posttoday

เลี้ยงลูกให้เป็น ‘แฮปปี้ บอย’

29 มิถุนายน 2559

ชอปเปอร์-วัฏฏะ มนตรีวงศ์ เด็กชายตัวน้อยมีรอยยิ้มบนใบหน้าร่าเริงและยิ้มได้ตลอดเวลา

โดย...วราภรณ์ ภาพ : กิจจา อภิชนรจเรข

ชอปเปอร์-วัฏฏะ มนตรีวงศ์ เด็กชายตัวน้อยมีรอยยิ้มบนใบหน้าร่าเริงและยิ้มได้ตลอดเวลา คือลูกชายสุดที่รักของ กวีพันธ์ มนตรีวงศ์ วัย 38 ปี พิธีกรรายการมองรัฐสภา ทีวีรัฐสภา และพิธีกรรายการ Good Morning Thailand ช่วง People Share ทางช่องโมโน 29 ออกอากาศเวลาตีห้าถึงเจ็ดโมงเช้า วันเสาร์และอาทิตย์ ฯลฯ

ด้วยอาชีพพิธีกรอิสระทำให้กวีพันธ์รักการอ่าน ซึ่งส่งต่อผ่านไปสู่ลูกชายวัย 1 ขวบ 9 เดือนได้เป็นอย่างดี และการใส่ใจในการอ่านนิทานให้ลูกฟัง พูดคุยกับลูก พาเขาออกไปพบปะกับโลกกว้าง หัดให้เขาใช้จินตนาการ ให้ลูกเล่ากิจกรรมที่เขาทำในวันนั้นๆ ให้คุณพ่อคุณแม่ฟัง เด็กจะได้ฝึกสมาธิ และได้อยู่กับตนเอง สิ่งเหล่านี้ที่คุณพ่อพยายามเลี้ยงดูลูกอย่างใส่ใจ ทำให้น้องชอปเปอร์กลายเป็น “แฮปปี้ บอย” คือเป็นเด็กร่าเริง หัวเราะง่าย ยิ้มแย้มแจ่มใส ไม่งอแง และเป็นที่รักของบุคคลที่พบเห็น

“หลักการเลี้ยงลูกของผมไม่ได้วางแผนอะไรมาก แต่พอมีลูกเราพยายามดูแลเขาให้ดี ซึ่งผมก็พอมีประสบการณ์มาบ้างกับการเคยเลี้ยงน้องมาก่อน ตอนนี้ลูกอายุ 1 ขวบ 9 เดือนแล้ว ก่อนนอนผมมักเล่านิทานให้ลูกฟัง ก่อนมีลูกผมไม่ค่อยให้ความสำคัญกับนิทาน แต่นิทานดีช่วยส่งเสริมพัฒนาการลูกได้จริงๆ ปัจจุบันชอปเปอร์สามารถท่องการ์ตูนเรื่องพระสังข์ได้เป็นเล่ม ทำให้เรารู้ว่าหัวสมองของเด็กมีพื้นที่มหาศาลที่เขาจะจดจำอะไรได้เยอะ หากเราใส่ให้เขาอย่างเป็นธรรมชาติ เขาท่องได้หมด”

กวีพันธ์เริ่มส่งเสริมให้ลูกรักการอ่านตั้งแต่เขาอยู่ในท้อง เพราะกวีพันธ์เชื่อว่า เด็กอยู่ในท้องแม่ก็ได้ยินและรับรู้สิ่งที่พ่อแม่พยายามสื่อสารกับลูก

