ใช้เทคโนโลยีอย่างชาญฉลาดแบบ อัครพล ลีลาจินดามัย

นักการเมืองหนุ่มวัย 30 ปี อัครพลลีลาจินดามัย นอกจากรั้งตำแหน่งผู้ช่วยเลขานุการ รมว.พาณิชย์

ดูแล3 ภาคส่วน ได้แก่ กรมทรัพย์สินทางปัญญากรมพัฒนาเศรษฐกิจการค้า และกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เขายังเป็นหนึ่งในทีมงานพัฒนาเศรษฐกิจของพรรคประชาธิปัตย์ ทำงานจนล้นมือ และด้วยเป็นคนรุ่นใหม่ที่ชอบความทันสมัย ชอบที่จะอัพเดตเทคโนโลยีที่ทันสมัยอีกทั้งยังเลือกเทคโนโลยีมาใช้ประโยชน์ต่องาน อาทิ iPhone 4, BlackBerry, iPad, Samsung Galaxy และ Macbook เนื่องด้วยเทคโนโลยีแต่ละชิ้นมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน ทั้งรับส่ง Mail เล่น Facebook จดตารางการทำงาน การค้นหาข้อมูล ติดตามข่าวสาร ถ่ายรูป หรือการบันทึกภาพ และอัดเสียงเวลาประชุม เป็นต้น

ผู้ช่วยเลขานุการ รมว.พาณิชย์ ดีกรีศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาเศรษฐศาสตร์การเมือง คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อัครพลก้าวสู่ถนนการเมืองตั้งแต่7 ปีที่แล้ว ในนามพรรคประชาธิปัตย์ ช่วยงานคณะทำงานด้านเศรษฐกิจของพรรคประชาธิปัตย์ และที่ศูนย์วิเคราะห์วิจัยการเมืองและเศรษฐกิจ เมื่อพรรคประชาธิปัตย์ได้จัดตั้งรัฐบาล ท่านนายกรัฐมนตรีจึงมอบหมายให้เขามาช่วยงานที่กระทรวงพาณิชย์

“ผมเลือกอัพเดตข้อมูลเทคโนโลยีต่างๆ ผ่านทาง www.smartmobile.com รวมทั้งดูเว็บไซต์ข่าวต่างประเทศ ข่าวไทย ด้วยหน้าที่การงานผมจึงต้องดูข้อมูลด้านเศรษฐกิจ ความเป็นไปทุกอย่าง ข้อมูลด้านเศรษฐกิจเปลี่ยนแปลงเร็ว และมักส่งผลต่อการตัดสินใจนโยบายของรัฐบาล เช่น ปาล์มน้ำมัน ผมยังได้รับมอบหมายจากท่านอลงกรณ์ให้ดูแลงานด้านทรัพย์สินทางปัญญา ดูแลโครงการเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ซึ่งท่านอลงกรณ์อยากพัฒนากรมนี้ไปสู่องค์ความรู้ส่งเสริมเอสเอ็มอี ส่วนกรมพัฒนาเศรษฐกิจการค้า มีบทบาทสำคัญในการทำสัญญาระหว่างประเทศในด้านการค้า เช่น เอฟทีเอ ช่วยเจรจาสานความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับกัมพูชา เป็นต้น คือผมจะมีหน้าที่สนับสนุนงานรัฐมนตรีทั้งกลั่นกรองเอกสาร ดังนั้นข้อมูลเราจึงต้องฉับไวต่อข้อมูลค่อนข้างมาก ดังนั้นการอัพเดตข้อมูลข่าวสารจึงจำเป็น”

อัครพล ยังมีวิสัยทัศน์ว่า คนมักมองว่าไอทีเป็นเทคโนโลยีสมัยใหม่เหมาะกับคนรุ่นใหม่ ตรงจุดนี้ทำให้คนรุ่นใหม่แตกต่างจากคนรุ่นเก่า คนที่รู้จักใช้เทคโนโลยีทำให้รู้ข้อมูลได้เร็วและกว้างขึ้น ยิ่งเราเข้าไปสัมผัสมากขึ้น เราก็จะยิ่งสามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูลได้มากกว่าคนอื่น “การทำงานเศรษฐกิจ การตัดสินใจนโยบาย ยิ่งรับรู้ได้มากที่สุดก็ได้เปรียบ คนรุ่นใหม่ที่มีโอกาสเติบโตทางด้านการทำงานก็มาจากความไวในการใช้เทคโนโลยี” อัครพล เล่าและบอกต่อว่า เมื่อเครื่องมือสื่อสารดี ก็ต้องศึกษาว่าจะใช้เทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์อย่างไร อีกทั้งควรเลือกใช้ให้เหมาะกับงาน

