posttoday

กัปตัน เชิดชัย สุรสนธิ กับความภูมิใจเหนือท้องฟ้า

17 มกราคม 2554

กัปตัน เชิดชัย สุรสนธิ ครูการบิน B747400 และกรรมการสมาคมนักบินไทย จบการศึกษาจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

กัปตัน เชิดชัย สุรสนธิ ครูการบิน B747400 และกรรมการสมาคมนักบินไทย จบการศึกษาจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

เรื่อง กาญจนา เตชาวัฒนากูล

 

กัปตัน เชิดชัย สุรสนธิ กับความภูมิใจเหนือท้องฟ้า

กัปตัน เชิดชัย สุรสนธิ ครูการบิน B747400 และกรรมการสมาคมนักบินไทย จบการศึกษาจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อ 30 กว่าปีก่อน ซึ่งสมัยนั้นอาชีพนักบินยังเป็นสิ่งที่ค่อนข้างใหม่สำหรับสังคมไทย แต่เพราะรู้ตัวแล้วว่าอยากจะมีโอกาสสัมผัสโลกกว้างและอยากจะเป็นนักบินให้ได้ เขาจึงได้ตัดสินใจเบนเข็มไปเรียนต่อด้านการบิน ซึ่งภายหลังจบหลักสูตรแล้วก็ได้รับคัดเลือกให้เข้าทำงานกับบริษัท การบินไทย

“ผมเริ่มต้นทำงานปี 1981 เป็นนักบินผู้ช่วย ก่อนจะได้เป็นกัปตันประมาณปี 1991 ถึงตอนนี้ก็เกือบ 30 ปีแล้ว แต่ก็ยังไม่รู้สึกเบื่อนะ ยังสนุกกับการทำงานอยู่เสมอ” กัปตันเชิดชัย บอก “อาชีพนักบินต้องมีความรับผิดชอบสูง เพราะเราต้องดูแลผู้โดยสารอีกนับร้อย ต้องมีทั้งสติและสมาธิ และมันฝึกให้เราเป็นคนที่ต้องมีระเบียบวินัยและรักษาเวลาเป็นสำคัญ แต่ในขณะเดียวกันมันก็เป็นอาชีพที่ให้ความรู้สึกอิสระ เราได้เดินทางไปนั่นมานี่ ไม่ต้องนั่งประจำที่อยู่ตลอดเวลา แล้วผมก็ชอบที่ได้บินบนท้องฟ้าโล่งๆ กว้างไกล มันให้ความรู้สึกสบายใจ สบายตา”

ระยะเวลา 30 ปีที่ได้เป็นนักบิน ได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์และความประทับใจจากการเดินทางและการทำงานมากมาย แต่เหตุการณ์ที่กัปตันเชิดชัยบอกว่าจำได้ไม่รู้ลืม คือ “เมื่อประมาณปี 1991 ตอนนั้นเครื่องที่เราบินจะไปลงที่ย่างกุ้ง ประเทศพม่า โดนนักศึกษาพม่าไฮแจ็กเครื่องแล้วบังคับให้พวกเราบินไปลงที่กัลกัตตา อินเดีย เพราะเขาต้องการประกาศให้ชาวโลกได้รู้ว่า พวกเขาไม่พอใจการบริหารงานของรัฐบาลพม่า แต่เขาไม่ได้มีเจตนาจะทำร้ายใครหรือก่อความรุนแรงอะไร ซึ่งพวกเราก็ช่วยกันพูดคุยและเกลี้ยกล่อมให้เขายอมปล่อยผู้โดยสารลงจากเครื่อง สุดท้ายเหตุการณ์ก็จบลงด้วยดี ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บอะไร นักศึกษาพม่าคนนั้นก่อนจะมอบตัวกับตำรวจ เขาก็ยังเดินมาขอบคุณพวกเราอยู่เลย ซึ่งเป็นเหตุการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิตที่ลืมไม่ลงจริงๆ”

กัปตัน เชิดชัย สุรสนธิ กับความภูมิใจเหนือท้องฟ้า

กัปตันเชิดชัย เล่าว่า “สมัยเมื่อ 3040 ปีก่อน เรายังต้องพึ่งสต๊าฟฝรั่งและนักบินฝรั่ง จากสายการบินทางยุโรปให้เข้ามาทำงาน และช่วยเทรนนิงเรื่องต่างๆ ให้ แต่ตอนนี้เรามีทีมบริหารคนไทย และนักบินไทยก็มีความรู้ความสามารถและประสบการณ์ที่ดีไม่แพ้นักบินชาติไหนในโลก ซึ่งฝรั่งเขาก็ยอมรับความสามารถของเรา มีนักบินคนไทยที่มีโอกาสไปทำงานกับสายการบินต่างชาติ เขาก็ได้รับฟีดแบ็กที่ดีกลับมา ก็ถือว่าเป็นความภาคภูมิใจอย่างหนึ่งที่เราสามารถช่วยกันผลิตบุคลากรที่มีคุณภาพได้ทัดเทียมมาตรฐานสากล”

