posttoday

อาชวิน ปุจฉากาญจน์ สะสม‘ครุฑ’ยึดหลักกตัญญู

16 มีนาคม 2562

ของดีของขลังที่บรรดาข้าราชการนิยมห้อยคอ

ของดีของขลังที่บรรดาข้าราชการนิยมห้อยคอหรือสะสมเก็บไว้เสริมอำนาจบารมีเพื่อเป็นพลังใจในการไต่เต้าและสร้างเสริมความเจริญก้าวหน้าทางการงานส่วนใหญ่จะเป็นพระเครื่องเกจิดัง เช่น หลวงปู่ทวดวัดช้างให้ นางพญา หรือ สมเด็จวัดระฆัง แต่ไม่ใช่สำหรับอาชวิน ปุจฉากาญจน์ ข้าราชการประจำสำนักงานปลัดกระทรวงแรงงาน ที่หลงใหลในตำนานและความศักดิ์สิทธิ์ของ “พญาครุฑ” ตราสัญลักษณ์ของแผ่นดินไทย

จุดกำเนิดในความเชื่อเกิดขึ้นจากความรู้สึกและจิตสัมผัสภายในลึกๆ เมื่อใดก็ตามที่อาชวินได้มองพญาครุฑ จะรู้สึกเหมือนเห็นและสัมผัสได้ถึงพลังมหาศาลแห่งอำนาจบารมีและความขลังเปล่งประกายออกมา จึงศึกษาประวัติพญาครุฑอย่างละเอียดว่ามีความเป็นมาอย่างไร จนถึงกับตกหลุมรักในตำนาน ที่เล่าขานกันว่า “ครุฑ” แม้เป็นแค่สัตว์กึ่งเทพ แต่มีอิทธิฤทธิ์ที่สุดไม่มีมหาเทพองค์ใดปราบหรือฆ่าครุฑได้ แต่กลับยอมเป็นพาหนะของพระนารายณ์ได้อย่างไร

“เกร็ดตำนานของพญาครุฑ เล่าว่า พระนารายณ์สู้รบกับพญาครุฑ แต่ต่างฝ่ายต่างไม่อาจเอาชนะซึ่งกันและกันได้ พระนารายณ์ กับ ครุฑ จึงทำข้อตกลงร่วมกัน ยุติศึก โดยพระนารายณ์มอบพรแก่ครุฑให้เป็นอมตะ และดำรงตำแหน่งสูงกว่าพระองค์ ส่วนครุฑถวายสัญญาว่าจะเป็นพาหนะของพระนารายณ์ และกลายเป็น “ธงครุฑพ่าห์” สำหรับปักบนรถศึกของพระวิษณุ อันเป็นสิ่งสูงสุดกว่าด้วยฤทธานุภาพของพญาครุฑ จึงมีเป็นสัญลักษณ์สำคัญเกี่ยวกับพระมหากษัตริย์มาตั้งแต่อดีต ดังนั้น ครุฑซึ่งเป็นพาหนะของพระนารายณ์ จึงกลายเป็นสัญลักษณ์แทนพระมหากษัตริย์ ดังปรากฏในดวงตราหรือพระราชลัญจกรประจำพระองค์ ประจำแผ่นดิน ประจำราชวงศ์ และประจำรัชกาล หรือหนังสือทางราชการ เป็นต้น”

อาชวิน ปุจฉากาญจน์ สะสม‘ครุฑ’ยึดหลักกตัญญู

อาชวิน เล่าว่า เมื่อเข้ามารับราชการ จึงยิ่งเข้าใจในตำนานของครุฑว่า เหตุใดจึงกลายเป็นสัญลักษณ์ของข้าราชการ เอกสารทุกชิ้นของกระทรวง ทบวง กรม ต้องใช้ตราครุฑเป็นสัญลักษณ์ เปรียบเหมือนครุฑเป็นพาหนะแก่พระมหากษัตริย์ เช่นเดียวกับข้าราชการรับใช้แผ่นดิน ดังนั้นหากใครรับราชการ การได้บูชาพญาครุฑ ถือว่าดีเป็นสิริมงคลแห่งชีวิตและเกิดความเจริญก้าวหน้าทางการงาน เพราะครุฑเป็นสัญลักษณ์แห่งความกตัญญูและซื่อสัตย์

สำหรับฤทธาบารมีด้านสิ่งลี้ลับย่อมเป็นความเชื่อส่วนบุคคล หากพกพาครุฑมีเล่าขานกันว่าครุฑมีอำนาจบารมีสูงส่งอย่างยิ่งบรรดาภูตผีปีศาจเกรงกลัวไม่กล้าเข้าใกล้ หากมีครุฑติดตัวในยามเดินทาง เช่น ขับรถผ่านทางแหกโค้งตายโหง หรือโค้งร้อยศพ หากพกเหรียญที่มีสัญลักษณ์ครุฑ หรือบ้านใดอยู่ตรงบริเวณทางสามแพร่งไม่ล้มละลายก็อยู่ไม่ได้ ย่อมจะแคล้วคลาดปลอดภัย เพราะอาหารของครุฑ คือภูตวิญญาณ สำหรับของเซ่นไหว้ในการบูชาครุฑไม่จำเป็นต้องใช้ของเซ่นแท้จริง คือ ความกตัญญูกตเวทีต่อบิดามารดา หรือต่อผู้มีพระคุณ นั่นคือของเซ่นไหว้ที่มีค่าที่สุดต่อพญาครุฑ คือ การทำความดี เพราะในตำนานครุฑมีความซื่อสัตย์และกตัญญูต่อพระนารายณ์

