posttoday

ณัฐพล รัตนิพนธ์ ไอที...ไม่ใช้ก็ไม่รู้จัก

26 กรกฎาคม 2555

บอล-ณัฐพล รัตนิพนธ์ หนุ่มผิวแทน วัย 31 ปี ซึ่งหลายคนอาจคุ้นหน้าคุ้นตาจากการทำหน้าที่เป็นพิธีกรรายการโทรทัศน์หลายต่อหลายรายการ อาทิ รายการ “เพลินเมือง”

โดย...พุสดี สิริวัชระเมตตา / ภาพ : ทวีชัย ธวัชปกรณ์

บอล-ณัฐพล รัตนิพนธ์ หนุ่มผิวแทน วัย 31 ปี ซึ่งหลายคนอาจคุ้นหน้าคุ้นตาจากการทำหน้าที่เป็นพิธีกรรายการโทรทัศน์หลายต่อหลายรายการ อาทิ รายการ “เพลินเมือง” ออกอากาศทางช่อง 5 รายการ “บ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย” ออกอากาศช่องไทยพีบีเอส รายการ “Young MEA Dee Mission” ออกอากาศทางช่องเอ็นบีที และรายการ “TV Guide” ออกอากาศทางช่อง 5 ด้วยลุคภายนอกอาจไม่ต่างจากเด็กหนุ่มวัยรุ่นทั่วไปที่รักในวงการมายา เลยขอใช้หน้าตา (ที่จัดว่าน่ามอง) เป็นใบเบิกทางเข้ามาโลดแล่นในวงการบันเทิง แต่ทว่าเส้นทางความฝันนี้ก็ไม่ได้เป็นเส้นตรงตลอดทาง หรืออย่างน้อยแม้จะไม่ลดเลี้ยวมาก แต่เมื่อเดินไปเรื่อยๆ ก็จะพบว่าความแม่นยำในเส้นทางอย่างเดียวอาจไม่พอ แต่ต้องอาศัย “โอกาส” และ “ดวง” เป็นองค์ประกอบ

บอลย้อนวันวานถึงจุดเริ่มต้นที่ทำให้ทุกวันนี้เขาได้ก้าวขึ้นมาเป็นพิธีกรถึง 4 รายการ ว่า จริงๆ แล้วเขาเริ่มต้นจากการเป็นนักแสดง และไม่เคยวาดภาพตัวเองว่าจะมาเป็นพิธีกรเลยด้วยซ้ำ แต่พอมาทำจริงๆ ก็ได้รับการตอบรับค่อนข้างดี ฐานะพิธีกรเลือดใหม่ เริ่มมีคนติดต่อไปเป็นพิธีกรตามงานอีเวนต์บ้าง

“ผมเข้าวงการมาตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย เริ่มจากการเป็นตัวประกอบ เดินไปเดินมาจนผู้กำกับเห็นว่า เออ...เด็กคนนี้น่ารักดี เลยให้โอกาสมาเล่นละคร จนถึงวันนี้ก็เล่นมาเกือบ 10 เรื่องแล้ว ผลงานเรื่องล่าสุดคือเจ้าหญิงหลงยุค ทางช่อง 7 ก่อนหน้านี้ก็มีเล่นละครประกบนักแสดงมากฝีมืออีกหลายเรื่อง อาทิ บ้านทรายทอง นางโชว์ อุบัติรักเกาะสวรรค พลังรัก ผ่าโลกบันเทิง และภาพยนตร์เทเลมูฟวีเรื่องเทพธิดาบ้านทุ่ง แต่ทุกเรื่องก็จะวนเวียนอยู่กับตัวพระเอกนางเอก แต่ไม่เป็นพระเอกเองซะที (หัวเราะ)”

ณัฐพล รัตนิพนธ์ ไอที...ไม่ใช้ก็ไม่รู้จัก

 

จากชีวิตที่มีแต่การถ่ายละคร วันหนึ่งชีวิตก็มาถึงจุดเปลี่ยน เมื่อวันหนึ่งหนุ่มบอลต้องจับพลัดจับผลูไปเป็นพิธีกรงานอีเวนต์หนึ่งแทนพิธีกรตัวจริงที่เกิดไม่มา งานนี้ก็เล่นเอาหนุ่มบอลคิดหนัก เพราะเจ้าตัวไม่เคยคิดว่าจะไปจับไมค์พูดต่อหน้าผู้คน แต่พอได้ทำจริงๆ ก็รู้สึกว่าสนุกดี ได้เป็นตัวของตัวเอง ต่างจากการเล่นละครไปอีกแบบ ซึ่งจากจุดเริ่มต้นวันนั้นกลายเป็นความโชคดี ทำให้มีคนเริ่มมาทาบทามไปเป็นพิธีกรรายการโทรทัศน์

