posttoday

วี & เฮง โปรดเรียกเราว่า...พรหมลิขิต

20 ตุลาคม 2556

ถ้าถามว่าบนโลกใบนี้จะมีสักกี่คนที่มีชีวิตผูกพันกับแมว เลี้ยงแมวจนแมวลาจากโลกนี้ไป

โดย...ตุลย์ จตุรภัทร ภาพ กิจจา อภิชนรจเรข

ถ้าถามว่าบนโลกใบนี้จะมีสักกี่คนที่มีชีวิตผูกพันกับแมว เลี้ยงแมวจนแมวลาจากโลกนี้ไป ทำใจได้ไม่นานก็ต้องมีเหตุให้ได้โคจรมาพบเจอแมวตัวใหม่ ดั่งพรหมลิขิตที่ขีดให้ชีวิตต้องมีแมวอยู่ร่ำไป หาก “วี-อโณทัย องกิตติกุล” นักวาดภาพประกอบและกราฟฟิกดีไซเนอร์ เจ้าของหนังสือขายดีอย่าง “จับแมวสองมือ Cat me if you can” (ที่ทั้งวาดเองเขียนเอง) คือหนึ่งในนั้น เรื่องราวต่อจากนี้ไปคงทำให้คนรักแมวอ่านไปอมยิ้มไปอยู่มิใช่น้อย

“ก่อนหน้านี้ วีเลี้ยงแมวอยู่ตัวหนึ่ง ชื่อกุ๊งกิ๊ง พอกุ๊งกิ๊งตายไป ก็คิดว่าจะไม่เลี้ยงแมวอีก แต่แล้วก็มีแมวของเพื่อนบ้านโผล่มา เพียงเพราะว่าเขาเลี้ยงไม่ไหว วีก็เลยต้องรับเลี้ยง มีจำนวน 3 ตัว เลี้ยงไปเลี้ยงมาก็ตายไปตัวหนึ่ง ผ่านพ้นไปเพียงเดือนเดียว วีก็เจอเจ้าเฮง สุนัขพันทาง เพศผู้นี่แหละ ซึ่งก็เฮงสมชื่อ”

ที่เฮงสมชื่อ นั่นเป็นเพราะว่าสาววีเธอไปเก็บมาได้ตรงถนนหน้าห้างน้อมจิตร ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเดอะมอลล์ บางกะปิ ทำให้เจ้าเฮงอยู่รอดปลอดภัยมาได้จนถึงทุกวันนี้

วี & เฮง โปรดเรียกเราว่า...พรหมลิขิต

 

“วันนั้นเป็นช่วงเช้า ฝนตก รถติด พอดีว่าน้องสาวของวีไปเจอเจ้าเฮงที่ป้ายรถเมล์ตรงหน้าห้างน้อมจิตร แต่ไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะต้องขึ้นรถเมล์ไปทำธุระ น้องเลยโทรมาบอกตำแหน่งว่าเจ้าเฮงอยู่ตรงไหน วีก็รีบขับรถออกไปดู แล้วก็เจอนอนคุดคู้อยู่ท่ามกลางฝน วีเห็นตัวมันเขรอะมาก เราก็รีบหยิบมันแล้วพาไปหาหมอ พอหมอจับถ่ายพยาธิเสร็จวีก็พามาที่บ้าน ซึ่งที่บ้านมีแมวอยู่แล้ว 2 ตัว พอตัวนี้เข้าไป กลายเป็นโดนแมวเก่าเขม่น วีเลยแยกเจ้าเฮงออกไป พอล้างเนื้อล้างตัวเสร็จ วีก็เอาอาหารกระป๋องเหลวๆ ให้มันกิน ซึ่งมันกินทั้งกระป๋อง สงสัยคงหิวมาก พอมันอึมา อึเต็มไปด้วยพยาธิทั้งนั้น (หัวเราะ)”

