บ้านในฝัน สมานศักดิ์ อํามฤคโชค
ใครๆ ก็มีบ้านในฝัน เช่นเดียวกับ สมานศักดิ์ อํามฤคโชค บริษัท วิริยะพลาสติก ผู้ผลิตและจำหน่ายหมวกกันน็อกและผลิตภัณฑ์พลาสติกอีกมากมายหลายชนิด
เรื่อง อณุสรา ทองอุไร, วันวิสา เหมือนศรี ภาพ วิศิษฐ์ แถมเงิน
ใครๆ ก็มีบ้านในฝัน เช่นเดียวกับ สมานศักดิ์ อํามฤคโชค บริษัท วิริยะพลาสติก ผู้ผลิตและจำหน่ายหมวกกันน็อกและผลิตภัณฑ์พลาสติกอีกมากมายหลายชนิด เขาบอกว่าเกิดมาในครอบครัวคนจีน คุณพ่อคุณแม่ค้าขายโตมากับตึกแถว แม้ขยับขยายธุรกิจจนใหญ่โตขึ้นท่านก็ยังสร้างตึกใหญ่ข้างล่างทำสำนักงานชั้นบนก็สร้างเป็นที่พักอาศัย
“ผมจึงมีความฝันที่อยากจะมีบ้านเดี่ยวติดดินแบบคนอื่นบ้าง (หัวเราะ) อยากมีที่โล่งกว้างมีสวนเขียวๆ ฝันไว้ว่าอยากมีบ้านเดี่ยว ใต้ถุนสูงโปร่งโล่ง ปลูกต้นไม้เยอะๆ และบ้านหลังนี้ก็คือบ้านในฝันของผมตามที่อยากได้จริงๆ ซึ่งผมก็ใช้เวลาเก็บเงินมานานพอสมควรกว่าจะได้บ้านหลังนี้ซึ่งเพิ่งสร้างมาได้เพียง 3 ปี ตอนแต่งงานใหม่ๆ ก็ยังอยู่ชั้นบนสุดของโรงงาน จนลูกได้ 3 ขวบ นี่ถึงได้ปลูกบ้าน”
บ้านหลังนี้มีเนื้อที่ 1 ไร่ ใช้เวลาก่อสร้างเกือบ 2 ปี ภายใต้คอนเซ็ปต์บ้านอารมณ์รีสอร์ทเพื่อการพักผ่อนหย่อนใจ มีความอบอุ่นและร่มรื่น เขาบอกโจทย์แก่สถาปนิกเลยว่า ขอบ้านที่โล่ง โปร่งสบาย ใช้แสงจากธรรมชาติ รับลมจากธรรมชาติได้บ้าง ไม่จำเป็นต้องเปิดแอร์เปิดไฟทั้งวัน มีกระจกล้อมรอบทำเป็นกระจกสูงถึงเพดาน เช้าๆ เย็นๆ ไม่ต้องเปิดแอร์ ทำให้ไม่ดูอึดอัดและอากาศถ่ายเทได้ดี ดูเป็นบ้านแบบโอเพ่นแอร์
“ช่วงหน้าฝนหน้าหนาวนี่ไม่ต้องเปิดแอร์เลย เปิดกระจก ลมพัดตึงๆ แค่เปิดพัดลมสักตัวก็เย็นสบาย เพราะบ้านเราใกล้คลอง และด้านหลังบ้านมีที่โล่งๆ รับลมได้ดี ไม่มีตึกสูงคอยบังพอเป็นกระจกบานใหญ่รอบบ้านทำให้เราเห็นวิวนอกบ้านได้ครบ 180 องศา ซึ่งเราปลูกต้นไม้ไว้รอบบ้านไม่มีกำแพงปูนมาขวางกั้น แค่เห็นสีเขียวๆ ก็ชื่นใจสบายอารมณ์เป็นอย่างมาก ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่รีสอร์ทตามต่างจังหวัดจริง”
บ้านนี้มีสองชั้น พื้นที่ใช้สอย ประมาณ 1,400 ตารางเมตร พื้นที่ด้านล่างพอเข้าประตูมาก็จะแบ่งเป็น 2 ปีก ด้านซ้ายมือ จะเป็นห้องรองเท้า แล้วก็ฟิตเนส ห้องรับรอง สระว่ายน้ำ ซึ่งแยกต่างหากจากตัวบ้านแต่เชื่อมถึงกันหมด ปีกขวา มีห้องสอดมนต์ แล้วก็มีสวน มีห้องทานข้าวอยู่ตรงกลางบ้าน มีครัวไทย ครัวฝรั่ง มีห้องนอนเล็ก 2 ห้อง สำหรับเวลาที่คุณพ่อคุณแม่มาเยี่ยมท่านจะได้ไม่ต้องขึ้นบันได และห้องนอนสำหรับแขกอีก 1 ห้อง ห้องน้ำ
