posttoday

วสันต์/รุ่งมณี คู่ชีวิต ‘คนข่าว’ เพื่อสังคม

15 สิงหาคม 2558

ถือเป็นคู่รักคนข่าวระดับตำนานของวงการ ทว่าไม่ค่อยปรากฏภาพสวีทหวานแหววให้สาธารณะได้เห็นบ่อยนัก

โดย...ธนพล บางยี่ขัน

ถือเป็นคู่รักคนข่าวระดับตำนานของวงการ ทว่าไม่ค่อยปรากฏภาพสวีทหวานแหววให้สาธารณะได้เห็นบ่อยนัก ด้วยบทบาท สถานะ และหน้าที่การงาน ในฐานะสื่อมวลชนรุ่นใหญ่ที่พิสูจน์ฝีไม้ลายมือจนเป็นที่ยอมรับของสังคม ไม่ว่าจะเป็น วสันต์ ภัยหลีกลี้ ที่ปัจจุบันดำรงตำแหน่งสภาปฏิรูปแห่งชาติ(สปช.) สายสื่อมวลชน และ รุ่งมณี เมฆโสภณ กับบทบาทใหม่ในฐานะกรรมการนโยบายสถานี ไทยพีบีเอส

ย้อนไปหลายสิบปีก่อน จากที่ทั้งคู่เคยเจอะเจอในสนามข่าวเมื่อครั้งทำงานอยู่ที่ประเทศไทย ความสัมพันธ์ค่อยๆ ต่อยอดพัฒนา ได้เรียนรู้นิสัยใจคอกันและกันมากขึ้น  เมื่อทั้งคู่ได้ไปทำงานที่สถานีวิทยุบีบีซี ลอนดอน ประเทศอังกฤษ สุดท้ายทุกอย่างสุกงอม กลายเป็นคู่รักนักข่าวที่ใช้ชีวิตคู่ร่วมกันมานานกว่า 20 ปี ที่ทั้งคู่อธิบายว่า การอยู่ในแวดวงวิชาชีพเดียวกันทำให้เข้าใจกันมากขึ้น

วสันต์ ภัยหลีกลี้ ‘รุ่งเป็นคนที่นึกถึงประโยชน์สาธารณะ’

“รุ่งเป็นคนเก่ง จิตใจดี คุยได้ทุกเรื่อง สมัยก่อนมีโอกาสร่วมงานจริงจัง วิทยุบีบีซีที่อังกฤษ ก็ชื่นชมเขา เรื่องความรู้ความความสามารถ ช่วงนู้นทำงานลอนดอน บีบีซี ลอนดอน ภาคภาษาไทย เกิดเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ สื่อเมืองไทยถูกปิดกั้นโอกาสได้รับรู้ข่าวสารข้อมูลน้อย แต่ว่าบีบีซีภาคภาษาไทยสมัยก่อนส่งวิทยุคลื่นสั้นมาจากลอนดอน เขาโดดเด่นมากในเรื่องการทำงาน วิชาชีพ เนื่องจากมีโอกาสทำงานร่วมกัน รู้จักกันมากขึ้น จนพัฒนาความสัมพันธ์ รุ่งเป็นคนจิตใจดี แม้ปากจะไม่ค่อย... (หัวเราะ) โดยรวมเป็นคนที่นึกถึงคนอื่นนึกถึงส่วนรวม ทำอะไรก็นึกถึงประโยชน์สาธารณะของสังคม ยกเว้นบางช่วงอาจตามใจตัวเองบ้าง (หัวเราะ) แต่จิตใจดี ใจใหญ่ ใจกว้าง ทำอะไรให้คนอื่น เรามีพื้นฐานหลายอย่างใกล้เคียงกัน อยู่ในแวดวงวิชาชีพเดียวกัน หลายเรื่องพูดคุยกันได้ มีอะไรก็พูดคุยกัน

