posttoday

พิจาริน วิริยะศักดากุล เยาวชนดนตรีคนเก่ง

18 กุมภาพันธ์ 2562

“เลือกที่จะทำในสิ่งที่อยากทำ แล้วเราก็จะมีความสุข นี่ไม่เกี่ยวกับรางวัลหรืออะไรทั้งสิ้น”

เรื่อง วันพรรษา อภิรัฐนานนท์  ภาพ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

“เลือกที่จะทำในสิ่งที่อยากทำ แล้วเราก็จะมีความสุข นี่ไม่เกี่ยวกับรางวัลหรืออะไรทั้งสิ้น” พิจาริน วิริยะศักดากุล วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล นักศึกษาปีที่ 4 สาขาขับร้อง (Perform Classic) ผู้คว้ารางวัลชนะเลิศโครงการประกวด SET เยาวชนดนตรีแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 21 ประจำปี 2561 กล่าว

เวทีนี้ไม่ธรรมดา อยากรู้จักสาวน้อยไม่ธรรมดาคนนี้แล้วสิ !

พิจาริน หรือ เกเก้ วัย 22 ปี เล่าว่า เรียนร้องเพลงมาตั้งแต่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 จากนั้นจึงเข้าศึกษาต่อที่พรี-คอลเลจ มหาวิทยาลัยมหิดล จากนั้นเรียนร้องเพลงอย่างจริงจัง นับถึงปัจจุบันเรียนสาขาขับร้องมาได้ 7 ปีเต็ม แนวขับร้องเป็นแนวคลาสสิกหรือเพอร์ฟอร์มคลาสสิก
นั่นเอง นักร้องที่โปรดปราน คือ Anna Netrebko และ Fritz Wunderlich

“เลือกเรียนแนวคลาสสิก เพราะความชอบ เคยเห็นรุ่นพี่ในมหาวิทยาลัยร้องเพลงแนวนี้ ก็คิดว่า นี่แหละคือสิ่งที่เราอยากทำ แล้วพอเรียนจริงๆ ก็ชอบจริงๆ”

สำหรับการเรียนดนตรี เกเก้เล่าว่า ต้องมีคือความมีระเบียบวินัยในตัวเอง ที่สำคัญต้องมีความรัก เพราะมันคือการเรียนอะไรซ้ำๆ เป็นปีๆ ซ้อมแล้วซ้อมอีก ทำแล้วทำอีกในสิ่งเดียวเป็นปีๆ หรือพูดให้ถูกคือหลายปี ถ้าไม่รักจริง เกเก้คิดว่าคงทำได้ยาก

ปัจจุบันหญิงสาวใช้เวลาเรียนในชั้นเรียนวันละ 4 ชั่วโมง และใช้เวลาฝึกซ้อมนอกห้องเรียนอีกไม่ต่ำกว่าวันละ 2 ชั่วโมง นอกจากวิชาขับร้องแล้วยังต้องเรียนภาษาต่างประเทศมากมาย เพราะในการร้องเพลงย่อมมีภาษาเข้ามาเกี่ยวข้อง จะร้องได้อย่างไรถ้าไม่เข้าใจในภาษาที่ร้อง ไม่สามารถออกเสียงหรือสำเนียงตามแบบเจ้าของภาษาได้ถูกต้อง

“รางวัลที่ได้ ต้องขอขอบคุณอาจารย์ที่ประสิทธิ์ประสาทวิชา โดยตั้งแต่ ม.4 ที่ได้เข้ามาเรียนอย่างไม่รู้อะไรเลย จะเรียกว่าศูนย์ก็ได้ เกเก้เริ่มจากศูนย์อย่างแท้จริง แต่เพราะอาจารย์อดทนกับหนูมาก เชื่อมั่นในตัวหนูมาก นี่คือสิ่งที่สำคัญที่สุด”

ขอบคุณอาจารย์ทุกท่าน โดยเฉพาะท่านอาจารย์ Nancy Tsui-Ping Wei ซึ่งเชื่อมั่นในตัวลูกศิษย์คนนี้ เมื่อได้ทราบข่าวว่าพิจารินได้รับรางวัลชนะเลิศจากเวที SET เยาวชนดนตรีแห่งประเทศไทย อาจารย์ดีใจมาก ก่อนหน้าที่จะเข้าแข่งขัน อาจารย์เคยบอกว่า ขอให้พร้อมที่จะแพ้หรือชนะ ขอให้พร้อมที่จะได้หรือไม่ได้รางวัล

“สำคัญกว่ารางวัล คือความกล้าที่จะลองอะไรใหม่ๆ อย่างน้อยการร้องเพลงของเราก็ต้องเก่งกว่าตอนเขียนใบสมัครแน่นอน”

