posttoday

สอนลูกให้ระวัง ภัยร้ายรอบตัว

25 มกราคม 2560

ระยะ 2-3 ปีมานี้เรามักจะได้ยินใครหลายๆ คนพูดบ่อยๆ ว่าสังคมนี้อยู่ยากขึ้นทุกวัน ได้ฟังแล้วก็รู้สึกเห็นด้วยจริงๆ

โดย...กันย์  ภาพ... คลังภาพโพสต์ทูเดย์

ระยะ 2-3 ปีมานี้เรามักจะได้ยินใครหลายๆ คนพูดบ่อยๆ ว่าสังคมนี้อยู่ยากขึ้นทุกวัน ได้ฟังแล้วก็รู้สึกเห็นด้วยจริงๆ ว่าสังคมมันอันตรายมากกว่าแต่ก่อนเยอะจริงๆ เรียกว่าต้องระวังตัวกันแจเลยทีเดียว แม้ผู้ใหญ่เองก็แทบจะเอาตัวไม่รอด แต่ลำพังผู้ใหญ่ก็ยังพอจะรู้เท่าทันกับภัยร้ายใกล้ตัวได้พอสมควร แต่กับเด็กๆ ลูกๆ หลานๆ ของเรานี่สิ เรียกว่าจะให้คลาดสายตานี่ไม่ได้เลย ทั้งภัยรถตู้ ล่อลวงเด็กไปทำมิดี
มิร้าย และภัยอีกสารพัดชนิด

นอกจากคอยป้องกันภัยแล้ว สิ่งที่พ่อแม่ญาติผู้ใหญ่ควรจะทำก็คือการสอนให้เด็กรู้แยกแยะว่าใครที่เป็นภัยและควรระวังตัวอย่างไร เพราะเราไม่สามารถตามติดใกล้ชิดลูกหลานได้ตลอดเวลาการสอนให้เขาดูแลตัวเองได้ระดับหนึ่งถือเป็นเรื่องที่ต้องทำอย่างเร่งด่วน อธิบายพูดคุยให้เหมาะกับวัยของลูก เวลาสอนควรใช้ท่าทีที่สงบแต่หนักแน่น เพื่อให้ลูกรับรู้ว่าเป็นเรื่องสำคัญที่ลูกจะต้องเรียนรู้ แต่คุณพ่อคุณแม่ต้องระวังในการสอนไม่ทำให้ลูกๆ กลัวคนแปลกหน้าจนสูญเสียความมั่นใจในตัวเองไปด้วยเช่นกัน ด้วย 12 วิธีง่ายๆ ที่สอนให้ลูกหลานได้จำไว้ใช้

1.สอนให้ลูกรู้จักชื่อจริงของตัวเอง รวมถึงชื่อพ่อแม่ อายุ เบอร์โทรศัพท์ บ้านเลขที่

2.สอนวิธีโทรศัพท์ทางไกล ผ่านโอเปอเรเตอร์แบบเรียกเก็บเงินปลายทาง เพื่อติดต่อพ่อแม่หรือญาติ ในกรณีฉุกเฉิน วิธีโทรหาตำรวจ หมายเลขฉุกเฉิน

3.สอนให้ลูกรู้ว่าผู้ร้ายมาได้ทุกรูปแบบ อาจเป็นคนที่ดูเป็นมิตร เป็นผู้หญิง หรือผู้ชายก็ได้ ถ้าเป็นเด็กเล็กๆ ให้สอนลูกให้รู้ว่า นอกจากพ่อ ญาติพี่น้องที่เคยเห็น นอกนั้นคือคนแปลกหน้า

4.ถ้าลูกต้องอยู่บ้านคนเดียว ถ้ามีคนโทรมาต้องตอบไปว่า “พ่อแม่อยู่บ้าน แต่กำลังยุ่ง มารับสายไม่ได้ หรือถ้ามีคนมาห้ามเปิดประตูให้บอกว่า “พ่อแม่กำลังยุ่งอยู่” อย่าพูดคุยกับคนแปลกหน้ายืดเยื้อ ถ้าลูกกลัวให้โทรหาคุณแม่ที่ทำงาน ตำรวจหรือเพื่อนบ้านที่ไว้ใจได้เพื่อจะได้มีคนมาที่บ้านได้ทันที และห้ามบอกกับใครไปว่าอยู่บ้านคนเดียว ไม่ว่าจะเป็นการติดต่อทางใดก็ตาม เช่น โทรศัพท์หรือข้อความในโซเชียล

