posttoday

ฟังเสียงเตือนจากอาการปวดเข่า 3 แบบที่แตกต่างกัน

17 กรกฎาคม 2562

อาการ "ปวดเข่า" มีหลายแบบ แต่ที่พบบ่อยคืออาการปวดเข่าจากเข่าเสื่อม กล้ามเนื้อไม่สมดุล และกล้ามเนื้ออ่อนแรง ซึ่งลักษณะอาการจะแตกต่างกัน และไม่ได้เกิดกับผู้สูงอายุเท่านั้น เพราะทั้งวัยกลางคน นักกีฬา ผู้ที่บาดเจ็บจากการออกกำลังกายก็อาจเกิดขึ้นได้เช่นกัน

อาการ "ปวดเข่า" มีหลายแบบ แต่ที่พบบ่อยคืออาการปวดเข่าจากเข่าเสื่อม กล้ามเนื้อไม่สมดุล และกล้ามเนื้ออ่อนแรง ซึ่งลักษณะอาการจะแตกต่างกัน และไม่ได้เกิดกับผู้สูงอายุเท่านั้น เพราะทั้งวัยกลางคน นักกีฬา ผู้ที่บาดเจ็บจากการออกกำลังกายก็อาจเกิดขึ้นได้เช่นกัน

โดยจุดเริ่มต้นอาการอาจเริ่มจากปวดหลัง ปวดก้น และลุกลามทำให้เกิดอาการปวดที่เข่า อาการปวดเข่าเช่นนื้จึงเกิดจากกล้ามเนื้อก้นอ่อนแรง หรือกล้ามเนื้อที่สะโพกไม่สมดุล

ฟังเสียงเตือนจากอาการปวดเข่า 3 แบบที่แตกต่างกัน

อาการปวดเข่ามีหลายแบบ แต่ที่พบบ่อยคืออาการปวดเข่าจากเข่าเสื่อม กล้ามเนื้อไม่สมดุล และกล้ามเนื้ออ่อนแรง ซึ่งลักษณะอาการจะแตกต่างกัน คือ

1.อาการปวดเข่าจากเข่าเสื่อม มักจะเกิดขึ้นกับผู้สูงวัยที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป ส่วนใหญ่พบในผู้มีน้ำหนักตัวมาก ลักษณะอาการที่แสดงว่าเป็นโรคเข่าเสื่อม คือ

- มีอาการปวดเข่า โดยปกติจะปวดเมื่อมีการเคลื่อนไหว หรือมีการเดินลงน้ำหนัก เมื่อพักจะดีขึ้น หากเป็นมากจะปวดตลอดเวลา

- ข้อติดแข็ง ส่วนมากจะพบในตอนเช้าเมื่อตื่นนอนใหม่ๆ หรือเมื่อพักในท่าใดท่าหนึ่งนานๆ ต่อเนื่องโดยไม่ได้ขยับ

- บวมรอบข้อ อาจพบร่วมกับอาการแดงและร้อนเมื่อลองคลำบริเวณรอบเข่า

- มีการผิดรูปของข้อเข่า ซึ่งเกิดจากผิวข้อบางลง แล้วตัวของกระดูกมีการเสียดสีกันจน เกิดกระดูกงอก ทำให้เข่าผิดรูปและขยาย ซึ่งพบว่าผู้ที่มีเข่าเสื่อมอย่างรุนแรง รอบข้อเข่าจะใหญ่ขึ้น

- มีเสียงดังภายในข้อเข่า ซึ่งเสียงที่เกิดขึ้นอาจมาจากการเสียดสีของผิวข้อภายในข้อเข่า

2. อาการปวดเข่าจากกล้ามเนื้อทำงานไม่สมดุลกัน มักจะเกิดขึ้นกับนักกีฬาบางประเภทที่ต้องใช้เข่ารับน้ำหนักมาก เช่น นักวิ่ง นักปั่นจักรยาน นักบาสเกตบอล นักฟุตบอล นักกอล์ฟ ฯลฯ ลักษณะอาการ คือ

- อาการปวดจะปวดเสียวแปลบๆ ด้านนอกหรือด้านในของข้อ หรือไม่ก็ด้านหน้าเข่าใต้ลูกสะบ้า ไม่ได้ปวดลึกๆ ลงไปในข้อเข่า

- อาการปวดมักร่วมกับอาการตึงร้าวจากต้นขา หรือข้อสะโพก

- อาการปวดจะชัดเจน หลังจากที่เล่นกีฬาหรือออกกำลังกายมา

3. อาการปวดเข่าจากกล้ามเนื้ออ่อนแรง มักจะเกิดขึ้นกับผู้ที่ขาดการออกกำลังกาย ทำงานอยู่ในท่าเดิมซ้ำๆ ต่อเนื่องเป็นเวลานาน และอยู่ในอิริยาบถเดิมๆ เช่น นั่งต่อเนื่องนานๆ และหากอยู่ในอิริยาบถที่ผิดแล้วด้วยก็มักทำให้เกิดอาการปวดได้ง่าย อาการจะดีขึ้นเมื่อเปลี่ยนอิริยาบถ มีอาการปวดแบบล้าๆ เมื่อยๆ ไปทั้งขา มักเกิดร่วมกับอาการปวดกล้ามเนื้อก้น ปวดข้อเท้าหรือน่อง

การดูแลตัวเองเบื้องต้นเมื่อมีอาการปวดเข่าไม่ว่าจะด้วยสาเหตุใด ทำได้ด้วยวิธีนี้ดังต่อไปนี้

1. เมื่อเริ่มมีอาการปวดเข่า ให้สังเกตว่ามีอาการบวมแดงร้อนหรือไม่ หากมี ในวันแรกของอาการปวดควรประคบด้วยแผ่นเย็น และวางพาดขาให้สูง

2. ท่าทางใดที่ทำให้ปวดควรหยุดทำท่านั้นๆ ก่อน จนกว่าอาการจะหายดี

3. หลีกเลี่ยงการยืน เดินนานๆ เพราะจะทำให้เข่าต้องรับน้ำหนักตัวตลอดเวลา และเพิ่มอาการบาดเจ็บมากขึ้น ทั้งนี้ หากภายใน 3-5 วัน อาการไม่ดีขึ้น ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางก่อนที่อาการจะลุกลาม

 

 

ภาพ freepik