posttoday

อนุวัต เฟื่องทองแดง สุขสราญใจในสวนอินทรีย์

08 มกราคม 2560

คุ้นหน้าคุ้นตาเป็นอย่างดีสำหรับผู้ประกาศและผู้สื่อข่าวหนุ่มอัธยาศัยดีมีน้ำใจ "หนุ่ม" อนุวัต เฟื่องทองแดง

โดย...ชลารย์ ชล ภาพ (Primary picture) ประกฤษณ์ จันทะวงษ์

คุ้นหน้าคุ้นตาเป็นอย่างดีสำหรับผู้ประกาศและผู้สื่อข่าวหนุ่มอัธยาศัยดีมีน้ำใจ "หนุ่ม" อนุวัต เฟื่องทองแดง เกือบทุกเช้าในวันธรรมดา ตั้งแต่เวลา 07.30-09.30 น. ใครที่ติดตามทางหน้าจอช่อง 7 สี จะต้องเห็นเขาร่วมจัดรายการในสนามข่าว 7 สี โดยหนุ่มจะจัดเฉพาะวันจันทร์-พุธ หลังจากนั้นก็ต้องเดินทางออกต่างจังหวัด ไกลใกล้ไปหมด เพื่อไปถ่ายทำรายการ "อนุวัต จัดให้" ในจังหวัดต่างๆ 

กว่าจะถ่ายทำรายการเสร็จและเดินทางกลับกรุงเทพฯ ก็เป็นวันเสาร์หรือไม่ก็อาทิตย์ หลังจากนั้นต้องมานั่งทำทุกอย่างต่อ ทั้งเขียน ลงเสียง คิวภาพเองทุกอย่างให้เสร็จเพื่อเตรียมออกอากาศในเย็นวันจันทร์ อังคาร ในช่วงของข่าวภาคค่ำ นี่คืองานหลักของผู้สื่อข่าวหนุ่มขาลุย

ขณะที่งานอื่นก็มีบ้างในบางโอกาส เช่น รับเชิญเป็นคอมเมนเตเตอร์ในรายการ กิ๊กดู๋สงครามเพลง ทางช่อง 7 สี และงานพิเศษอย่างงานโฆษณาที่ตอนนี้มีโฆษณาของดีแทค เป็นต้น ทว่า มีอีกมุมหนึ่งของเขาหลายคนอาจไม่รู้ว่าไปทำอะไรที่ไหนในวันหยุด แต่เราก็รู้มาว่าอนุวัตไปทำสวน ที่คลอง 12 อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี บ้านเกิด

อนุวัต เฟื่องทองแดง  สุขสราญใจในสวนอินทรีย์

 

ชอบธรรมชาติและรักการปลูกต้นไม้

อนุวัต กล่าวว่า เขาเป็นลูกชาวนาชาวสวน เด็กบ้านนอกจากท้องไร่ท้องนา อยู่ที่ลำลูกกา คลอง 12 พื้นที่ซึ่งถือว่าอยู่ในเขตเงาของความเจริญ แต่เขาก็ยังทันการทำนา การทำสวน ปลูกผัก ทันการเกี่ยวข้าวที่พ่อแม่ทำอยู่ รวมถึงทันการขี่ควาย ซึ่งเขายังจำ "ไอ้หวัง" ควายของที่บ้านในสมัยโน้นได้ พร้อมทั้งยังจำกลิ่นอายวิถีชีวิตของสังคมชนบท และกลิ่นโคลนสาบควายที่คุ้นเคยเป็นอย่างดี

"การได้กลับมาบ้านแม้จะแค่ช่วงสั้นๆ แต่การที่ได้อยู่กับคุณแม่ อยู่กับพี่ เล่นกับหมาที่ผมเลี้ยงไว้ 4-5 ตัว และขลุกอยู่ในสวนเป็นเวลามากบ้างน้อยบ้างแต่ไม่ต่ำกว่า 3-4 ชั่วโมง ด้วยการทำโน่นทำนี่นั่น เช่น ปลูกต้นไม้ ปลูกผัก รดน้ำต้นไม้ ใส่ปุ๋ย ตัดแต่งกิ่ง พรวนดิน ต่อท่อน้ำ วางระบบน้ำในสวน ฯลฯ จึงเป็นความสุขและความอบอุ่นเหมือนเมื่อครั้งสมัยเด็ก ขาดแต่เพียงคุณพ่อเท่านั้นที่ตอนนี้ท่านไม่อยู่แล้ว"