“มันมีคำพูดหนึ่งคือ โซลเมท มันไม่ใช่แค่เป็นภรรยา คู่ชีวิตธรรมดา โซลเมทมันเป็นเพื่อน เป็นเกลอ ทางด้านจิตใจ เราอาจจะดูแปลก คบหากัน ความผูกพันไม่ได้อยู่ที่ตัวกฎหมาย แต่อยู่ที่ความรู้สึก ยิ่งคบหากันยิ่งควรจะลึกซึ้งพัฒนาขึ้น ความรู้สึกก็เหมือนกับเป็นโซลเมท เพื่อนทางใจมากกว่าสามีภรรยา เมื่อรู้จักกันมากขึ้น รักกันมากขึ้น เรื่องโรแมนติกเราไม่คิดว่าเป็นเรื่องสำคัญ​เลย ไม่ได้คิดว่าโรแมนติกแล้วจะโอเค หรือไม่โอเค สิ่งสำคัญคือ เราคิดว่าเรื่องความคิดความอ่าน ตัวตนของเขาที่เราชอบ ส่วนเรื่ององค์ประกอบหรือเรื่องตัวประดับไม่ใช่สาระสำคัญ

“บางทีก็ดูเหมือนผู้ชาย แต่เขาก็จะมีภาคอาหารการกินเรื่องสวน เรื่องดนตรี ซึ่งคนเรามีหลายมิติรวมๆ กัน จริงๆ เราต้องดูว่าชีวิตคู่ต้องเป็นเรื่องของการส่งเสริม ถ้าด้วยเหตุผลนี้ จริงๆ แล้วเป็นเรื่องที่ดี การที่เราอยู่ในแวดวงหรือวิชาชีพเดียวกัน เรามีความเหมือน เข้าใจในเรื่องอีกคนมากขึ้น สามารถเสริมกันได้มาก เช่น การปรึกษาหารือบางอย่าง สมมติบางทีแลกเปลี่ยนกัน มีมุมมองแง่คิดกว้างขวางขึ้น ข้อมูลความรู้ เขาเป็นผู้รู้ ผู้เชี่ยวชาญ ก็ได้คำแนะนำ บางเรื่องเขาเขียนหนังสือ เราก็ช่วยเสริมในบางจุด เราจะดูงานละเอียด เวลาเขาเขียนหนังสือเขาจะลุยมีพล็อตเรื่องรีเสิร์ชที่น่าสนใจเขียนออกมาดี เราก็มาเสริมช่วยอ่านทวนให้นิดๆ หน่อยๆ เสริมกัน

“แม้คนอื่นจะมองว่ามีบุคลิกแตกต่างกัน แต่จริงๆแล้วก็อาจเป็นการเสริมกันมากกว่า อาจไม่ใช่สาระสำคัญสำหรับเรา เราเคารพการตัดสินใจของแต่ละฝ่าย ไม่เข้าไปยุ่งแต่พูดคุยกันได้ แลกเปลี่ยนกันได้ แต่เรื่องงานไม่ยุ่งไม่เข้าไปก้าวก่าย เราเคารพวิจารณญาณ ความคิดกันเคารพกันและกัน”

รุ่งมณี เมฆโสภณ ‘เรารักที่จะให้สังคมดีขึ้น’

“พี่วสันต์เป็นคนยิ้มสวย คนอื่นเห็นปุ๊บจะมองว่าเป็นคนดี สิ่งที่โปรเจกต์ออกมาคือ เป็นคนสุภาพ มีอัธยาศัยดีมีความละเอียดในการทำงาน มีความตั้งใจ ที่ประทับใจคือ เขาไม่ได้คิดเฉพาะชีวิตส่วนตัว ไม่ใช่เรื่องง่ายที่คนที่ชอบพอกันอยู่ในแวดวงเดียวกัน มีวิธีคิดคล้ายกัน แม้จะเติบโตกันมาคนละช่วงเวลา พอทำงานด้วยกัน ได้คุยด้วยกันได้ เราสองคนไม่มีวิธีคิดแบบซีเนียริตี้ เป็นเพื่อนกัน แลกเปลี่ยนได้เต็มที่ ไม่มีถ้าเป็นพี่พูดได้เยอะกว่า เป็นน้องต้องฟังเยอะกว่า พอแลกเปลี่ยนพูดคุยก็รู้จักกันมากขึ้น การไปอยู่เมืองนอกได้รู้จักนิสัยใจคอกันมากขึ้น พี่วสันต์มีความกล้าหาญ เมื่อเขาตัดสินใจอะไร เขาคิดอะไร เขากล้าแสดงออก ไม่มาอมไต๋ และที่สำคัญประสบการณ์ที่ผ่านมาจะเห็นว่าหลักการดี โดยเฉพาะหลักการวิชาชีพสื่อ อันนี้เป็นความภูมิใจที่คบหากัน

