posttoday

2 ศิลปินรุ่นใหม่ สะท้อนไทยสะท้อนชาติ

14 มกราคม 2562

เรื่อง : โยธิน อยู่จงดี

เรื่อง : โยธิน อยู่จงดี

ในเวลาที่ผู้คนต่างมุ่งหาผลงานศิลปะจากระดับปรมาจารย์ในวงการ ศิลปินรุ่นใหม่ต่างพยายามสร้างสรรค์ผลงานของตัวเองเพื่อหวังว่าสักวันจะมีคนเห็นคุณค่าในเส้นสายลายแปรงเหล่านั้น บางครั้งก็เกิดคำถามชวนคิดขึ้นมาว่า ในผืนผ้าสี่เหลี่ยมแท้จริงแล้วคุณค่าและมูลค่าของผลงานวัดจากตรงไหน ฝีมือ ชื่อเสียง หรือประสบการณ์

ในงานประกวดจิตรกรรมยูโอบี ครั้งที่ 9 เมื่อปลายปีที่ผ่านมามีผลงานจิตรกรรมแสนสวยงามมากมาย ถ้าไม่บอกว่านี่เป็นผลงานของเยาวชนเราก็คงคิดไปว่า นี่คือผลงานของศิลปินรุ่นใหญ่สักคนหนึ่ง ที่เราอาจไม่เคยรู้จักเขามาก่อน

หนึ่งในผลงานที่ได้รับรางวัลอันเป็นที่ยอมรับของเหล่าศิลปินรุ่นใหญ่ของวงการ ก็คือ ผลงาน “ไทยมุง” โดย อนันต์ยศ จันทร์นวล นักศึกษาคณะจิตรกรรม มหาวิทยาลัยศิลปากร และผลงานที่ไม่น่าเชื่อว่ามาจากฝีมือเด็กอายุ 12 ปี อย่าง “บันทึกความทรงจำหมายเลข 5” ของ ด.ช.วชิรวิทย์ สามารถ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนเทศบาลปลูกปัญญาในพระอุปถัมภ์ฯ จ.ภูเก็ต

กล้าสร้างสรรค์จึงสำเร็จ

“ผลงานที่สร้างสรรค์ได้แรงบันดาลใจมาจากแม่ค้า เนื่องจากเห็นแม่ค้านำเอาหุ่นรูปปั้นสัตว์ เช่น ไก่ เสือ ม้าลาย เอาไปตั้งไว้หน้าศาล ซึ่งเป็นความเชื่อว่าจะช่วยทำให้ค้าขายดีขึ้น จึงหยิบเอามุมนี้มานำเสนอผ่านผลงานจิตรกรรมภาพวาด ที่สื่อถึงแนวคิดเกี่ยวกับความเชื่อของคนไทยที่มีต่อวัตถุสะท้อนถึงความงมงายภายในสังคมไทย ความเสื่อมถอยทางความคิดและการกระทำ ความงมงายและความไม่สมเหตุสมผล ซึ่งทั้งหมดล้วนเกิดจากกิเลส” อนันต์ยศ เล่าถึงแรงบันดาลใจในผลงานของเขา หลังจากคว้ารางวัลเหรียญทอง ในประเภทศิลปินอาชีพ

“ผมเริ่มวาดรูปมาตั้งแต่เด็กๆ ผมชอบวาดรูป ตอนแรกก็วาดเพื่อความสนุก หลังจากนั้นก็ลองส่งผลงานเข้าประกวด พอได้รางวัลติดไม้ติดมือมาก็เริ่มมีความชอบ ทำให้การวาดรูปไม่ใช่แค่กิจกรรมยามว่างเท่านั้น แต่สามารถสร้างรายได้ให้ตั้งแต่อายุยังน้อย และเชื่อว่าพัฒนาเป็นอาชีพได้โดยมีหนึ่งในแรงบันดาลใจ

ที่ทำให้ผมสนใจส่งผลงานเข้าประกวดในรายการแข่งขันต่างๆ ก็คือ อาจารย์ของผมเอง สุกิจ ชูศรี ที่ได้รางวัลชนะเลิศในปีที่ผ่านมาทั้งในระดับประเทศและระดับภูมิภาค จนได้รับโอกาสโชว์ผลงานในเวทีศิลปะระดับนานาชาติอีกมากมาย ทำให้ผมมุ่งมั่นตั้งใจสร้างผลงานส่งเข้าประกวด โดยหวังว่าจะมีโอกาสได้นำผลงานไปโชว์ในระดับภูมิภาคต่อไป ถือเป็นเป้าหมายสูงสุดของผมและศิลปินหลายๆ คนแล้ว แต่ยอมรับว่าตั้งแต่ประกวดภาพวาดจิตรกรรมมาหลายครั้งหลายปี เวทีที่ยากที่สุดและไม่เคยได้เลย ก็คือ งานประกวดจิตรกรรมยูโอบี ผมส่งผลงานเข้าร่วมต่อเนื่องทุกปี และในปีนี้เข้าร่วมโครงการเป็นปีที่สามแล้ว ถือว่าประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย”