อนุวัต เล่าต่อว่า ถึงพ่อจะไม่อยู่แล้วแต่เขาก็รู้สึกว่าพ่อยังอยู่ เพราะต้นไม้ในสวนหลายต่อหลายต้นที่ตอนนี้ผลิดอกออกผลให้เขาและครอบครัวได้กิน ไม่ว่าจะมะม่วง เงาะ มังคุด ลองกอง ส่วนใหญ่พ่อเป็นคนปลูกแทบทั้งนั้น แต่พ่อไม่ได้กินเพราะพ่อเสียไปแล้ว แต่คนที่ได้กินคือลูก กระนั้นเขาเองก็มองว่าพ่อไม่ได้ปลูกไว้เพื่อตัวเองแต่ปลูกเพื่อลูกๆ ทุกคน 

อนุวัต เฟื่องทองแดง  สุขสราญใจในสวนอินทรีย์

 

"เวลากลับบ้านที่คลอง 12 ผมจะเห็นต้นไม้ของพ่อที่พ่อปลูกไว้ ถ้าย้อนไปตอนนั้นพ่ออยากปลูกอะไรจะปลูกเลย ไม่ได้คิดว่าดินมันปลูกได้ไม่ได้ ปลูกแล้วจะรอดหรือไม่รอดแต่พ่อปลูก ลองกอง มังคุด ทุเรียน เงาะ พ่อปลูกมาหมด แต่ไม่น่าเชื่อว่าลองกองจะมีที่บ้านเรา แม้ไม่มากออกมาแค่พวงสองพวงเราก็มีความสุขแล้ว ขณะที่แม่ชอบปลูกมะม่วง กล้วย พืชผักสวนครัว และดอกไม้นานาพรรณ ซึ่งเป็นภาพที่ผมเห็นชินตาในวัยเด็ก วันนี้ถึงพ่อไม่อยู่แต่แม่ก็ยังไม่หยุดปลูกเพราะแม่มีความสุข" อนุวัต เล่าย้อนภาพสมัยที่พ่ออยู่และชอบปลูกต้นไม้

เขาเล่าต่อว่า ภาพพ่อและแม่ที่ทำสิ่งเหล่านี้ได้หล่อหลอมชีวิตและจิตใจเขามาตั้งแต่เด็ก ทำให้เขากลายเป็นคนที่ชอบธรรมชาติและรักการปลูกต้นไม้เหมือนพ่อและแม่ และทุกครั้งที่ได้อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ได้เห็นต้นไม้สีเขียวและสวนเขียวขจีจะรู้สึกสบายตาและมีความสุขเสมอ ด้วยเหตุนี้ เขาจึงหาโอกาสกลับมาบ้านเพื่อทำสิ่งที่ตัวเองชอบและมีความสุข นั่นก็คือการปลูกต้นไม้และพืชผักสวนครัวในสวนของเขาเอง

"ก่อนที่คุณพ่อเสียก็ได้ขอที่ดินท่านไว้ซึ่งท่านก็แบ่งให้ลูกๆ เท่ากันประมาณคนละ 3 งานกว่า ด้วยความที่เราชอบปลูกต้นไม้ที่ซึมซับมาจากพ่อแม่นั่นแหละ เลยกันที่ส่วนหนึ่งไว้ปลูกบ้านหลังเล็กๆ 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำในอนาคต แต่ตอนนี้ยังไม่มีปัญญาปลูกบ้านเพราะเงินยังไม่มีแต่มีปัญญาปลูกต้นไม้ก่อน (หัวเราะ) ที่นอกนั้นก็เอาไปทำสวน ปลูกหลายอย่าง ทั้งไม้ผลกินได้ พืชยืนต้น ไม้ดอก พืชผักสวนครัว ทำเป็นสวนอินทรีย์ ไม่ใช้สารเคมีทุกชนิดแต่ใช้ปุ๋ยอินทรีย์ ปุ๋ยหมัก ทุกอย่างที่ปลูกในสวนกินได้ปลอดภัยไร้สารพิษตกค้าง"

อนุวัต เฟื่องทองแดง  สุขสราญใจในสวนอินทรีย์

 