เมื่อก่อนอัครพลติดตามเทคโนโลยีอย่างกระชั้นกว่านี้ แต่ในโลกที่แข่งขันกันสูงมาก ค่ายเทคโนโลยีต่างๆ โดยเฉพาะระบบโทรศัพท์สมาร์ตโฟนยิ่งแข่งขันกันสูง แต่เขาก็เลือกใช้ทั้งไอโฟนและแบล็คเบอร์รี่ เพราะแต่ละเครื่องก็มีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน แต่หากคนที่มีเงินจำกัดและมีความจำเป็นไม่มาก ก็ควรเลือกใช้อย่างใดอย่างหนึ่ง

“เนื้องานของผมมีมาก ก็ต้องเลือกใช้เครื่องมือสื่อสารให้สอดคล้องกับทีมงาน อย่างการติดตามข่าวสารบ้านเมืองของผมจะเข้าไปนิวเซ็นเตอร์ ผมอัพเดตข่าวตลอดเวลา ทั้งข้อมูลข่าวไทย ข่าวต่างประเทศ การมีเทคโนโลยีไว้ใช้ดี เพราะงานทุกอย่างเราพึ่งพาเทคโนโลยีทั้งหมด ถ้าเทคโนโลยีหยุดนิ่งเราก็คงพัฒนาเศรษฐกิจไปไม่ได้ เพราะทุกครั้งที่มีข้อมูลเปลี่ยนแปลงก็ต้องมีการวิเคราะห์ข้อมูลใหม่ ตอนนี้ใครรู้ข้อมูล หรือเทคโนโลยีที่ก้าวไกลมากกว่าก็ได้เปรียบอีกคนหนึ่งที่ใช้ต่ำกว่า ผมไม่รู้สึกเหนื่อยที่ต้องตามเทคโนโลยี แต่รู้สึกสนุกด้วยซ้ำ”

นอกเหนือจากเวลางาน อัครพลดูแลสุขภาพด้วยการออกกำลังกาย เวลาวิ่งออกกำลังกายบนเครื่องวิ่งก็ฟังเพลงจากไอโฟน 4 ไปด้วยเลย

“ชีวิตการทำงานของผมในแต่ละวันนั้น ผมต้องตื่นตั้งแต่ 6 โมง เพื่อเตรียมงานให้ท่านรัฐมนตรีในแต่ละวัน ส่วนเวลาเลิกงานนั้นก็จะเป็นประมาณ 5 โมงเย็น หลังจากเลิกงานก็จะพยายามหาเวลาไปฟิตเนส ออกกำลังกายเป็นประจำเพื่อให้สุขภาพแข็งแรง พร้อมทำงานให้กับกระทรวงพาณิชย์ต่อไปในวันรุ่งขึ้น”

ส่วนวันเสาร์เขาชอบพักผ่อนด้วยการสังสรรค์กับเพื่อนๆ โดยคิดว่าทำงานมาทั้งอาทิตย์ ก็ควรหาเวลาที่มีความสุขให้ตัวเองบ้าง วันอาทิตย์เขาชอบนั่งอ่านหนังสือเกี่ยวกับการเมืองอยู่ที่บ้านหรือไม่ก็ไปหาร้านกาแฟนั่ง เพื่อต้องการหามุมสงบพักผ่อนและเตรียมงานของอาทิตย์หน้า

อัครพล บอกว่า เทคโนโลยีก้าวไปไวมากไม่แน่ในอนาคตอาจจะพัฒนาไปถึงขนาดมีโทรทัศน์จอบางนิดเพียงไม่กี่มิลลิเมตรก็ได้

“ผมมีพี่ชายของเพื่อนทำงานด้านวิศวกรเทคโนโลยี เขาเล่าให้ฟังว่าในอนาคตข้างหน้าเทคโนโลยีจะพัฒนาไปทำให้ทีวีมีจอบางที่สุดเราจึงรู้ว่าบริษัทใหญ่ๆ ด้านเทคโนโลยีเขามีการตั้งเป้าไว้เลยไกลๆ ก็เป็นเรื่องที่น่าติดตาม”