“ยิ่งผมเป็นผู้ประกาศข่าวยิ่งถนัดใช้เสียง ผมจึงอ่านนิทานให้ลูกฟังตั้งแต่เขาอยู่ในท้อง และทำเสียงให้น่าสนใจ ผมอ่านนิทานให้ลูกฟังตลอด ลูกก็อาจสะสมไว้ในสมอง โดยที่เราไม่คาดหวัง เขาจดจำเก่ง โดยทดสอบจากเราอ่านให้เขาฟังและลองให้เขาอ่าน เขาก็สามารถพูดได้ท่องได้ แม้พูดไม่ชัด แต่ลูกสามารถจดจำได้ คุณหมอเด็กมักบอกว่า ให้ลองหาหนังสือสักเล่มสองเล่มมาทดสอบอ่านว่าเขาชอบไหม ปรากฏลูกเป็นเด็กชอบหนังสือ หยิบให้คุณยายอ่านให้ฟัง คำพูดยากๆ อย่างคำโบราณเขาก็ออกเสียงได้ เวลาเราอ่านแล้วให้ลูกต่อคำ เขาจำได้เพราะเราอ่านให้เขาฟังบ่อยๆ” หลักการเลือกหนังสือนิทานให้ลูก กวีพันธ์มีหลักคือ เลือกแบบคละหมวด ตามหนังสือจะมีอายุของเด็กระบุอยู่แล้วจึงเป็นเรื่องง่าย และคุ้มค่ามากเหมาะกับเงินที่เสียไป

นอกจากหนังสือนิทานภาษาไทยแล้ว เขายังใช้โลกออนไลน์เปิดเพลงภาษาอังกฤษในยูทูบให้ลูกดู แต่มีการจำกัดเวลาเพียงวันละ 20 นาที วันละ 1-2 รอบเท่านั้น ปรากฏลูกเป็นเด็กที่อารมณ์ดีมากๆ สามารถร้องเต้นไปตามเพลงภาษาอังกฤษ การเอาใจใส่ลูกทุกช่วงเวลาแบบนี้จะทำให้ลูกเป็นเด็กมีความสุข 

“คุณหมอบอกว่าลูกชายจัดเป็นเด็กแฮปปี้บอย คือเขาจะร่าเริง ซึ่งหากเด็กอายุสัก 2-3 ขวบ มีบุคลิกภาพแบบไหน เขาจะเติบโตมาเป็นผู้ใหญ่แบบนั้นและกลายเป็นบุคลิกประจำตัวเขาไปเลย ซึ่งทั้งตัวภรรยากับผมไม่ใช่คนร่าเริงขนาดนั้น แต่ลูกเป็นเด็กอารมณ์ดีมาก ซึ่งเป็นเรื่องดี ผมคิดว่าเรื่องพัฒนาการของลูกสำคัญมาก หรืออาจเป็นเพราะว่างๆ เราจะพาเขาไปพบคุณปู่คุณย่าคุณตาคุณยายที่ต่างจังหวัด พาเขาไปพิพิธภัณฑ์ เขาจะได้ไม่นั่งจุ้มปุ๊กอยู่กับแต่ในบ้าน

เราต้องพาลูกไปเอาต์ดอร์บ้าง เพื่อเปิดโลกให้กับเขาก็อาจเป็นที่มาของความอารมณ์ดีของลูกก็ได้ครับ ซึ่งเรื่องบุคลิกภาพ หมอประจำตัวลูกบอกว่า ทุกคนมีบุคลิกไม่เหมือนกัน แต่ชอปเปอร์จะเป็นเด็กสบายๆ หัวเราะง่าย คือเราต้องเลี้ยงเขาแบบธรรมชาติ ใส่ใจเขา แล้วลูกจะเป็นเด็กร่าเริงอารมณ์ดี ตอนเย็นก็ให้เขาเดินเล่นพบปะผู้คน เจอใครเขาก็สวัสดี ป้าลุงข้างบ้านจะเอ็นดูชอปเปอร์มาก คือเลี้ยงลูกอย่างเป็นธรรมชาติ ปล่อยให้เขาได้ทำอะไรเอง กินข้าวเอง แม้เลอะก็ต้องปล่อย อะไรที่เขาไม่ชอบอย่ายัดเยียด ให้เขามีความสุขให้มากที่สุด ไม่จำเป็นต้องท่องหนังสือให้ได้ สนับสนุนเขาหลายๆ ทาง เช่น ทางด้านดนตรี แล้วลูกจะเป็นเด็กอารมณ์ดีได้ไม่ยากครับ”