posttoday

เอชไอวี ไม่น่ากลัวแต่ต้องตระหนัก

22 มกราคม 2562

ตอนนี้คนไทยเรากังวลกับมลพิษทางอากาศโดยเฉพาะในกรุงเทพฯ มีการตื่นตัวในการหา

เรื่อง วรธาร  

ตอนนี้คนไทยเรากังวลกับมลพิษทางอากาศโดยเฉพาะในกรุงเทพฯ มีการตื่นตัวในการหามาสก์ หรือหน้ากากอนามัยมาใส่ป้องกันฝุ่นกันควั่ก ถึงขนาดมีการทำฝนเทียมเพื่อไม่ให้ฝุ่นกระจายตัว บางคนกังวลกับอุบัติภัยและอุบัติเหตุ กังวลต่อปัญหาสุขภาพจากอาหารการกิน แต่เราไม่ควรลืมความใส่ใจเรื่องโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เพราะเซ็กซ์กับมนุษย์คือของคู่กัน

แม้วันเอดส์โลก (1 ธ.ค.ของทุกปี) จะผ่านมาแล้ว แต่โรคนี้ยังไม่ได้หายไปจากโลก กรมควบคุมโรคกำหนดคำขวัญวันเอดส์โลกไว้ว่า “Know Your Status : ตรวจเร็ว รักษาเร็ว ยุติเอดส์” เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนได้รู้และเข้าใจในเรื่องของเอชไอวีและเอดส์

นานาประเทศมีเป้าหมายมุ่งยุติปัญหาเอดส์ร่วมกันภายในปี 2573 ซึ่งมีเป้าหมายหลัก 3 ประการ คือ ลดจำนวนผู้ติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่ ให้เหลือไม่เกินปีละ 1,000 คน ลดการเสียชีวิตในผู้ติดเชื้อเอชไอวี ให้ไม่เกินปีละ 4,000 คน ลดการรังเกียจและการเลือกปฏิบัติอันเกี่ยวเนื่องจากเอชไอวีและเพศสภาพลงจากเดิม 90%

กรมควบคุมโรค ระบุว่า การทำให้คนที่มีความเสี่ยงทุกคนเข้าถึงการตรวจเลือด และหาเชื้อเอชไอวีได้เร็ว เป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ ส่งเสริมการรักษาได้เร็ว ช่วยให้ผู้ติดเชื้อใช้ชีวิตและอยู่ในสังคมได้อย่างปกติ แม้ว่าผู้คนจะได้รับการศึกษา การสอน และการเตือนอยู่เสมอๆ ในทุกช่องทางสื่อสาร ทว่าเราต่างยังคงขาดความตระหนัก

โอกาสที่จะติดเชื้อเอชไอวีมากที่สุด คือ การมีเพศสัมพันธ์ทางช่องคลอดหรือทวารหนักกับผู้ติดเชื้อโดยไม่ป้องกันหรือรับประทานยาต้านเชื้อเอชไอวี รวมทั้งการใช้เข็มฉีดยาหรืออุปกรณ์เตรียมฉีดยาร่วมกับผู้ติดเชื้อเอชไอวี

ขณะสาเหตุอื่นๆ ก็มีอย่าง การแพร่เชื้อจากแม่สู่ลูกขณะตั้งครรภ์ ระหว่างการคลอด หรือผ่านการให้นมบุตร โดยจะมีความเสี่ยงสูง หากมารดาไม่ได้รับประทานยาสำหรับรักษาหรือต้านเชื้อเอชไอวี และผู้ที่ทำงานกับอุปกรณ์ที่อาจปนเปื้อนเชื้อเอชไอวี เช่น เข็มฉีดยา หรือของมีคม

สำหรับสาเหตุที่จะติดเชื้อเอชไอวีได้น้อยมาก (แต่ก็ยังรับเชื้อได้) ก็คือ การมีเพศสัมพันธ์ทางปาก การได้รับเลือด หรือการปลูกถ่ายอวัยวะจากผู้ติดเชื้อ การถูกกัดที่รุนแรงจนมีเลือดไหลหรือแผลฉีกขาดโดยผู้ติดเชื้อ การสัมผัสสารคัดหลั่งของผู้ติดเชื้อเอชไอวีกับบริเวณที่เป็นแผลหรือเยื่อเมือกบุผิว และการจูบแบบเปิดปาก หากทั้งสองฝ่ายมีแผลหรือมีเลือดออกตามไรฟัน และฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีเชื้อเอชไอวี อีกฝ่ายอาจติดเชื้อได้ แต่เชื้อเอชไอวีนั้นไม่ติดต่อกันผ่านน้ำลาย

“ข้อเท็จจริงข้างต้น ไม่ได้ต้องการให้ใครกลัว กังวล หรือเป็นทุกข์กับการใช้ชีวิต แต่คุณต้องรอบคอบ ระแวดระวัง และรู้จักป้องกันเสมอ ไม่เอาชีวิตและสุขภาพไปเสี่ยงกับเพศสัมพันธ์แบบขาดสติและขาดการป้องกันเด็ดขาด ที่สำคัญจำเป็นต้องดูแลสุขภาพให้แข็งแรงอยู่เสมอ

แม้ว่าเป็นผู้ติดเชื้อหรือไม่ก็ตาม ต้องหมั่นออกกำลังกาย และรับประทานอาหารหลักให้ครบหมู่ รับประทานอาหารเสริม วิตามิน เกลือแร่ และสารจำเป็นตามความเหมาะสมของร่างกายแต่ละคน ข้อย้ำว่าเอชไอวีไม่ใช่เรื่องไกลตัว แต่ไม่ใช่เรื่องน่ากลัว ที่ต้องทำคือควรตระหนักไว้เสมอว่าต้องใช้ชีวิตอย่างไร ไม่ปล่อยให้ความประมาทอยู่เหนือสติ” ศ.ดร.พิเชษฐ์ วิริยะจิตรา ทีมนักวิจัยจาก Operation BIM กล่าวปิดท้าย