สิ่งสำคัญที่จะทำให้ประสบความสำเร็จในงานศิลปะ ก็คือ ความพยามยาม และการฝึกฝนไม่ยึดติด ศิลปะคือความงามในแบบที่ไม่มีกรอบบังคับ เป็นตัวของตัวเอง เราจะสังเกตได้อย่างหนึ่งว่า ผลงานที่สวยงามไม่เคยสร้างตามโจทย์ที่ได้รับ ศิลปินจึงถ่ายทอดผลงานออกมาได้อย่างงดงาม

“ทุกวันนี้มีเด็กรุ่นใหม่ในปัจจุบันหันมาเรียนศิลปะกันมากขึ้น ต่างจากเมื่อก่อนสมัยรุ่นอาจารย์ที่มักจะมีคนเรียนศิลปะกันไม่กี่คน โดยมองว่ากระแสและโอกาสในปัจจุบันทำให้เด็กและเยาวชนหันมาเลือกเรียนศิลปะกันมากขึ้น นอกจากนี้มองว่าการเรียนศิลปะไม่ได้เรียนเพื่อให้ตัวเองเท่ แต่การเรียนศิลปะช่วยทำให้เกิดสมาธิ ทำให้คิดผลงานได้แบบอิสระ ผลที่ตามมาก็คือได้เงินรางวัลจากการประกวด การขายผลงาน และทำให้สร้างชื่อเสียงให้กับตัวเอง ดังนั้นอาชีพศิลปินไม่ได้ไส้แห้งเสมอไปอย่างที่หลายคนเข้าใจ อาชีพนี้ยังผันตัวไปทำงานในสายอื่นได้อีกมาก”

นอกจากนี้ อนันต์ยศ ยังบอกอีกว่า การที่เราจะทำงานศิลปะโดยที่ไม่ได้ศึกษาหาความรู้จากศิลปินท่านอื่นเลยนั้น ค่อนข้างยากที่จะสามารถพัฒนาผลงานหรือได้แนวทางใหม่ๆ และสิ่งสำคัญคือการดูผลงานของศิลปินที่มีความใกล้เคียงกัน ทั้งแนวความคิดหรือรูปแบบ ทำให้เราสามารถพัฒนาหรือต่อยอดแนวความคิดและรูปแบบของผลงาน ให้ผลงานของเราพัฒนาไปในทิศทางที่ดีขึ้น

สำหรับเรื่องการสร้างสรรค์ผลงาน เริ่มจาการหาแรงบันดาลใจต่างๆ ในสิ่งที่ชอบและไม่ชอบ จากพฤติกรรมมนุษย์ สัตว์ สิ่งของ ธรรมชาติ จนออกมาในรูปแบบการร่างภาพ จะวาดบ่อยๆ วาดแบบไม่เป็นรูปเป็นร่าง วาดแบบไม่คิด เพราะอยากจะให้รูปออกมาจากจิตลึกๆ ของตัวตน

พอเริ่มสร้างผลงานจริง บางเวลาก็เกิดความรู้สึกใหม่ที่ไม่เหมือนภาพร่างที่วางไว้ ก็ต้องปรับเปลี่ยน ผลงานจึงไม่เหมือนภาพที่ร่างไว้เลย แต่สำหรับผมแล้วสิ่งนี้เป็นเสน่ห์ของผลงาน ทำให้เกิดสิ่งใหม่ๆ ในผลงานได้ตลอดเวลาในการทำงาน รู้สึกประหลาดใจและแปลกใจที่ได้คิดตัวละครใหม่ๆ และรู้สึกสนุกในการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า เพราะจินตนาการนั้นมันยากที่จะควบคุมให้อยู่ในกฎในกรอบ เมื่อปลดปล่อยไปตามธรรมชาติเราจึงพบสิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอ

2 ศิลปินรุ่นใหม่ สะท้อนไทยสะท้อนชาติ

2 ศิลปินรุ่นใหม่ สะท้อนไทยสะท้อนชาติ

 