หลังจากนั้นสาววีก็ได้พาเจ้าเฮงไปโรงพยาบาลทุกอาทิตย์ ดูแลอย่างดี เพราะยังเป็นแมวเด็กอยู่ ไหนจะคอยเก็บกระบะขี้เยี่ยวตอนเช้า เวลาเลี้ยงก็จิตตก เพราะกลัวว่ามันจะเป็นอะไรไป แค่จามก็จิตตก ต้องกระวีกระวาดพาไปหาหมอ จนแม่หรือน้องต้องเตือนว่ามันก็แค่จาม

“ที่ตั้งชื่อมันว่าเฮง เพราะมันเฮงที่รอดตายมาได้ ตอนแรกจะตั้งชื่อว่าน้อมจิตร เพราะเจอที่หน้าห้างน้อมจิตร แต่แม่บอกให้ตั้งชื่อนี้ ก็เลยตามใจแม่ (หัวเราะ)”

วี & เฮง โปรดเรียกเราว่า...พรหมลิขิต

 

สาววีเชื่อว่าการที่เธอได้โคจรมาเจอกับเจ้าเฮง นี่คือพรหมลิขิตอย่างไม่ต้องสงสัย “ยังไงก็ขอบคุณพรหมลิขิตละกันค่ะ ที่ทำให้วีได้เจอเฮง ให้เราได้ดูแลเขา เหมือนเขารอเราอยู่ตรงกลางถนนเพื่อให้เราได้พบเจอ”

พอถามถึงวีรกรรม สาววีเธอถึงกับหัวเราะ แล้วบอกกับเราว่า เจ้าตัวนี้มีเพียบ “พอเขาโตขึ้นมาหน่อย เขาเริ่มไม่กลัว เริ่มกลายร่างเป็นนก ชอบเกาะตามตัว แถมยังซนเหมือนลิง ชอบวิ่งไปวิ่งมา วิ่งจนขาแพลง สงสัยวิ่งเล่นเยอะไปหน่อย พอรักษาเสร็จก็นอนเป็นแมวหงอยอยู่สองวัน (หัวเราะ)”

เคยมีคนบอกว่า ดูแมวให้ดูเจ้าของ สาววีบอกว่าเห็นท่าจะจริง เพราะเฮงกับเธอมีส่วนคล้ายกันคือ ถ้าไม่รู้จักใครก็จะเฉยไว้ก่อน “เวลาที่เราไม่สนิทกับใครก็จะดูเหมือนหยิ่งๆ แต่พอสนิทกันแล้วก็คุยกันได้สบายมาก”

ทุกวันนี้สาววีมักจะพกขนมแมวไว้ในกระเป๋าตลอด เวลาไปไหนเจอแมวตามรายทางเธอก็จะให้ขนมแมวกินได้ทันที “วีเป็นคนที่ไวต่อเสียงแมวด้วยค่ะ เคยได้ยินเสียงแมวในพุ่มไม้รีบหาใหญ่เลยแต่หาไม่เจอ ถ้าเจอคงอุ้มเอากลับบ้านมาแล้ว (หัวเราะ)”

วี & เฮง โปรดเรียกเราว่า...พรหมลิขิต

 

สาววีเปรยว่า เธอเคยคิดอยากเลี้ยงแมวพันธุ์สวยๆ ขนนุ่มๆ ขาวๆ ตัวกลมๆ แต่เธอก็มักจะถูกน้องสาวดักคออยู่เป็นประจำ “น้องสาวจะคอยบอกว่าเอาแมวพันทางให้รอดก่อนเถอะ เลี้ยงให้ดีที่สุดดีกว่า”

เคล็ดลับการเลี้ยงแมวพันทางของสาววี

1.เวลาแมวป่วย อย่าให้แมวกินยาพาราเซตามอล เพราะแมวจะหน้าบวม บางครั้งอาจถึงตายได้ “เวลาแมวเป็นอะไร ควรพาไปหาหมอดีที่สุดค่ะ”

2.เลี้ยงแมว ต้องให้แมวกินปลาดีที่สุด “วีคิดว่าแมวไม่กินปลา มันจะเป็นแมวได้ยังไง ปลาที่เหมาะน่าจะเป็นปลาโอและปลาทูสดที่นึ่งกันแบบสดๆ ไม่ควรปล่อยให้ค้างคืน”