5.ไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับของฟรี อย่ารับสิ่งของจากคนแปลกหน้าหรือบุคคลอื่นหากพ่อแม่ผู้ปกครองไม่อนุญาต เพราะคนร้ายมักใช้วิธีให้ขนม หรือของเล่นแก่เด็กเพื่อเข้าใกล้ ตีสนิท

6.หลีกเลี่ยงทางเปลี่ยว แม้จะเป็นทางลัดก็ตาม สอนเด็กให้หลีกเลี่ยงทางเปลี่ยว รกร้าง ลับตาคน มืด แม้เด็กจะคุ้นเคยก็ตาม

7.หากมีคนขับรถตามขณะเดินอยู่ ให้วิ่งกลับไปในทางเดิม เพราะรถจะเสียเวลาวกรถกลับ อาจทำให้เลิกติดตาม แต่ถ้ายังติดตามอยู่ให้วิ่งกลับบ้าน ไปบ้านเพื่อนบ้าน หรือไปในที่มีคนอยู่เยอะ ๆ และควรสอนให้ลูกหัดจำลักษณะของคนขับ ลักษณะของรถ และหมายเลขทะเบียนรถ

8.วิ่งกลับบ้านทันที ถ้าลูกไปเล่นบ้านเพื่อนบ้าน หรือวิ่งไปในที่มีคนเยอะๆ หากมีคนแปลกหน้าเดินเข้ามาหา หรือทำให้ลูกกลัวขณะที่ลูกกำลังอยู่คนเดียว

9.ถ้ามีผู้ใหญ่มาขอความช่วยเหลือ ให้รีบบอกพ่อแม่ ครู หรือผู้ใหญ่คนอื่นมาช่วยเหลือแทน เพราะผู้ร้ายอาจแฝงมาทำทีเป็นขอความช่วยเหลือก็ได้

10.ถ้าพลัดจากพ่อแม่ในห้างสรรพสินค้า ให้ลูกตรงไปขอความช่วยเหลือจากพนักงานขาย หรือพนักงานเก็บเงิน ที่สำคัญคุณพ่อคุณแม่อย่าทิ้งลูกให้อยู่ตามลำพังในที่สาธารณะหรือทิ้งในรถเข็นเด็ก รถเข็นซื้อของในซูเปอร์มาร์เก็ต แม้ในช่วงเวลาสั้นๆ ก็ตาม

11.ระวังรถที่มาจอดเทียบ ให้อยู่ห่างรถคนแปลกหน้าที่แล่นมาเทียบใกล้ตัว ไม่ว่ารถตู้ รถเก๋ง หรือจักรยานยนต์ แม้คนขับจะทำทีรู้จักมาก่อน และสอนให้หนีไปอยู่ในที่คนพลุกพล่าน เดินเข้าหาตำรวจ หรือเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ไปยังสถานที่ปลอดภัย

12.นัดแนะสถานที่ใช้ติดต่อ บอกวิธีให้เด็กติดต่อ พ่อแม่ผู้ปกครองได้ทุกเวลา นัดแนะจุดนัดหมายที่เด็กคุ้นเคย เช่น ร้านสะดวกซื้อ ร้านประจำแถวบ้าน ป้อมตำรวจ หรือสถานที่ปลอดภัยที่จะให้ผู้ปกครองรับเด็กได้ทันทีหากเด็กรู้สึกอยู่ในภาวะที่ไม่น่าไว้วางใจ

พยายามสอนเรื่องพวกนี้ให้เด็กเข้าใจชัดเจน เมื่อเกิดปัญหาเด็กจะได้รับมือได้ คิดถึงคำสอนที่พ่อแม่บอกไว้และใช้อย่างถูกต้อง