posttoday

อภิชาติ สัคคมรรคกุล ธรรมชาติช่วยเติมเต็มให้สุขใจ

16 กรกฎาคม 2560

อภิชาติ สัคคมรรคกุล ผู้ช่วยผู้จัดการสายงานสื่อสารและบริหารแบรนด์ธนาคารธนชาต หนุ่มใหญ่วัย 48 ปี

โดย...อณุสรา  ทองอุไร

อภิชาติ สัคคมรรคกุล ผู้ช่วยผู้จัดการสายงานสื่อสารและบริหารแบรนด์ธนาคารธนชาต หนุ่มใหญ่วัย 48 ปี ที่เริ่มสนใจในวิถีเกษตรกรรม กับชีวิตสีเขียวที่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ แม้โดยพื้นเพเขาจะเกิดและเติบโตอยู่แต่ในกรุงเทพฯ เสียเป็นส่วนใหญ่ก็ตาม แม้หน้าที่การงานจะมั่นคงดีแล้ว แต่ด้วยความที่ไม่มีบุตรธิดา วันหยุดก็เดินแต่ห้างกินข้าวดูหนัง บ่อยๆ เข้าก็เบื่อ เลยคิดว่าควรจะหากิจกรรมที่ชื่นชอบทำ ซึ่งเขาชอบปลูกต้นไม้มีความสุขที่เห็นต้นไม้เจริญงอกงามออกดอกออกผล

อีกทั้งเขาเริ่มเบื่อชีวิตและความวุ่นวายในกรุงเทพฯ เคยตั้งคำถามกับภรรยาว่าหากเกษียณจากงานแล้ว เขาทั้งคู่ยังอยากจะอยู่ในกรุงเทพฯ กันหรือไม่เมื่อเข้าสู่ปัจฉิมวัย ซึ่งเขาทั้งคู่ตอบมาอย่างไม่ลังเลว่าอยากไปอยู่ชานเมืองใกล้ชิดธรรมชาติกันมากกว่า เมื่อได้ข้อสรุปดังนั้น เมื่อ 4 ปีที่ผ่านมาเขากับภรรยาก็ขับรถตระเวนหาที่ดินย่านต่างจังหวัด มีโจทย์ว่าขับรถจากกรุงเทพฯ สัก 2 ชั่วโมงพอ อย่าให้ไกลเกินไป

อภิชาติ สัคคมรรคกุล ธรรมชาติช่วยเติมเต็มให้สุขใจ

โดยที่แรกที่เขาอยากไปปักหมุด คือแถวๆ จ.นครนายก คือไม่ไกลจากกรุงเทพฯ มีต้นไม้เยอะเป็นเมืองผลไม้ เป็นจังหวัดที่ดูอุดมสมบูรณ์และมีน้ำเยอะ ไม้แห้งแล้งเหมาะกับการทำการเกษตร พอขับรถไปตระเวนหาดูปรากฏว่าที่ราคาสูงมากราคาไร่ละ 4 แสนกว่าบาท เป็นที่ที่ต้องถมเองอีก สรุปแล้วไร่ละตกประมาณ 5 แสนกว่าบาท คิดสะระตะ แล้วเขาต้องการ 3-4 ไร่ มันเกือบ 2 ล้านบาท เกินงบที่เขาตั้งเอาไว้ เลยเบนเข็มไปหาที่ จ.เพชรบุรี แถวหนองหญ้าปล้อง ขับรถแค่ 130 กิโลเมตร เพราะคุณพ่อเป็นชาวเพชรบุรี ท่านบอกว่าลองไปหาที่เพชรบุรีดู เขาก็ได้ไปเจอที่แถวเขาย้อย

เขาบอกว่าที่เดิมเป็นสวนผสมผสาน เจ้าของเดิมปลูก กล้วย มะนาว เป็นที่แปลงใหญ่ 10 กว่าไร่ แต่มีแปลงหนึ่งที่เขาจะหลุดประกาศขาย 5 ไร่ ผ่านนายหน้า ราคาไร่ละ 3 แสนกว่าบาท เป็นที่ดินติดน้ำ อยู่ใกล้ภูเขา วิวสวยเห็นที่ปุ๊บก็ถูกใจเลย มีบ่อน้ำขุดไว้กลางที่ “ได้เจอเจ้าของที่คุยกันถูกคอ คุณลุงเห็นเราตั้งใจจริงซื้อเพื่อมาทำเกษตรและหวังจะมาอยู่ในอนาคต ท่านก็เลยขายให้จะได้เป็นเพื่อนบ้านกัน ไม่ได้จะซื้อเพื่อขายต่อหรือเก็งกำไร โชคดีที่ท่านเอ็นดูเรา เลยได้ที่แปลงนี้มา สมใจเรามากๆ ภรรยาก็ชอบ เราจะชอบคนเดียวไม่ได้ โชคดีที่ทุกอย่างลงตัว เห็นภาพตัวเองตอนเกษียณว่าเราจะไปเป็นชาวสวนจะให้ค้าขายเราก็ทำไม่เป็น ปลูกต้นไม้อยู่กับธรรมชาตินี่ล่ะเหมาะที่สุด” เขากล่าวอย่างมีความสุข

