ่งอย่าง
 “หากได้มาเห็นที่โรงเรียนจะเข้าใจเลยว่าทำไมการให้ด้วยใจนี้เป็นสิ่งที่สำคัญ เนื่องจากไม่มีคอมพิวเตอร์หรื่อโทรศัพท์มือถือ เด็กๆ จึงชอบเล่นกีฬาและอ่านหนังสือ แต่ทั้งนี้ ห้องสมุดที่โรงเรียนก็เล็กเหลือเกิน หนังสือที่มีอยู่ก็เป็นหนังสือแบบเรียนเก่าๆ ดังนั้นการนำเอาหนังสือวรรณกรรมสนุกๆ มาให้เด็กๆ ได้อ่านจึงเป็นการสร้างความเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ ที่มีความหมาย”
 นอกจากนี้ เด็กนักเรียนส่วนใหญ่เป็นชาวเขาบ้านอยู่ชายแดนห่างไกลเดินไปเรียนไป-กลับเกือบ 20 กิโลเมตร พ่อแม่เด็กจึงไม่อยากให้มาเรียน ครูจึงต้องสร้างเรือนนอนไว้ให้เด็กๆ ได้นอนพักแล้วกลับบ้านช่วงวันหยุด อีกทั้งเด็กส่วนใหญ่จะเรียนแค่จบ ป.6 ครูจึงสร้างแรงจูงใจด้วยการที่ใครเรียนถึง ม.3 ครูจะพาไปเที่ยวทะเล ซึ่งครูจะหาทุนมาช่วยกันเเอง ซึ่งปีหน้าคุณหมอจะนำเงินไปช่วยสมทบทุนตรงนี้เพื่อหวังให้เด็กไทยได้เรียนหนังสือมากขึ้นอีกนิด
 “ด้วยเหตุนี้เองในปีหน้าที่จะถึง ผมจึงคิดเรื่องเกี่ยวกับการสมทบทุนมาให้โรงเรียนแม่โต๋อีก เพื่อที่จะได้นำเงินในส่วนนี้มาเป็นแรงจูงใจช่วยให้เด็กๆ ได้สำเร็จการศึกษาด้วยวุฒิ ม.3 โดยการให้ทุนการศึกษาที่ว่า จะเป็นการให้เงินแก่นักเรียนที่สำเร็จการศึกษาด้วยชั้น ม.3 คนละ 1,000-1,500 บาท ซึ่งจำนวนเงินนี้จะขึ้นอยู่กับความขัดสนที่ต่างกันออกไปของเด็กแต่ละคน” คุณหมอกล่าวอย่างมุ่งมั่น
 ก่อนหน้านี้คุณหมอมีโครงการ For My Heroes ร่วมกับ ปิยะพร ศักดิ์เกษม และ กิ่งฉัตร เพื่อช่วยกันหารายได้มาช่วยเหลือทหารในสามจังหวัดภาคใต้ ตั้งแต่นั้นนายแพทย์พงศกรก็เริ่มสนใจในการทำงานด้านจิตอาสาเรื่อยมา