ที่ปรึกษาด้านการลงทุนธุรกิจ ดรัล พิรัญเจริญ

หนุ่มนักบริหารที่ปรึกษาด้านการลงทุน ดรัล พิรัญเจริญ ดีกรีปริญญาตรีวิศวกรรมศาสตร์ อุตสาหการ ภาคอินเตอร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

เรื่อง วราภรณ์

 

หนุ่มนักบริหารที่ปรึกษาด้านการลงทุน ดรัล พิรัญเจริญ ดีกรีปริญญาตรีวิศวกรรมศาสตร์ อุตสาหการ ภาคอินเตอร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ปริญญาโทด้านคอมพิวเตอร์ ไซน์ จากจอร์จ วอชิงตัน สหรัฐอเมริกา และกำลังศึกษาปริญญาเอกควบคู่กับการทำงานเป็นที่ปรึกษาสำหรับองค์กรต่างประเทศ อาทิ ฟินแลนด์ เยอรมนี อังกฤษ อิสราเอล ออสเตรเลีย ที่ต้องการมาลงทุนในเมืองไทย บริษัทนี้เขาสืบทอดธุรกิจมาจากคุณพ่อ รั้งตำแหน่งกรรมการบริหาร บริษัท แกรนด์ พีซี กับโปรเจกต์ล่าสุดในฐานะเป็นที่ปรึกษาให้กับโรงกษาปณ์ ประเทศฟินแลนด์ ที่เขารับเป็นที่ปรึกษา กำลังจัดทำเหรียญที่ระลึกโครงการในพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ดรัลจึงรับหน้าที่เป็นผู้ประสานงานโครงการนี้ทั้งหมดระหว่างรัฐบาลฟินแลนด์ ท่านทูตฟินแลนด์ และราชการหลายๆ ฝ่ายของไทย

โรงกษาปณ์แห่งประเทศฟินแลนด์มีความสัมพันธ์อันดีกับกรมธนารักษ์แห่งประเทศไทยมานานกว่า 20 ปีแล้ว และได้เล็งเห็นถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระเจ้าอยู่หัวที่มีต่อปวงชนชาวไทย จึงได้จัดทำชุดเหรียญที่ระลึกโครงการในพระราชดำริ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อร่วมเฉลิมฉลองในโอกาส 60 ปี บรมราชาภิเษก และเพื่อยกย่องเชิดชูโครงการในพระราชดำริต่างๆ อันนำมาซึ่งการพัฒนาชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของพสกนิกรชาวไทย รวมทั้งช่วยบรรเทาความเดือดร้อน ส่งเสริมการพัฒนาและความมั่นคงของชุมชน โดยรายได้จากการจำหน่ายเหรียญหลังหักค่าใช้จ่ายแล้ว จะนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อโดยเสด็จพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัย ซึ่งเขานับเป็นเกียรติและภาคภูมิใจมากที่ได้เป็นส่วนหนึ่งที่ผลักดันให้โครงการนี้สำเร็จ

สำหรับโครงการเหรียญที่ระลึกเฉลิมพระเกียรติ ดรัลเล่าว่า จัดทำทั้งหมด 5 เหรียญ 5 แบบ ออกแบบอย่างสวยงามและมีความหมาย ด้านหน้าของทุกเหรียญมีพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในพระราชอิริยาบถทรงงานในด้านต่างๆ ส่วนด้านหลังเป็นภาพที่เกี่ยวกับโครงการในพระราชดำริต่างๆ ทั้งในด้านทรัพยากรธรรมชาติ ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนและการคิดค้นนวัตกรรม

ชุดเหรียญที่ระลึกฯ ผลิตจำนวนจำกัด โดยรายได้จากการจำหน่ายหลังหักค่าใช้จ่าย จะนำขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อโดยเสด็จพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัย สั่งจองได้จนถึงวันที่ 25 ธ.ค.นี้เท่านั้น

“ทุกครั้งที่รัฐบาลฟินแลนด์เข้ามาเมืองไทย เราก็จะมีการพูดคุย เขาเห็นรูปในหลวงไปทุกที่ของเมือง เขาก็ถามผมและคนอื่นๆ ว่าในหลวงทำอะไรบ้าง ทำไมคนไทยรักในหลวง เราก็เล่าให้ฟัง รัฐบาลฟินแลนด์ก็รู้สึกทึ่งมาก จึงอยากทำอะไรเพื่อในหลวงของคนไทย ซึ่งเราไม่หวังผลกำไร เราไม่ได้ทำธุรกิจ แต่อยากทำอะไรเพื่อในหลวง เพื่อสังคมไทยบ้าง ผมจึงยินดีช่วยเหลือเต็มที่ โดยเป็นที่ปรึกษาระหว่างโรงกษาปณ์ กับท่านทูตฟินแลนด์ และผมยังมีหน้าที่ให้ข้อมูลพระราชกรณียกิจร่วมกับหลายๆ ฝ่าย” ดรัลบอก

