ความสวยแข่งกันไม่ได้: SK-II จับมือ นักกีฬาโอลิมปิกชั้นนำผลักดันมาตรฐานความงามใหม่ ในแคมเปญ ความสวย ไม่ใช่การแข่งขัน
นับเป็นอีกครั้งที่ประเทศญี่ปุ่น เจ้าภาพมหกรรมกีฬาโอลิมปิกครั้งแรกในเอเซียเมื่อ 56 ปี ก่อนจะกลับมาสร้างความประทับใจให้กับชาวโลกใน โตเกียวโอลิมปิก 2020
ซึ่งการแข่งขันโอลิมปิกปีนี้ ก็เป็นอีกครั้งที่เราจะได้เห็นนักกีฬาชั้นนำจากทุกมุมโลกทุ่มเทความสามารถเพื่อช่วงชิงความเป็นหนึ่ง ความมุ่งมั่นที่จะคว้าชัย พลังที่ผลักดันให้ทะยานไปข้างหน้า และการทลายขีดจำกัดของตัวเอง ความสมหวัง ความเจ็บปวด รอยยิ้ม คราบน้ำตา ล้วนมีคุณค่าและทำให้โอลิมปิกเป็นมหกรรมกีฬาอันแสนงดงามแต่ในขณะที่ทั่วโลกกำลังจับตามองความงดงามของการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่กำลังจะเริ่มขึ้น SK-II จับมือร่วมกับ 6 นักกีฬาหญิงแนวหน้า โดยรังสรรค์แคมเปญ ความสวย #ไม่ใช่การแข่งขัน เพื่อตอกย้ำกับผู้หญิงทั่วโลกว่า ไม่มีโอลิมปิกสำหรับความงาม ผู้หญิงไม่จำเป็นต้องแข่งกันเป็นที่หนึ่งในเรื่องความสวย และความสวยก็ไม่ได้มีมาตรฐานเพียงหนึ่งเดียว ลองดูใกล้ตัวเราก็ได้ ค่านิยมเรื่องความสวยของสาวไทยแทบไม่เคยเปลี่ยน คำว่า “สวย” ในอุดมคติไทย มักถูกใช้กับสาวผิวขาว สูงเพรียว บุคลิกดี ร่าเริง เข้ากับคนง่าย สุภาพเรียบร้อย กิริยาวาจาไม่โผงผางโวยวาย สุดท้ายจึงลงเอยด้วยการลงทุนลงแรงสร้างความโดดเด่นให้เป็นไปตามที่สังคมต้องการ ไม่ว่าจะเสริมความงาม สร้างภาพลักษณ์ อัพไลฟ์สไตล์ให้เข้ากับความนิยม หลายครั้งยังต้องเปรียบเทียบ แข่งขันและขับเคี่ยวกันเองเพียงเพื่อให้คนอื่นถูกใจ
“เลิกแข่งกันเถอะ” กุญแจสำคัญที่สุดยอดนักกีฬาระดับโลกกำลังสื่อถึงผู้หญิงทุกคนในแคมเปญ ความสวย #ไม่ใช่การแข่งขัน นอกจากประกาศจุดยืนร่วมกับ SK-II เชิญชวนผู้หญิงทั่วโลกให้เลิกแข่งกันเพียงเพื่อให้ได้ชื่อว่าสวยตามค่านิยมที่ไม่สะท้อนความเป็นจริงของผู้หญิงแล้ว พวกเธอยังมาเล่าเรื่องราวและประสบการณ์ของพวกเธอเอง เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้หญิงกล้าออกจากกรอบของค่านิยมความงามเก่าๆ
ซีโมน ไบลส์ นักยิมนาสติกที่คว้าเหรียญรางวัลมากที่สุดในโลก
Beauty. When did it become a competition? #NOCOMPETITION @SKII_US #skiipartner pic.twitter.com/zBbAQaI0vU
— Simone Biles (@Simone_Biles) February 12, 2020
ถึงแม้นักยิมนาสติกสาวทีมชาติสหรัฐอเมริกาจะได้รับการยกย่องอย่างมากในฐานะที่เธอคว้าชัย ได้เหรียญทองโอลิมปิกมาครอง 4 เหรียญ แต่นอกสนาม ซีโมนกลับเผชิญกับคำวิพากษ์วิจารณ์ด้านลบเกี่ยวกับหน้าตาหรือการแต่งตัว
ซีโมนเลือกที่จะไม่ทนต่อคำตัดสินเรื่องรูปลักษณ์ที่ไม่เป็นธรรม เพราะเชื่อว่าถึงเวลาแล้วที่ต้องออกมาหยุดพฤติกรรมน่าชังเหล่านั้น และเป็นกระบอกเสียงให้กับคนอื่นๆ ที่ถูกดึงให้เข้าร่วมการแข่งขันเรื่องความงามทั้งๆ ที่ไม่ได้เต็มใจ
มาฮินะ มาเอดะ นักเซิร์ฟชาวญี่ปุ่น
#NOCOMPETITION ?? #?????????????@SKII_Japan??????????????#inpartnershipwithsk2@Simone_Biles @JVA_Volleyball @ayataka419 @LiuxiangXx pic.twitter.com/owRlmLFa2W
— Mahina Maeda (@Mahinamaeda) February 12, 2020