ลายไทยใจอนุรักษ์

ด.ช.วชิรวิทย์ หรือน้องอามานี่ หลายคนกล่าวตรงกันว่า เขาคือศิลปินเด็ก ไม่ใช่ศิลปินสมัครเล่นหรือมือใหม่ เพราะด้วยผลงานสุดวิจิตรจนแทบไม่น่าเชื่อว่าจะมาจากฝีมือเด็กอายุ 12 ปี ทำให้น้องได้รับรางวัลไปอย่างไรข้อกังขา อามานี่เล่าให้พี่ๆ ฟังว่า “ชอบวาดรูปมาตั้งแต่อายุ 5 ขวบ พออายุประมาณ 9 ขวบ เริ่มหันมาชอบการวาดรูปที่แสดงถึงเอกลักษณ์วัฒนธรรมไทย เพราะได้เห็นผลงานของอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ รู้สึกทึ่งในความสวยงามในเอกลักษณ์ลายไทย อยากจะวาดภาพไทยให้ชาวต่างชาติได้เห็นถึงความงดงามของศิลปะของไทย อย่างอาจารย์เฉลิมชัยบ้าง”

หากยังจำกันได้เมื่อปี 2560 เด็กน้อยวัย 10 ขวบ ได้วาดภาพจิตรกรรมลายไทยลงทอง ในชื่อผลงาน “พระราชาของอามานี่ซึ่งเป็นผลงานที่ใช้เวลาทำหลังเลิกเรียนนานถึง 50 วัน สวยงามจนได้รับรางวัลพระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

นอกจากนี้ อามานี่ยังสร้างสรรค์ผลงานศิลปะอีกมากมายหลายชิ้น ล้วนแต่เป็นผลงานที่แสดงความเป็นไทยทั้งสิ้น ผลงานส่วนใหญ่ของอามานี่จะถูกนำไปจัดแสดงและประมูล เพื่อนำเงินจากการประมูลทั้งหมดไปใช้เพื่อการกุศล หรือการเรียนรู้และสร้างสรรค์งานศิลปะควรเป็นไปเพื่อให้เกิดศิลปะเท่านั้น เช่น ซื้อสีและอุปกรณ์สำหรับงานศิลปะส่งไปให้โรงเรียนต่างๆ แต่ละภาพจะเริ่มประมูลที่ราคา 99 บาท ซึ่งบางภาพมีผู้สนใจประมูลให้ราคาสูงถึง 3 หมื่นกว่าบาทก็มี

“ผลงานที่ผมส่งชื่อว่า ‘บันทึกความทรงจำหมายเลข 5’ เป็นการใช้หมึกดำและสีอะครีลิกบนผ้าใบสะท้อนความงดงามของศิลปะไทย โดยภาพที่วาดเป็นภาพของตู้พระธรรมภายในวัดที่มีลวดลายไทยวิจิตรสวยงาม มีแนวคิดคือความงดงามของศิลปะไทยที่ไม่ได้เลือนหายไปตามกาลเวลา ไม่ว่าจะเป็นงานเก่าหรือใหม่ก็มักจะมีความงดงามและมีคุณค่า ศิลปินต้องการจะอนุรักษ์ความเป็นไทยและศิลปะไทยให้คงอยู่ โดยภาพนี้ใช้เวลาในการวาดนาน 2 เดือน

ผมรู้สึกดีใจและภูมิใจที่ได้เข้าร่วมโครงการนี้ เพราะผมต้องการสะท้อนความเป็นไทยออกมาผ่านผลงานการวาดของผม ให้คนทั่วโลกได้เห็นถึงความงดงามของศิลปะไทย ก่อนหน้านี้ก็เคยส่งผลงานเข้าร่วมประกวดหลายเวที ก็มีทั้งได้รางวัลบ้างและไม่ได้รางวัล อยากจะบอกเพื่อนๆ ว่าอย่าท้อ จงหมั่นฝึกฝน อ่านหนังสือ ถามอาจารย์ หรือศึกษาข้อมูลเยอะๆ แล้วคิดสร้างสรรค์ผลงานออกมาเรื่อยๆ โดยนำเอาความถนัด ความชอบ สไตล์ของตัวเองสื่อออกมา จะช่วยทำให้ผลงานมีมุมมองที่น่าสนใจมากขึ้น

ใครที่ยังค้นหาตัวเองไม่เจอ ให้เริ่มจากการใช้เวลาว่างของตนเองทำในสิ่งที่ตัวเองชอบ โดยเฉพาะศิลปะ หากทำแล้วสนุก ชอบ และมีความสุขก็จงทำต่อไป ค่อยๆ ฝึกฝนพัฒนาไป เมื่อพร้อมก็ลองส่งผลงานเข้าประกวดก็จะได้ประสบการณ์ที่ดีทำให้พัฒนาตัวเองได้ เก็บคำติชมต่างๆ จากคณะกรรมการเอามาคิดพัฒนาแก้ไขให้ดีขึ้น แล้วฝีมือการวาดภาพของเราจะดีขึ้นเรื่อยๆ”

2 ศิลปินรุ่นใหม่ สะท้อนไทยสะท้อนชาติ

2 ศิลปินรุ่นใหม่ สะท้อนไทยสะท้อนชาติ