ในรอบสุดท้ายของการแข่งขัน เป็นการเจอกันของ Voice และผู้เข้าแข่งขันเครื่องดนตรีรวมกัน เกเก้เล่าว่า เธอตื่นเต้นมาก เดิมพันคือความไม่อยากอายน้องๆ ที่ร่วมแข่งขันด้วยกันในรายการเดียวกันนี้หลายคน เพราะถ้าตกรอบก็แย่เลยเหมือนกัน เตรียมตัวเองและเตรียมใจตัวเอง คิดว่า ชนะหรือแพ้ ที่สุดแล้วคือต้องเคารพกรรมการ

“คิดว่าได้รางวัลก็ดีนะ เพราะเราก็ปี 4 แล้ว หากที่สุดคือกรรมการที่จะเป็นผู้ตัดสิน เนื่องจากตามความคิดของหนูแล้ว เราแข่งกันหลายเครื่องดนตรี นักดนตรีต่างฝึกซ้อมกันมาอย่างดีทุกคน เก่งมากทุกคน ในฐานะผู้เข้าแข่งขันด้วยกัน ก็ต้องบอกว่า เคารพในความมีฝีมือของทุกคน สุดท้ายให้กรรมการเป็นผู้ตัดสิน”

สำหรับเพลงที่ใช้ร้องในการประกวด คือเพลง “Quel guardo, il cavaliere” from Don Pasquale by G.Donizetti โดยนอกเหนือจากความภาคภูมิใจอย่างยิ่งและเงินรางวัล ซึ่งเป็นทุนการศึกษาต่อด้านดนตรีแล้ว สิ่งที่เกเก้ได้รับจากเวทีระดับประเทศครั้งนี้ก็คือ ความเคารพ
ตัวตนของคนอื่น การเคารพในการทุ่มเทของเพื่อนผู้เข้าแข่งขันด้วยกัน ในฐานะนักดนตรีด้วยกันคือการให้เกียรติกัน

ความฝันบนเส้นทางดนตรี เกเก้เล่าว่า อยากเป็นนักร้องโอเปร่า อยากทำงานด้านการร้องเพลงในต่างประเทศ รวมทั้งได้รับการยอมรับในฐานะนักร้องโอเปร่าคนหนึ่ง ปัจจุบันมีไอดอลหรือต้นแบบนักร้องไทยที่ล่วงหน้าไปบนเส้นทางนี้แล้ว รุ่นพี่ร่วมมหาวิทยาลัยหลายคน ที่ได้ไปใช้ชีวิตนักร้องในต่างแดน

ผู้สนับสนุนอันดับหนึ่งคือคุณแม่ ในช่วงแรกคุณแม่แอบมีความกังวลบ้าง แต่เกเก้ก็ได้พิสูจน์ให้เห็นว่า เรามีความชอบและความมุ่งมั่นในเส้นทางสายอาชีพดนตรีอย่างจริงจัง ปัจจุบันเกเก้อาศัยอยู่กับคุณแม่ นักธุรกิจ และน้องสาวอีก 1 คน

“คุณแม่เล่าว่า ตอนเด็กๆ เวลาดูการ์ตูนดิสนีย์ เกเก้จะร้องเพลงตาม แม่เคยพาไปร้องเพลงประกวดเวทีป๊อป แต่ไม่ชอบ ต่อมาได้มีโอกาสดูยูทูบ และค้นพบแนวเพลงที่ชอบด้วยตัวเอง ก็บอกแม่ว่า เพลงคลาสสิกนี่แหละที่อยากเรียน”

อนาคตมีแผนจะเดินทางไปศึกษาต่อปริญญาโทที่มหาวิทยาลัยด้านดนตรีที่มีชื่อเสียง University for Music and Performing Arts, Vienna ที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย โดยครั้งหนึ่งมีโอกาสไปเรียนภาคฤดูร้อนที่นี่ โดยเกเก้จะเดินทางไปสอบในเดือน ก.ค.-ส.ค.นี้

“จะไปก่อนล่วงหน้าเพื่อติวกับอาจารย์ก่อน ตั้งใจมาก และคิดว่าชีวิตอนาคตก็คงเป็นไปบนเส้นทางนี้ ทำได้หรือไม่ได้ ยังไม่เคยเรียน ก็ตอบไม่ได้ แต่แพสชั่นและความทุ่มเทนั้น เต็ม 100% แน่นอน”

สุดท้ายสาวน้อยคนเก่งฝากบอกถึงรุ่นน้องที่มีความใฝ่ฝัน เธอขอให้คิดว่า แม้จะเป็นเด็กก็มีข้อดีคือความหิวกระหายในประสบการณ์ความรู้ ขอให้ทำเต็มที่ในทุกอย่างที่ทำได้ สำคัญคือขอให้นำตัวเองไปอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่เอื้ออำนวย มองหากัลยาณมิตร ผู้ที่เชื่อในตัวเรา คนที่สามารถให้คำปรึกษา ช่วยเหลือแนะนำ

“ถ้ามีความฝันอยู่แล้ว ก็แค่หาคนสักคน ที่เชื่อมั่นในความฝันของเรา”

พิจาริน วิริยะศักดากุล เยาวชนดนตรีคนเก่ง

พิจาริน วิริยะศักดากุล เยาวชนดนตรีคนเก่ง