ขณะที่สังคมพยายามกำหนดว่าผู้หญิงควรมีรูปลักษณ์แบบไหนและทำตัวอย่างไร มาเอดะบอกว่ากฎเกณฑ์ความงามและข้อจำกัดเหล่านั้นไม่ใช่เรื่องจำเป็น และไม่ใช่สิ่งที่ผู้หญิงร้องขอ
นักเซิร์ฟสาวจากแดนอาทิตย์อุทัยไม่รีรอ เธอสลัดตัวเองออกจากเงื่อนไขความงามที่สังคมสร้างขึ้น มาเอดะยังยืนยันว่าจะไม่มีวันยอมให้ค่านิยมเรื่องความสวยมาขวางกั้นความพยายามที่จะไปให้ถึงเป้าหมายของการเป็นนักกีฬาที่เก่งที่สุดในโลก
ฮิโนโทริ นิปปอน นักกีฬาวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติญี่ปุ่น
?#???NIPPON ×SK-II?#?????? ????????#NOCOMPETITION ?? #??????????? ??? @SKII_Japan ??????????????????????????#Tokyo2020 ?????????????????????????#inpartnershipwithsk2 pic.twitter.com/bAeK52pQRU
— ???????????????? (@JVA_Volleyball) February 12, 2020
คำถามที่ทีมสาววอลเลย์บอลญี่ปุ่นมักจะได้ยินเสมอคือ พวกเธอตัวเล็กแล้วจะเอาชนะนักกีฬาจากชาติอื่นที่สูงใหญ่กว่าได้อย่างไร นักตบลูกยางทีมชาติญี่ปุ่นตอบคนที่สงสัยในความสามารถของพวกเธอว่า พวกเธอจะแสดงให้เห็นเองว่าเธอทำอะไรได้บ้าง
อายากะ ทากาฮาชิ และ มิซากิ มัตสึโมโตะ นักแบดมินตันหญิงคู่ผู้คว้าเหรียญทองโอลิมปิก
#NOCOMPETITION ?? #?????????????@SKII_Japan??????????????#inpartnershipwithsk2@Simone_Biles @JVA_Volleyball @Mahinamaeda @LiuxiangXx pic.twitter.com/Dpp3PDxHyV
— ???? (@ayataka419) February 12, 2020
หลังจากเล่นแบดมินตันคู่กันมาสิบปี อายากะและมิซากิเริ่มรู้สึกถึงแรงกดดันให้พวกเธอทำเกมส์ให้ดีทั้งในแบบเดี่ยวและแบบคู่ แต่แทนที่จะให้ความคาดหวังนั้นมาทำให้ทั้สองห่างกันไป ทั้งคู่กลับเลือกที่จะเสริมจุดแข็งของกันและกัน พร้อมใช้ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันเป็นตัวผลักดันไปสู่ชัยชนะ
อิชิกาวา คาซูมิ นักกีฬาเทเบิลเทนนิสทีมชาติญี่ปุ่น เจ้าของ 2 เหรียญทองโอลิมปิก
เธอแก่เกินจะแข่งเทเบิลเทนนิสแล้วหรือเปล่า? คำถามจี้ใจที่นักกีฬาสาววัย 26 ถูกถามบ่อยขึ้น คาซูมิยอมรับว่าเริ่มคิดมากและเสียความมั่นใจในตัวเอง เหมือนกับถูกผลักให้ต้องแข่งกับอะไรที่เธอไม่ได้อยากร่วมด้วย เธอเริ่มสงสัยในตัวเอง และไม่แน่ใจในความสามารถที่เธอมี ความรู้สึกด้านลบพวกนี้คอยฉุดรั้งไม่ให้เธอใช้ศักยภาพที่มีอย่างเต็มที่ ในที่สุด คาซูมิก็พบว่าที่เธอเสียความมั่นใจในตัวเองเพราะยอมให้คนอื่นมากำหนดว่าตัวเธอเป็นอย่างไร และเธอจะไม่ยอมให้คำวิจารณ์เหล่านั้นมาดึงรั้งเธออีกต่อไปมาเลิกแข่งกันสวยแบบไม่สร้างสรรค์ ร่วมกับนักกีฬาชั้นนำระดับโลก พร้อมสร้างนิยามความงามแบบใหม่ เพียงหาให้เจอว่าความสวยสำหรับคุณคืออะไร?
ติดตามเรื่องราวและแรงบันดาลใจที่หลากหลาย ภายใต้แคมเปญ #ไม่ใช่การแข่งขัน มาร่วมแบ่งปันประสบการณ์ของตัวคุณเอง ให้เสียงของคุณเป็นอีกหนึ่งเสียงที่จะสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้หญิงทั่วโลกมาเป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญนี้แวะชมเว็บไซต์ #ไม่ใช่การแข่งขัน แล้วมาร่วมกันสร้างนิยามความงามแบบใหม่ได้แล้ววันนี้ #skiipartner