อภิชาติ สัคคมรรคกุล ธรรมชาติช่วยเติมเต็มให้สุขใจ

โดยเขาเทเงินสะสมทั้งหมดที่มีอยู่ แล้วไปกู้ธนาคารอีกก้อนหนึ่ง ถมที่ไปบ้าง หมดไปกับแปลงนี้เกือบ 2 ล้านบาท แล้วเขาก็เริ่มลงต้นไม้ แรกๆ ก็ไม่ค่อยเป็นงาน เพราะไม่เคยปลูกต้นไม้จริงจัง คุณพ่อคุณแม่ของเขาเป็นคุณครู ไม่มีใครทำเกษตรกรมาก่อน ก็ลองถูกลองผิดไปเรื่อยๆ มีเวลาไปทำสวนเองเฉพาะวันหยุด เหนื่อยแต่ก็มีความสุข เพราะรู้สึกว่าชีวิตมีเป้าหมายมากขึ้นไม่เหงาไม่เบื่อ ไม่ต้องคอยคิดว่าวันหยุดนี้จะไปไหนดี พอมีวันหยุดเราก็ไปสวนกันทันที มีเรื่องต้องทำตลอดเวลา

“แค่ตัดหญ้าที่รกๆ นี่ก็เหนื่อยแล้ว เพราะเราไปเฉพาะเสาร์อาทิตย์ ไปตัดหญ้าไว้ อ้าวอีกอาทิตย์มันเริ่มขึ้นอีกแล้ว แรกๆ เรายังไม่คล่องใช้เครื่องตัดหญ้าไม่เป็นมืองี้พองไปหมด พอเริ่มปลูกต้นไม้ หญ้าก็ขึ้นช้า เราเริ่มจากปลูกมะละกอฮอลแลนด์ ออกลูกดกดี ตอนแรกๆ เก็บลูกไม่ทันเพราะพอมะละกอมักเริ่มสุกนี่แทบจะต้องเก็บวันเว้นวันเลย แต่เราไม่ได้อยู่ทุกวันมันก็เน่าหล่นไปบ้าง โชคดีคุณลุงเจ้าของสวนเดิมท่านอยู่แถวนั้นก็ช่วยมาเป็นธุระให้ ช่วยแบ่งเบาเราไปได้เยอะ ช่วงก่อนหน้านี้ไปสวนมาแต่ละครั้งก็ได้ของติดไม้ติดมือกลับมาบ้านทุกครั้ง หลังๆ มะละกอเริ่มเยอะก็ได้เก็บมาขายคนแถวบ้าน แถวที่ทำงาน พอทำไปเริ่มรู้ว่าอะไรควรทำหรือไม่ควรทำ มีผิดเป็นครู จากไม่เป็นทำมาสัก 2 ปีก็เริ่มเก่งขึ้น เข้าที่เข้าทางมากขึ้น” เขาเล่าด้วยรอยยิ้ม

อภิชาติ สัคคมรรคกุล ธรรมชาติช่วยเติมเต็มให้สุขใจ

หลังจากนั้นเขาก็ปลูกมะนาวเพิ่ม เปิดอินเทอร์เน็ตหาข้อมูลว่าต้องปลูกอย่างไร ถึงให้ผลดี ถามลุงเจ้าของที่เอาบ้าง เรียนรู้ไปเรื่อยๆ หาข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตเป็นหลักเลย พอเริ่มจับทางถูก ก็เริ่มลงต้นไม้มากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งมะม่วง ขนุน สะเดา กล้วย มะพร้าว ปลูกผักบ้าง ผสมผสานกันไป แบบที่ในหลวง ร.9 ท่านทรงประทานสอนไว้ว่า อยากกินอะไรก็ปลูกแบบนั้น เหลือก็ขาย พอมีกินมีใช้ไม่อดนั้นคือเรื่องจริง ไปสวนทีกลับมาได้ของติดไม้ติดมือมากิน เหลือขายได้อีก เงินที่ขายผลไม้ได้ ก็เอาไว้เป็นทุนหมุนเวียนไปซื้อต้นไม้ ซื้อปุ๋ยคอก จ้างคนตัดหญ้าบ้างอะไรบ้าง