อนุวัต กล่าวว่า ทุกวันนี้แม่และพี่ชายจะเป็นคนคอยดูแลสวนเป็นหลัก เพราะเขาไม่สามารถมาดูแลได้ทุกวันเนื่องจากต้องทำงาน แต่อย่างไรก็ตาม เดือนหนึ่งเขาจะต้องมาบ้านอย่างน้อยสองครั้ง แต่ถ้าอาทิตย์ไหนว่างไม่ได้ไปไหนก็จะขับรถมาบ้านเพราะกรุงเทพฯ กับคลอง 12 ไม่ได้ไกลกันมาก

"ผมกับพี่จะช่วยกันและพยายามศึกษาหาความรู้อยู่ตลอด เช่น ดินไม่ดีก็จะหาวิธีต่างๆ แก้ไขเพื่อปรับสภาพดินให้เหมาะแก่การปลูก ซึ่งก็ได้มีการนำเอาปอเทืองซึ่งเป็นพืชในตระกูลถั่วที่นิยมปลูกสำหรับเป็นปุ๋ยและใช้เป็นอาหารวัวควายมาใช้ในการปรับสภาพดินซึ่งก็ได้ผลค่อนข้างดี ขณะที่ระบบน้ำในสวนผมใช้ระบบสปริงเกอร์" 

มีความสุขกับการแบ่งปัน 

สำหรับพืชผลในสวนที่ได้ปลูกมาเรื่อยๆ ทีละเล็กละน้อย อนุวัตบอกว่า มีหลายชนิด อาทิ กล้วย มะม่วง เงาะ ทุเรียน มังคุด ลำไย ขนุน มะยงชิด ฝรั่ง ลองกอง สะตอ มะรุม แค ถั่วฝักยาว มะละกอ มะเขือ และพืชผักสวนครัวชนิดต่างๆ อีกหลายอย่าง นอกจากหามาปลูกเองแล้วส่วนหนึ่งก็ได้รับมาจากชาวบ้านใจดีและเพื่อนๆ ให้มา

อนุวัต เฟื่องทองแดง  สุขสราญใจในสวนอินทรีย์

 

"ด้วยงานที่ทำต้องออกไปทำคอลัมน์อนุวัตจัดให้ในที่ต่างๆ ชาวบ้านรู้ว่าเราชอบปลูกต้นไม้ก็มักจะเอาต้นไม้ต้นนั้นต้นนี้ พันธุ์นั้นพันธ์นี้มาให้ปลูก เช่น ทุเรียน เงาะ มังคุด ลำไย ฝรั่ง ทีละต้นสองต้น บางทีก็สะตอ มะรุม แค มะเดื่อ เป็นต้น เราก็เอากลับมา เวลาปลูกก็จะโทรให้เด็กที่บ้านขุดหลุมให้ก่อนเพราะไม่มีเวลาขุดแต่จะไปปลูกเอง แต่ถ้ามีเวลาอันไหนขุดเองได้ก็ขุดเลย ทีนี้พอตอนกลับไปบ้านแต่ครั้งแม่ก็จะถามครั้งนี้ได้อะไรมาปลูก เหตุนี้สวนเราจึงหลากหลายไปด้วยไม้ผล ไม้ยืนต้น พืชผักสวนครัว รวมถึงไม้ดอกชนิดต่างๆ" อนุวัต กล่าว

ขณะที่ผลผลิตต่างๆ จากสวน อนุวัต บอกว่า ความสุขของเขาคือการได้แบ่งปัน ยิ่งให้ยิ่งมีความสุข ยิ่งให้ยิ่งได้กลับมาทั้งที่ไม่ได้เรียกร้องใดๆ ทุกครั้งที่เขากลับไปบ้านที่คลอง 12 จะต้องมีของกินจากในสวนทั้งผัก ผลไม้ ไปฝากเพื่อนๆ คนที่รักและคนที่อยากให้ โดยเฉพาะกับคนที่ให้พันธุ์ต่างๆ มาปลูก 

"เวลาไปบ้านเราก็จะเฟซบุ๊กไลฟ์กับเพื่อนๆ รายงานให้ทราบหน่อยเพราะอยากให้อยากแบ่งปัน วันนี้กลับบ้านมาแล้วนะทุกคน ฝรั่งที่ใครให้มาปลูกตอนนี้โตและมีลูกแล้วกลับไปจะเอาไปฝาก กล้วยก็มี มะยงชิดก็มาก มะละกอ ดอกชมจันทร์ มะเขือ ฯลฯ ที่แม่ปลูก หรือมะนาวที่พี่ชายปลูก ใครอยากได้บอกมา