 

นอกจากงานด้านสังคม หน้าที่หลักของดรัลคือ การให้คำปรึกษาด้านการลงทุนในประเทศไทย หรือมีสินค้ามาจัดจำหน่ายในเมืองไทย รวมทั้งสนใจทำการค้าประเทศในกลุ่มเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

“ผมก็จะมีหน้าที่ทำรายงานวิเคราะห์ตลาดในประเทศและประเทศอื่นๆ ที่ลูกค้าสนใจให้ด้วย ผมทำงานมาเจ็ดถึงแปดปี ควบคู่ไปกับศึกษาปริญญาเอกด้านการจัดการเทคโนโลยีและนวัตกรรม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย”

ดรัล มองว่าเมืองไทยมีศักยภาพที่ดีต่อการลงทุนอยู่แล้ว เพราะระบบพื้นฐานดีด้านเศรษฐกิจ มีความน่าเชื่อถือ มีความเป็นได้ในการขยายตัวเป็นไปได้สูง แม้การเมืองไม่นิ่งบ้างในบางครั้ง แต่ต่างชาติที่ทำงานร่วมกัน ยังเชื่อมั่นเมืองไทยอยู่ แต่ถ้าช่วงไหนมีเหตุการณ์จริงๆ โครงการต่างๆ ชะลอตัวก่อน แต่ความมั่นใจไม่หายไป

“ผมคิดว่าการทำธุรกิจในเมืองไทยน่าสนใจ เพราะเรามีแผนพัฒนาเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์ ซึ่งมีปัจจัยเยอะกว่าค่าแรงไทยที่ถูก อีกทั้งเมืองไทยมีระบบเชื่อมโยงเน็ตเวิร์กที่เหมาะสมกับการลงทุน ซึ่งต่างชาติไม่ได้รู้จักเมืองไทยดี แต่เรารู้จัก เขาจึงต้องมีผู้ช่วยมาเป็นเพื่อนคู่คิดด้านการลงทุนให้เขา แต่ส่วนใหญ่ลูกค้าที่ผมทำให้อยู่ในปัจจุบัน ส่วนใหญ่เป็นลูกค้าที่มาจากการบอกต่อ เพราะเวลาเราทำให้หนึ่งถึงสองที่ ถ้าเขาพอใจเขาจะบอกต่อ ทำให้ต่างชาติตัดสินใจง่ายกว่าในการได้รับคำปรึกษาด้านการลงทุน”

หลักการทำงานของการเป็นที่ปรึกษาด้านการลงทุน ดรัลบอกว่า มีหลักคือ ความไว้ใจ เชื่อใจ และการติดต่อสื่อสาร ล้วนเป็นสิ่งสำคัญ อีกทั้งดรัลมองว่างานเป็นที่ปรึกษา เป็นงานที่ท้าทาย เหมือนคนเราตั้งใจทำอะไร แล้วออกมาสำเร็จ ได้ผลลัพธ์ที่ดี ก็เป็นสิ่งที่น่าภาคภูมิใจ

“เวลาผมเข้าไปอยู่ในธุรกิจไหนก็ต้องทำความเข้าใจกับธุรกิจนั้นอย่างลึกซึ้ง อย่างโรงกษาปณ์ฟินแลนด์เราเป็นที่ปรึกษาตั้งแต่รุ่นคุณพ่อ ปัจจุบันผมเข้ามาช่วยดูแล ซึ่งเป็นธุรกิจที่เก่าแก่ ผมศึกษาตั้งแต่ลักษณะพิเศษของเหรียญ จึงเป็นเหตุผลที่ผมเข้ามาช่วยในโครงการนี้ด้วย”

อย่างไรก็ดี ในฐานะเป็นที่ปรึกษาด้านการลงทุนให้ชาวต่างชาติ หัวใจหลักของการทำงาน คือ การเป็นที่ปรึกษาธุรกิจหลายแบบ โดยเฉพาะเทคโนโลยีเราก็ต้องศึกษาและใฝ่รู้อยู่ตลอดเวลาในทุกๆ ด้าน

“โลกเราเปลี่ยนไปเรื่อยๆ เพราะเทคโนโลยีไปเร็ว ถ้าเราหยุดเรียนรู้ เราจะไปไม่ทันเขา ไม่ใช่แค่ธุรกิจเทคโนโลยีอย่างเดียว ในโลกนี้มีสิ่งให้เรียนรู้เยอะ อยู่ที่ว่าเราจะสนใจอะไร” ดรัลบอก