 

“ผมบอกได้เลยว่า ภูมิใจที่ได้เป็นนักบินของการบินไทย เพราะนี่คือสายการบินแห่งชาติ ที่บริหารงานโดยคนไทย เพื่อคนไทย ตอนนี้เราก็เดินทางกันมาถึง 50 ปีแล้ว เป็นช่วงวาระพิเศษสำหรับองค์กร และผมก็คิดว่าจากนี้ไปก็คงจะมีการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาอะไรใหม่ๆ ที่ดีขึ้นให้เราได้เห็นกันอีกมากมาย” กัปตันเชิดชัย กล่าวสรุป

กัปตันเชิดชัย กับ 5 ความประทับใจ

คุณพ่อเกษม สุรสนธิ – คุณพ่อเป็นคนที่สร้างตัวเองและครอบครัวเราขึ้นมาให้มีทุกอย่าง เป็นคนเข้มแข็งและอดทน ซึ่งท่านเป็นต้นแบบและแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตให้กับผมอย่างมาก และท่านยังเป็นคนคอยให้การสนับสนุนผมให้ทำในสิ่งที่ผมรัก อย่างการเป็นนักบินด้วย เพราะถึงแม้ที่บ้านจะมีกิจการโรงพิมพ์ที่ท่านก่อตั้งขึ้นมา แต่คุณพ่อก็ไม่ได้บังคับว่า ลูกๆ ต้องดำเนินตามสิ่งที่ท่านทำ ท่านให้อิสระในการใช้ชีวิตกับลูกๆ

 

กัปตัน เชิดชัย สุรสนธิ กับความภูมิใจเหนือท้องฟ้า

กัปตัน โยธิน ภมรมนตรี – ท่านเป็นนักบินที่เก่ง มีความรู้ความสามารถ และมีบุคลิกที่ดี เป็นบุคคลที่น่านับถือเป็นตัวอย่าง

นายกอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ – ผมชื่นชมที่ท่านเป็นคนหนุ่มรุ่นใหม่ ที่ตั้งใจเข้ามาบริหารและแก้ไขปัญหาบ้านเมืองอย่างจริงจังและจริงใจ แต่ว่าการจะทำให้ได้ดีอย่างที่ตั้งใจ ก็อาจจะไม่ง่ายนัก ซึ่งผมก็เข้าใจนะ และก็อยากเห็นท่านได้ทำงานต่อเนื่องไปอีก

คอมพิวเตอร์แล็ปท็อป – ตอนนี้เราเข้าสู่ยุคดิจิตอลกันแล้ว เครื่องไม้เครื่องมือและอุปกรณ์การบินต่างๆ มันก็ใช้ระบบควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์ และต้องเชื่อมโยงกันหมด ดังนั้นแล็ปท็อปก็เป็นอุปกรณ์สำคัญอย่างหนึ่งสำหรับนักบินด้วย

นาฬิกายูลิส นาร์แดง จีเอ็มที ดูอัล ไทม์ รุ่นลิมิเต็ด เอดิชัน – เป็นนาฬิกาข้อมือรุ่นพิเศษที่มีเพียง 50 เรือนเท่านั้นในโลกนี้ ซึ่งจัดทำขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึกในโอกาสครบรอบ 50 ปีการบินไทย โดยได้รับความร่วมมือจาก ยูลิส นาร์แดง และพีเอ็มที เดอะ อาวร์ กลาส ตัวแทนประจำประเทศไทย แรกเริ่มนั้นเราปรึกษากันหลายครั้ง จนในที่สุดก็ได้ไอเดียสรุปตรงกันจากเพื่อนๆ กลุ่มนักบินว่า นาฬิกาดูอัล ไทม์ คือสัญลักษณ์และตัวแทนสำคัญของนักบิน จึงได้ดำเนินการขออนุมัติโลโก้ 50 ปีการบินไทย มาทำนาฬิการุ่นนี้ขึ้น

นาฬิกานั้นเป็นสิ่งที่สำคัญมากอย่างหนึ่งสำหรับนักบิน เพราะเราเข้มงวดกันมากเรื่องของการรักษาเวลา ดังนั้นเราก็ต้องหานาฬิกาที่เชื่อถือเรื่องความเที่ยงตรงของเวลาได้ตลอดเวลา ซึ่งหลังจากที่ศึกษากันมาพอสมควร เราก็เลยตัดสินใจที่จะทำงานร่วมกับ ยูลิส นาร์แดง ซึ่งเป็นแบรนด์นาฬิกาที่มีชื่อเสียงระดับโลกทั้งด้านคุณภาพและดีไซน์ที่โดดเด่น