พอไลฟ์สดเพื่อนๆ ก็สั่งกัน ใครๆ ก็อยากได้นี่ เพราะของกินทุกอย่างในสวนปลอดสารพิษเนื่องจากไม่ใช้สารเคมี ไม่ใช้ยาฆ่าแมลง แต่ฉีดป้องกันแมลงเราใช้น้ำชีวภาพจากสะเดา เพราะเราปลูกกินเองและอยากให้คนที่เรารักกิน นี่คือความสุขของเราที่ได้ให้และให้ของดีด้วย ทว่า ผลผลิตนอกจากกินเองและแบ่งปันคนอื่นคุณแม่ก็นำไปขาย เช่น มะยงชิด กล้วย ออกมาเยอะๆ ก็เอาไปขายความสุขของแม่ ส่วนเราก็เอาไปฝากเพื่อนๆ"

ที่คอนโดก็ปลูก

นอกจากจะปลูกต้นไม้และพืชผักในสวนแล้ว อนุวัตยังปลูกพืชที่คอนโดของตัวเองอีกด้วย โดยใช้วิธีการปลูกที่เรียกว่า ไฮโดรโปนิกส์ จากการศึกษาหาข้อมูลการปลูกในอินเทอร์เน็ต และเริ่มจากการปลูกแตงก่อนเป็นอันดับแรก ทว่าผลออกมาได้แตงที่ไม่สมประกอบ รูปทรงแปลกประหลาด ซึ่งเขาคาคว่าน่าจะเป็นแตงที่ตัดแต่งพันธุกรรม เพราะไม่เหมือนแตงทั่วไปจนหลายคนสงสัยว่ามันกินได้หรือ

"ด้วยความที่เราชอบปลูกต้นไม้อยู่แล้ว อยู่ที่ไหนก็อยากเห็นสีเขียว ดูแล้วสดชื่นสบายตาดี ที่คอนโดก็เลยต้องปลูก แต่จะปลูกใส่ดินก็คงไม่ได้เพราะไม่มีใครคอยรดน้ำให้ เพราะเราต้องออกไปทำงานที่ต่างจังหวัดประมาณ 4 วันจึงจะกลับมา ถ้าปลูกก็ดูจะทรมานเขามากไป (หัวเราะ) เลยหันไปศึกษาวิธีการปลูกที่ไม่จำเป็นต้องรดน้ำในช่วงเวลาที่ไม่อยู่ห้อง ก็คือแบบไฮโดรโปนิกส์

พอศึกษาจากอินเทอร์เน็ตและจากเพื่อนๆ ดีแล้วก็ลงมือปลูกแตงก่อนเลย แต่ปรากฏว่าได้แตงรูปทรงประหลาดมาก จนเพื่อนบางคนเวลาที่ผมเฟซบุ๊กไลฟ์ให้ดูถึงกับสงสัยว่ารูปทรงประหลาดขนาดนี้ยังกินได้หรือเปล่า เพราะมันดูไม่น่ากินจริงๆ พอชุดสองซึ่งเป็นชุดที่ปลูกในเวลานี้ ผมปลูกมะเขือเทศและแคนตาลูปรวม 2 ถัง เวลานี้มะเขือเทศขึ้นแล้วเจริญเติบโตดี ก็ต้องรอดูต่อไปว่าผลจะออกมาเป็นยังไง ก็ลุ้นๆ อยู่ว่าจะประหลาดเหมือนแตงหรือเปล่า" อนุวัต กล่าว  

ผู้สื่อข่าวอัธยาศัยดี ยอมรับว่า เขารักต้นไม้และชอบปลูกต้นไม้มาตั้งแต่เด็ก เพราะฉะนั้นทุกครั้งที่ได้เห็นต้นไม้ที่ปลูกเจริญเติบโตก็จะรู้สึกมีความสุข ส่วนอนาคตไม่ได้ต้องการชีวิตที่หรูหราอะไร แค่มีบ้านหลังเล็กๆ ในสวนอยู่ริมคลอง และได้อยู่กับแม่ ดำรงชีวิตด้วยความเรียบง่ายก็เพียงพอแล้ว