ยิ่งกว่านั้นหนุ่มบอลยังบอกว่า นอกจากความสนุกของการเป็นพิธีกรที่ว่ามาแล้ว ด้วยความที่มีโอกาสเป็นพิธีกรในรายการที่มีความหลากหลายแตกต่างกัน ทำให้บอลได้เรียนรู้ตัวเองอีกบทเรียนว่า จริงๆ แล้วตัวเองมีหลายคาแรกเตอร์แตกต่างกันไปตามรายการที่ทำ ซึ่งบางรายการต้องสุขุม บางรายการต้องโชว์ความเป็นพี่ของเด็ก เป็นเพื่อนของผู้ชม

แต่ถ้าจะให้เลือกว่าชอบบทบาทไหนมากกว่ากันนั้น หนุ่มบอลบอกว่าชอบทั้งสองอย่าง เพราะขณะที่การถ่ายรายการมีความสนุกที่ได้เป็นตัวของตัวเอง ได้เจอผู้คน ไปยังสถานที่แปลกๆ แต่การเล่นละครก็มีความท้าทายว่าเราจะต้องเป็นคนที่เราสวมบทบาทไปตลอดจนจบเรื่อง

นอกจากจะโชว์ฝีมือทั้งการเป็นนักแสดงและพิธีกรแล้ว เชื่อหรือไม่ว่าหนุ่มหน้าใสคนนี้เคยเกือบจะได้มีอัลบั้มเป็นของตัวเอง แต่ทว่าด้วยเหตุผลบางประการ ทำให้ต้นสังกัดพับโปรเจกต์นี้ไป

ทว่าหนุ่มมากความสามารถคนนี้ ก็ยังไม่วายขอโชว์ความสามารถรอบด้านที่มีอยู่เต็มตัวออกมา ทั้งการเป็นครูสอนเต้นและสอนด้านการแสดงให้กับบริษัท สปีดวันฯ โดยเน้นถ่ายทอดจากประสบการณ์ตรงล้วนๆ มาสอน นอกจากนี้ ควบคู่ไปกับงานในวงการ หนุ่มบอลยังขอสานฝันในวัยเด็กด้วยการทำธุรกิจส่วนตัว ทำแบรนด์ครีมบำรุงผิวภายใต้ชื่อแบรนด์ บานารา (Banara) ออกจำหน่าย พร้อมตั้งความหวังว่าสักวันจะเปิดร้านอาหารของตัวเอง

ณัฐพล รัตนิพนธ์ ไอที...ไม่ใช้ก็ไม่รู้จัก

 

ส่วนเรื่องไอทีนั้น ด้วยความที่เป็นหนุ่มรุ่นใหม่ หนุ่มบอลบอกว่าไอทีเป็นเรื่องที่ไม่อาจมองข้าม ตอนนี้เลยเปิดรับหมด มีแกดเจ็ตอะไรใหม่ๆ ก็ซื้อมาลองใช้ เพราะโดยส่วนตัวเชื่อว่าถ้าอยากรู้ อยากใช้เป็น ต้องซื้อมาทดลองใช้ ไม่เช่นนั้นก็จะตามไอทีไม่ทัน เพราะถ้ามีแกดเจ็ตล้ำอยู่ในมือก็จะเหมือนเป็นการบังคับตัวเองกลายๆ ให้ต้องหัดใช้หัดเล่น ซึ่งอุปกรณ์ไอทีสมัยนี้ก็ช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้นมาก โดยเฉพาะไอแพด ไอโฟน ที่มีติดกระเป๋าแล้ว แทบจะลืมคอมพิวเตอร์พีซีที่บ้านไปเลย


5 ชิ้นคู่ใจ

1.ไอแพด โหลดหนังไว้ดูเยอะมาก เวลาที่ต้องเสียไปกับการเดินทาง ไปถ่ายทำรายการยังสถานที่ต่างๆ เลยเป็นเวลาทองของความบันเทิง

2.เครื่องเล่นเกมพีเอสพี ชอบเล่นเกม เลยซื้อมาติดตัว ที่สำคัญเกมจะมีความโลดโผนมากกว่าเกมที่โหลดมาในไอแพด

3.กล้องดิจิตอล เป็นคนชอบถ่ายรูป เวลาถ่ายเสร็จจะเอารูปมาเข้าไอแพด เพื่อแต่งรูปให้สวย

4.ไอโฟนและแบล็คเบอร์รี่ ยังตัดใจไม่ลง ต้องใช้สองเครื่อง เพราะดีกันคนละอย่าง อย่างไอโฟนก็หน้าจอใหญ่ ส่วนบีบีทิ้งไม่ได้เพราะพิมพ์ง่าย คุยแชตสะดวก

5.ไอพอดนาโน เป็นคนชอบร้องเพลงมากเลยชอบฟังเพลง ส่วนใหญ่จะติดตัวเวลาไปเล่นฟิตเนส ฟังไปออกกำลังกายไป ช่วยให้ผ่อนคลาย

&<2288;