“ผมสนใจเก็บครุฑ เนื่องจากประสบการณ์ที่ผ่านมาเห็นว่าศิลปะของพระเครื่องหรือครุฑแต่ละวัดหรือแต่ละผู้สร้างไม่เหมือนกัน มีรูปแบบงานต่างกันออกไป จึงชอบเก็บเป็นของสะสม และที่สำคัญเคยมีประสบการณ์แคล้วคลาดอย่างน่าอัจศจรรย์ ครั้งหนึ่งในชีวิตเคยประสบอุบัติเหตุร้ายแรงรถพลิกคว่ำบนทางด่วน และมอเตอร์ไซค์ชนรถสองแถวแต่รอดปลอดภัยดี คิดว่าด้วยบารมีความกตัญญูรู้คุณจึงห้อยล็อกเกตรูปพ่อแม่ไว้ที่คอด้วยความเคารพศรัทธาสูงสุดถือเป็นของเซ่นต่อครุฑ จึงแผ่บารมีทำให้ผมแคล้วคลาดมาได้” อาชวิน เล่า

อาชวิน ปุจฉากาญจน์ สะสม‘ครุฑ’ยึดหลักกตัญญู

ในกระทรวงแรงงานชื่อของ “อาชวิน” ดังกระฉ่อนในฐานะเป็นนักสะสมและกูรูรู้เรื่องครุฑขั้นเทพ พี่ๆ น้องๆ เพื่อนๆ หรือผู้บังคับบัญชา ต่างแวะเวียนมาขอความรู้หรือขอเก็บไปบูชาบ่อยมาก แต่อาชวินเต็มใจอย่างยิ่ง เพราะการได้สะสมสิ่งที่รัก เขาเชื่อว่าเป็นงานอดิเรกไม่ได้เป็นเรื่องงมงายใดๆ เพราะเมื่อทำงานบางครั้งอาจจะเหนื่อยล้าและเครียดจึงควรหาอะไรเพื่อเป็นการผ่อนคลายบางคนสะสมแสตมป์ บางคนชอบตีกอล์ฟ หรือบางคนมีสตางค์หน่อยอาจจะสะสมรถหรือสะสมพระเครื่องดังๆ แต่สำหรับผมสะสมครุฑที่มีทั้งแบบองค์เล็กๆ สำหรับห้อยคอ หรือองค์ใหญ่ไว้เคารพบูชา แต่ละองค์มีประวัติและตำนานน่าศึกษา

ครุฑไม่ใช่แค่ของสะสมเล่นๆ ของอาชวิน แต่คือแรงบันดาลใจในการทำงานรับราชการต่อกระทรวงแรงงาน ที่ต้องทำงานรับใช้พี่น้องผู้ใช้แรงงาน อาชวินบอกว่า การจะทำงานรับใช้สังคม สิ่งแรกหากครอบครัวดี จะเป็นตัวสะท้อนให้เห็นว่าท่านสามารถช่วยเหลือสังคมได้แน่นอน บางคนแสดงตัวว่าทำเพื่อสังคมแต่คนที่บ้านยังเดือดร้อน อย่างนี้คิดว่าเรายังไม่พร้อมที่จะไปช่วยผู้อื่น

“หลักคิดในการทำงาน คือ ทำวันนี้ให้ดีที่สุด เพราะที่คาดหวังว่าจะทำในอนาคต เราไม่สามารถมั่นใจได้ว่าจะมีโอกาสได้ทำหรือไม่ เพราะอะไรก็ไม่แน่นอน ดังนั้น หากใครมีโอกาสทำดีเพื่อสังคมก็ควรรีบทำที่สำคัญการทำดีตอบแทนคุณพ่อแม่ เพราะพ่อแม่เราไม่ได้มีหลายคน และการรอว่าจะตอบแทนบุญคุณท่านเมื่อพร้อมอาจจะไม่มีวันนั้น คนดูแลพ่อแม่มั่นใจได้ว่าชีวิตท่านจะไม่ตกต่ำแน่นอน เพราะพระที่ดีที่สุดคือพ่อแม่”

อาชวิน ปุจฉากาญจน์ สะสม‘ครุฑ’ยึดหลักกตัญญู

ดังนั้น ในการทำงานรับราชการนับสิบๆ ปีของอาชวิน สะสมครุฑไว้เพื่อสร้างแรงบันดาลใจในการทำงานและนำตำนานครุฑมาประยุกต์ใช้ในการดำรงชีวิตการงาน และชีวิตครอบครัว จนวันนี้แม้จะเป็นข้าราชการตัวเล็กๆ แต่เปี่ยมไปด้วยความสุข ไม่ยึดติดยศถาบรรดาศักดิ์ หรือตำแหน่งใด นอกจากขอทำงานรับใช้ผู้ใช้แรงงานและกระทรวงแรงงานอย่างซื่อสัตย์สุจริต ดั่งเช่น พญาครุฑเป็นพาหนะให้พระนารายณ์ด้วยความกตัญญูและจงรักภักดี