“สมัยอยู่ลอนดอนเราได้ดอกไอริสบ่อยมาก ได้องุ่นไร้เมล็ดเมื่อก่อนยังใหม่มาก ตอนนั้นทำงานคนละกะ พี่เข้ากะเช้า เขาเข้ากะค่ำ มีช่วงโอเวอร์แล็ปรอยต่อ เขาจะซื้อดอกไม้มาฝาก ผลไม้มาฝาก นึกถึงอะไรเล็กๆ น้อยๆ รู้ว่าเราชอบ ถ้าผ่านก็ซื้อมาฝาก ถามว่าโรแมนติกไหม ไม่ใช่โรแมนติกแบบเลี่ยน ไม่ใช่ผู้ชายมาคอยเปิดประตูให้ หิ้วของให้ เรามีความรู้สึกว่าเราไม่ต้องพึ่งพา เราจะไปสนามบินดอนเมืองก็ไม่ต้องขับรถไปส่ง เราไปตีห้า ก็ไม่ต้องตื่นตีสี่ขับรถไปส่งเราไม่ใช่ เราช่วยตัวเองได้ แต่มีการนึกถึงกัน เอื้ออาทรกัน เราไม่รู้อย่างนั้นโรแมนติกไหม แต่น่ารักอะ

“พี่จะเป็นคนบุคลิกต่างกับพี่วสันต์ พี่วสันต์จะเป็นคนสุภาพ พี่จะเป็นคนที่ออกบู๊มากกว่า คนมองไม่น่าเป็นแฟนกันได้ บุคลิกออกจะไม่ตรงกัน คนหนึ่งขาว คนหนึ่งดำ คนหนึ่งขี้โม้ โวยวาย จิ๊กโก๋กว่า มันคอนทราสต์กันเชิงบุคลิก แต่มันไม่ได้คอนทราสต์กันเชิงความคิด เรามีประสบการณ์ร่วมกันในแง่ทางวิชาชีพด้วยกัน เราจะเข้าใจว่าคนทำงานอาชีพนี้จะมีกระบวนการความคิดอย่างไร มีเวลาการทำงานอย่างไร ถ้าคนหนึ่งมีภารกิจ ก็ไม่ได้หมายความว่าเธอจะต้องมาทำเพื่อฉัน ทั้งที่เขามีงาน ดังนั้นไม่ใช่ต้องมานั่งงอนกัน แต่ถ้าสมมติคนละวิชาชีพ อาจไม่เข้าใจ รากฐานนี้สำคัญ เราอยู่ในวิชาชีพเดียวกัน เข้าใจกระบวนการทำงานและความคิด เรารักธรรมชาติเหมือนกัน รักวิชาชีพนี้เหมือนกันเรารักที่จะทำให้สังคมดีขึ้นเหมือนๆ กัน และไม่ได้ทำเพื่อตัวเองหรือคิดอะไรหรูๆ หรือพูดสวยๆ แต่เราลงมือทำ

“พี่วสันต์เป็นคนตั้งใจ มีศรัทธาในวิชาชีพ เป็นลูกศิษย์​ของคุณสุภา ศิริมานนท์ ซึ่งเป็นนักวิชาชีพสื่อรุ่นโบราณ​เหมือนไอดอล ทำอะไรทำจริงมุ่งมั่น เป็นคนไม่วอกแวก และไม่เหมือนคนไทยทั่วไป ที่ตกเย็นต้องกินเหล้า สรวลเสเฮฮา รักเพื่อนมากกว่ารักเมีย ​พี่โชคดี ที่เขาไม่ใช่ แต่ไม่ใช่เขาไม่มีเพื่อน แต่เขาจัดสมดุลระหว่างครอบครัวกับเพื่อนเป็นไปอย่างเหมาะสม เพื่อนก็ไม่เสียเพื่่อน แต่ก็ไม่ใช่หายไปกับเพื่อน”