8 ความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับการบริโภคไอโอดีน
“สารไอโอดีน” มีความสำคัญต่อทุกช่วงวัย หากขาดสารไปจะส่งผลต่อความบกพร่องด้านพัฒนาการสมอง ทำให้ร่างกายเตี้ย แคระ แกรน แต่หลายคนยังมีความเชื่อที่ผิดอยู่ อยากรู้ไปดูกัน
“สารไอโอดีน” มีความสำคัญกับคนทุกช่วงวัย หากขาดสารนี้ไปจะส่งผลต่อความบกพร่องด้านพัฒนาการสมอง ทำให้ร่างกายเตี้ย แคระ แกรน แต่หลายคนยังมีความเชื่อที่ผิดอยู่ อยากรู้ไปดูกัน
ข้อมูลจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) โดย นายสง่า ดามาพงษ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการและผู้ทรงคุณวุฒิ และที่ปรึกษากรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ระบุ คนไทยยังมีความเชื่อที่ผิดๆ เกี่ยวกับการบริโภคไอโอดีนซึ่งพบบ่อย ได้แก่
- ไอโอดีนขาดแล้วเป็นแค่คอพอก แต่ไม่รู้ว่าส่งผลกระทบต่อไอคิว
- เด็กเท่านั้นที่ต้องการไอโอดีน ผู้ใหญ่ไม่มีความจำเป็น
- คนชนบทเท่านั้นที่ขาดไอโอดีน ส่วนคนในเมืองไม่ขาด
- เกลือทะเลมีไอโอดีน และเพียงพอต่อความต้องการ
- เกลือไอโอดีนเค็มกว่าเกลือธรรมดา
- ใช้เกลือไอโอดีนดองผักและทำปลาร้าจะทำให้สีของอาหารไม่สวย
- กินอาหารทะเลก็ทดแทนเกลือไอโอดีนได้
- คนไทยน้อยมากที่รู้ว่าสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้ออกประกาศเป็นกฏหมายที่กำหนดให้ผลิตภัณฑ์เครื่องปรุงรสต้องเสริมไอโอดีน
ความต้องการสารไอโอดีนของแต่ละบุคคล
- ร่างกายผู้ใหญ่ ต้องการไอโอดีน 150 ไมโครกรัมต่อวัน หรือเทียบเท่ากับปลาทูนึ่ง 21 ช้อนโต๊ะต่อวัน
- หญิงตั้งครรภ์ มีความจำเป็นต้องได้รับไอโอดีนเพิ่มขึ้นอีก 25 ไมโครกรัม
- หญิงให้นมบุตร ต้องเพิ่มอีก 50 ไมโครกรัม เพราะหากขาดไอโอดีนจะมีผลต่อไอคิวลูกในท้อง โดยเฉพาะพัฒนาการของสมองในช่วงที่เป็นตัวอ่อนอายุ 8 สัปดาห์ ถึง 3 ปี จะมีสติปัญญาด้อยและมีไอคิวต่ำกว่าที่ควรจะเป็นถึง 30 จุด
ปัจจุบันประชาชนนิยมรับประทานอาหารนอกบ้าน หากผู้ประกอบการร้านอาหารเลือกใช้เกลือเสริมไอโอดีน ผู้บริโภคจะได้รับสารไอโอดีนที่เพียงพอและเหมาะสม ในวัยผู้ใหญ่ไอโอดีนจะควบคุมการเจริญเติบโต และเมตาบอลิซึม ควบคุมการเผาผลาญสารอาหารต่าง ๆ เช่น เร่งการสลายไขมัน เร่งการสลายไกลโคเจน มีผลต่อการสร้างพลังงาน และอุณหภูมิของร่างกาย หากขาดไอโอดีนจะมีภาวะไทรอยด์ฮอร์โมนต่ำ เกิดอาการอ่อนเพลีย เฉื่อยชา ประสิทธิภาพในการทำงานลดลง ซึ่งเป็นได้ทั้งคนในชนบทหรือเขตเมือง หากเป็นคนที่อาศัยในพื้นที่สูงห่างไกลทะเล ยิ่งเข้าถึงเกลือเสริมไอโอดีนที่เพียงพอได้น้อย
สำหรับข้อมูลวิชาการเพื่อใช้ขับเคลื่อนมาตรการด้านอาหาร แนะนำให้บริโภคไอโอดีนให้เพียงพอ และควรบริโภคโซเดียมไม่เกิน 2,000 มิลลิกรัมต่อวัน หรือเท่ากับเกลือที่ใช้ปรุงอาหารไม่เกิน 1 ช้อนชาต่อวัน ซึ่งเป็นไปตามที่องค์การอนามัยโลกกำหนดไว้
ภาพ freepik /สสส.