สำหรับชั้นสอง เป็นห้องนอนใหญ่ของเขาและภรรยา ห้องนอนลูกชายอีก 2 ห้อง มีห้องนั่งเล่น ห้องแต่งตัว ห้องพระจุดเด่นของบ้านหลังนี้คือจะเพดานสูง และใช้ไม้เป็นองค์ประกอบหลัก เพราะเขาชอบไม้ที่ให้ความรู้สึกของความเป็นบ้านที่อบอุ่นสบายๆ รวมทั้งเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ เขาเลือก โต้ะ เก้าอี้ ที่ทำจากไม้ชิ้นใหญ่ๆ แบบยกมาเกือบทั้งต้น ซึ่งเสน่ห์ของไม้คือความแข็งแรงทนทาน ยิ่งใช้ยิ่งขัดถูสียิ่งสวยขึ้นเงา
การตกแต่งเป็นแนวร่วมสมัย มีความเป็นไทยสากลผสมผสานกันอยู่ เน้นโทนสีครีมเทาและสีน้ำตาลจากไม้ไล่โทนสีอ่อนแก่ไล่ระดับเป็นลูกเล่น ให้มีมิติมากยิ่งขึ้น ตัวบ้านมีการลดหลั่นไล่ระดับของเลเยอร์ที่รับกันได้อย่างดี อิงความเป็นบ้านไทยใต้ถุนสูงที่ผสมผสานความโมเดิร์นตามสไตล์ของเจ้าของบ้าน โทนสีของตัวบ้านจะเน้นที่โทนสีเทาควันบุหรี่ ดำนิล
นอกจากนี้ ในหลายๆ มุมของตัวบ้านจะมีรูปต้นไม้ ทั้งหน้าประตูบ้าน ตามผนัง หรือมุมบ้าน เนื่องจากชื่อของเขานั้นมีความหมายว่า ต้นไม้ ในภาษาจีน และเขาต้องการจะสื่อถึงบ้านที่เป็นความอายุยืนให้คุณพ่อคุณแม่ เปรียบเสมือนร่มโพธิ์ร่มไทรของบ้าน อีกทั้งยังตั้งชื่อบ้านว่า Viva House ซึ่งคำว่า Viva มีความหมายว่า ขอให้อายุยืนยาว เพื่อสื่อถึงความต้องการที่เจ้าของบ้านอยากให้ทุกคนในบ้านมีอายุยืนยาว
สำหรับการตกแต่งภายในตัวบ้าน ส่วนใหญ่เขาและภรรยาจะไปเลือกหาเองตามงานบ้านและสวน หรือเวลาไปเที่ยวต่างประเทศก็เลือกซื้อมา แล้วก็มาให้อินทีเรียร์ช่วยดูอีกทีว่าอะไรควรวางตรงไหนเพื่อให้ภาพรวมของบ้านดูกลมกลืน ไม่แตกแถวแตกแนวมากเกินไป โดยเขาต้องการให้บ้านที่ให้ความรู้สึกกลางๆ ไม่ดูเป็นบ้านแข็งๆ แบบผู้ชาย หรือออกหวานจ๋าแบบผู้หญิงมากเกินไป
“เราสร้างบ้านได้ตามความต้องการและพอใจ ได้ใช้บ้านคุ้มค่ากับสิ่งที่ทุ่มเทไปสำหรับบ้านก็พอแล้วครับ ไม่อยากได้เพิ่มเติมอะไร เป็นอย่างที่ต้องการไม่มาก ไม่น้อยเกินไป ผมเป็นคนติดบ้าน บ้านใกล้กับโรงงานเดินถึงกัน ผมใช้เวลาอยู่บ้านเยอะ กลางวันก็กลับมาทานข้าวที่บ้าน ใช้บ้านคุ้มค่ามาก วันหยุดก็ไม่ค่อยได้ออกไปไหน ยกเว้นไปเที่ยวทริปใหญ่ๆ ปีละครั้งตอนลูกปิดเทอม”
ความหมายสำหรับคำว่าบ้านของเขา ก็คือ ความเป็นครอบครัว คือทุกสิ่งทุกอย่างที่จะหล่อเลี้ยงชีวิต เป็นความรักความอบอุ่น อายุยืนหรือไม่ก็อยู่ที่บ้านที่เราอยู่ ไม่จำเป็นต้องหลังใหญ่ มันอยู่ที่ความอบอุ่น เหมือนมียาจากภายใน หล่อเลี้ยงให้สุขใจสุขกาย