สำหรับคนที่ไม่ได้มีภาระมาก บอกเลยว่าอยู่ได้ เขามั่นใจเลยว่าชีวิตหลังเกษียณของเขาจะเป็นชีวิตที่มีความหมาย มีคุณค่าไม่น่าเบื่อ มีความสุข ไม่ลำบากอย่างแน่นอน ดีที่ตัดสินใจถูกต้อง ตอนซื้อที่ครั้งแรกเขาอายุ 44 ปี ยังพอมีกำลังวังชาที่จะเริ่มทำสวน ผ่านมา 4 ปี ทำสวนเองเป็นหลัก แรงเริ่มอยู่ตัว แม้จะหนักจะเหนื่อยแต่ก็มีความสุข ไปสวนเหมือนการไปออกกำลังกายไม่ต้องไปเข้าฟิตเนสให้เสียเงิน ได้เหงื่อโชกทุกครั้งเผาผลาญแคลอรีสุดยอด แถมยังได้ผลไม้ได้เงินติดมือกลับบ้านทุกครั้ง คิดว่าถ้าภายใน 4-5 ปีนี้ ต้นไม้จะเริ่มโตเต็มที่ออกดอกออกผลมากขึ้น

อภิชาติ สัคคมรรคกุล ธรรมชาติช่วยเติมเต็มให้สุขใจ

ถึงตอนนั้นเขาอายุ 50 ต้นๆ แน่นอนว่าแรงอาจจะตกลงไปบ้าง แต่ก็ไม่ต้องทุ่มเทลุยหนักเหมือนตอนซื้อที่ใหม่ๆ แค่เก็บดอกเก็บผลบำรุงต้นบำรุงดิน ตัดหญ้าเล็มใบไป งานจะเบาลง พอถึงเกษียณคงสบายขึ้นเพราะงานสวนเบาลง พ้นช่วงบุกเบิกไปแล้ว

“ถ้ารอใกล้ๆ เกษียณสัก 50 กว่าๆ ค่อยมาทำนี่ ผมคิดว่าช้าไปแล้ว คือจะไม่มีแรงจะจ้างคนอื่นมาทำทุกอย่างก็คงไม่คุ้ม เราทำไปของเราเองเรื่อยตอนอายุไม่เกิน 45 ผมว่ายังโอเค พอสัก 55 นี่ทุกอย่างเก็บผลได้สบายแล้ว ตอนนี้ผมปลูกกระต๊อบเล็กๆ ไว้กันแดดกันฝน คิดว่าภายใน 2 ปีจะปลูกบ้านหลังเล็กๆ เอาไว้ เผื่อไปอยู่จริงจังมากขึ้น เอาไว้อยู่หลังเกษียณเลย หลังจากใช้ชีวิตชาวสวนค่อยๆ ทำเองมา 4 ปี ผมและภรรยามีความสุขมากๆ ไม่ต้องหาเรื่องไปโน่นไปนี่เพื่อฆ่าเวลาอีกต่อไป ออกไปเดินเล่นไปกินข้าวก็เสียแต่เงิน แต่ถ้ามาสวนนี่ได้เงิน ได้ออกกำลังกาย อยู่กับธรรมชาติ มีแต่ความสุขใจสบายใจ นอกจากนั้นการลงทุนมาซื้อที่ทำสวนถือเป็นการลงทุนที่ดี ราคาที่ดินขึ้นทุกวัน ไม่ถึง 10 ปีราคาก็ขึ้นเกือบ 50 เปอร์เซ็นต์ มีแต่ได้ไม่มีเสีย แล้วทำให้ชีวิตรู้สึกมั่นคงและมีเป้าหมาย ช่วยเติมเต็มความสุขใจได้อย่างนึกไม่ถึงจริงๆ ครับ  ใครอยากจะใช้ชีวิตใกล้ชิดธรรมชาติถ้าจะเริ่มแบบผม อายุ 40 นี่ต้องเริ่มวางแผนแล้วนะครับ” เขากล่าวด้วยรอยยิ้ม

อภิชาติ สัคคมรรคกุล ธรรมชาติช่วยเติมเต็มให้สุขใจ

อภิชาติ สัคคมรรคกุล ธรรมชาติช่วยเติมเต็มให้สุขใจ

อภิชาติ สัคคมรรคกุล ธรรมชาติช่วยเติมเต็มให้สุขใจ

อภิชาติ สัคคมรรคกุล ธรรมชาติช่วยเติมเต็มให้สุขใจ