สิ่งส่งเสริมการทำงาน

ภาคภูมิใจ : ตอนนี้พวกเราทุกคนทั้งหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวกับเหรียญที่ระลึกนี้ ต่างทำงานกันเต็มที่เพิ่มร่วมเฉลิมพระเกียรติที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของไทยทรงงานอย่างหนัก สำหรับชุดเหรียญที่ระลึกเฉลิมพระเกียรติ ประกอบด้วยเหรียญจำนวน 5 เหรียญ ประกอบด้วย เหรียญทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน เหรียญผู้ทรงห่วงใยและรักษาคุณค่าของป่าไม้ เหรียญผู้ทรงสร้างและรักษาแผ่นดินให้เป็นปึกแผ่นและมั่นคง เหรียญผู้ทรงเปี่ยมล้นด้วยพระราชหฤทัยเพื่อให้ผืนแผ่นดินไทยมีความอุดมสมบูรณ์ เหรียญผู้ทรงเป็นนักปราชญ์แห่งปรัชญาของการใช้ชีวิตแบบพอเพียง และเหรียญผู้ทรงพระปรีชาสามารถยิ่งในการประดิษฐ์คิดค้น

Open Innovation : ผมอ่านหนังสือเยอะมาก แต่ละเล่มที่อ่านมักเชื่อมโยงกับงาน เล่มที่ชอบที่สุดคือ Open Innovation การจัดการนวัตกรรม เขียนโดย Henry Chesbrough ผู้เขียนพูดถึงการจัดการที่ฉีกแนวการจัดการดั้งเดิมออกมาเป็นแบบใหม่ และเป็นที่ยอมรับไปทั่วโลก เล่มนี้บอกว่า การจัดการเทคโนโลยีมีวิธีการที่แตกต่างจากในแบบเดิมอย่างไร เช่น เวลาเราบริหารสินค้าทั่วไป กับบริหารสินค้าเทคโนโลยีนั้นไม่เหมือนกัน คีย์หลักจะบอกว่า การทำธุรกิจไม่จำเป็นต้องกำไรซึ่งๆ หน้าเสมอไป เช่น เฟซบุ๊ก ไม่ได้เก็บค่าสมาชิก แต่เป็นเว็บไซต์ที่คนนิยม แต่เราจะมีวิธีการจัดการกับเทคโนโลยีนั้นๆ อย่างไรให้น่าสนใจ และทำให้ธุรกิจไปได้ไกล

Crossing The Chasm : เขียนโดย Geoffre A. Moore เล่มนี้พูดถึงการตลาด เวลาธุรกิจออกมาสู่ตลาด มักมีผู้ใช้แรกๆ ซึ่งถ้าเราทำให้ผู้ใช้กลุ่มแรกๆ ชอบโปรดักต์ของเรา กลุ่มอื่นๆ ก็ตามมา ดังนั้นเราต้องดึงดูดลูกค้ากลุ่มแรกให้ได้

Venture Capital and the Finance of innovation : เขียนโดย Andrew Metrick พูดเกี่ยวกับตลาดการเงิน Venture Capital เป็นสถาบันการเงินที่เมืองไทยมีน้อย ซึ่งเป็นส่วนทำให้เศรษฐกิจต่างชาติในประเทศพัฒนาแล้ว พัฒนาไปได้เยอะ ผมจึงชอบ เล่มนี้ที่ทำให้เรารู้สึกว่าเมืองไทย สถาบันการเงินเกิดขึ้น เล่มนี้คนทำไฟแนนซ์ควรอ่าน

Creativity : เป็นมุมมองธุรกิจอีกแบบหนึ่งที่ชอบ เล่มนี้พูดถึงการสร้างสิ่งใหม่ๆ โดยผู้เขียนเป็นนักจิตวิทยา ขายดีมากๆ อ่านสนุก เข้าใจง่าย ทำให้เราเข้าใจว่าในทางจิตวิทยาในการที่เราจะมีความคิดสร้างสรรค์ใหม่ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจ สังคม หรือตลาด มันมีกลไกอย่างไรในการคิด โดยเขาไปสัมภาษณ์คนที่ได้รับรางวัลโนเบลทั้งหมด เพื่อเก็บข้อมูล เพราะเขาเชื่อว่าคนที่ได้รับรางวัลโนเบลน่าจะมีแนวคิดที่สร้างสรรค์ และทำอะไรใหม่ๆ ได้ดี สามารถปรับเปลี่ยนไปใช้ได้กับทุกอุตสาหกรรม