posttoday

‘เธย่า’ สวารีย์ เตชะเจริญอนันต์ หนูน้อยนักเปียโนเลือดไทย อัจฉริยะดังไกลทั่วโลก

01 ธันวาคม 2561

ปัจจุบันในแวดวงดนตรีคลาสสิก น้อยคนที่จะไม่รู้จักน้อง “เธย่า” ด.ญ.สวารีย์ เตชะเจริญอนันต์ หนูน้อยวัย 8 ขวบ

โดย อักษร วิสุมา

ปัจจุบันในแวดวงดนตรีคลาสสิก น้อยคนที่จะไม่รู้จักน้อง “เธย่า” ด.ญ.สวารีย์ เตชะเจริญอนันต์ หนูน้อยวัย 8 ขวบ สุดยอดนักเปียโนชาวไทยที่ประสบความสำเร็จบนเวทีโลก และคว้ารางวัลอันดับ 1 มาเชยชมมากมาย

เธย่าเคยได้รับเชิญไปร่วมแสดงเปียโนในคอนเสิร์ต “Peter and the Wolf, Op.67” ประชันความสามารถร่วมกับเหล่าศิลปินชั้นนำด้านดนตรีคลาสสิกระดับโลก อย่าง “วงโปรมูสิก้า” ต้องตะลึงกับความสามารถของน้องเธย่าที่เล่นเปียโน บรรเลงเพลงคลาสสิกอันแสนไพเราะจนสะกดจิตผู้ชมเงียบกริบ หลังบรรเลงเพลงจบผู้ชมยืนขึ้นปรบมือให้เสียงดังสนั่นก้องไปทั้งห้อง

เก่งเกินวัยเด็กรุ่นเดียวกัน

‘เธย่า’ สวารีย์ เตชะเจริญอนันต์ หนูน้อยนักเปียโนเลือดไทย อัจฉริยะดังไกลทั่วโลก

กว่าเธย่าเดินทางถึงจุดนี้ได้ต้องผ่านการฝึกฝนการเล่นเปียโนมาตั้งแต่เล็ก ด้วยความมุ่งมั่น ใจรัก บวกกับความอัจฉริยะมาตั้งแต่เกิด ทำให้เธย่ามีความสามารถในการเล่นเปียโนเกินวัยเด็กรุ่นเดียวกัน เมื่ออายุ 6 ขวบ บิดามารดาพาหนูน้อยไปตระเวนแข่งขันการแสดงเปียโนทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งก็ไม่ทำให้ผิดหวังสามารถกวาดรางวัลต่างๆ มาเชยชมและการันตีความเก่งกาจมาแล้ว 4 เวที

การเดินสายไปประกวดเวทีการแสดงเปียโนต่างประเทศ ครั้งแรกเดือน ก.ย. 2559 ซึ่งก็สามารถคว้ารางวัลชนะเลิศอันดับ 1 รายการ Vienna Grand Prize Virtuoso International Music Competition จากความสามารถอันสุดทึ่งของเด็กชาวไทยที่ชาวต่างชาติเห็นความสามารถแสดงเปียโน
เกินวัย ทำให้ฝ่ายจัดงานต้องเชิญไปแสดงที่ Musikverein Wien ในกรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย ทำให้ชาวต่างชาติรู้จักเธอมากขึ้น

ในช่วงเดือน พ.ย. ปีเดียวกัน เธย่าสร้างความตกตะลึงให้กับผู้ชมทั้งห้อง เมื่อสร้างปรากฏการณ์ใหม่อีกครั้งด้วยการคว้ารางวัลชนะเลิศอันดับ 1 ในรายการ Golden Classical Music Awards International Music Competition ชื่อเสียงดังกระหึ่มมากยิ่งขึ้น จึงได้รับเชิญไปแสดงเปียโนที่ Carnegie Hall ในมหานครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา

ในช่วงเดือน เม.ย. 2560 ชนะเลิศอันดับ 1 การประกวดในรายการ London Grand Prize Virtuoso แล้วยังได้รับเชิญไปแสดงที่ Royal Albert Hall ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ในเดือน ต.ค. ปีเดียวกัน ได้รับรางวัลชนะเลิศการประกวดเพลงบังคับยอดเยี่ยมในกลุ่ม A (เด็กเล็ก) และรางวัลพิเศษในการแข่งเปียโน จัดโดยสถาบัน ABRSM ประเทศอังกฤษ ซึ่งยกทีมงานมาจัดในประเทศไทย

ปัจจุบัน เธย่ากำลังศึกษาอยู่ที่โรงเรียนนานาชาติ บางกอกพัฒนา ในชั้น Year 4 หรือประถมศึกษาปีที่ 3

มุ่งมั่น ไม่ท้อ ใฝ่เรียนรู้

‘เธย่า’ สวารีย์ เตชะเจริญอนันต์ หนูน้อยนักเปียโนเลือดไทย อัจฉริยะดังไกลทั่วโลก

เธย่า เล่าว่า ทุกวันยังไปเรียนเปียโนไม่เคยขาด เพราะการเรียนเปียโนไม่มีวันสิ้นสุด และต้องคิดตลอดเวลา วันที่มาเรียนเปียโน คือวันแรกของชีวิตที่รู้สึกว่ามันยากมาก แม้ว่ามีย่อท้อบ้างบางวันบางเวลา แต่ได้กำลังใจจากคุณพ่อคุณแม่ปลอบขวัญ และที่สำคัญมีไอดอลอยู่ในดวงใจ คือ อาจารย์อร หรือ ดร.พรพรรณบรรเทิงหรรษา นักดนตรีคลาสสิกมือเปียโนชั้นนำของประเทศไทย ที่คอยให้กำลังใจตลอดมา ที่สำคัญอยากเก่งเหมือนอาจารย์อร จึงพยายามตั้งใจเรียน ฝึกฝน เรียนรู้ จนเปียโนกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตไปแล้ว

“ทำให้ทุกวันนี้การฝึกฝน การเรียนเปียโนไม่ยากอย่างที่คิด เพียงตั้งใจ เชื่อฟังคำสอนของอาจารย์อย่างมีสติ ตลอดทั้งฝึกซ้อมอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง และยังได้รับแรงบันดาลใจหลักจากอาจารย์อร กระตุ้น ดึงความสามารถ ความอัจฉริยะของเธอ ทำให้เล่นเปียโนอย่างง่ายดาย ไม่เพียงแต่อาจารย์อร
สอนเก่ง และเอาใจสอนลูกศิษย์ทุกกระเบียดนิ้ว จึงทำให้เธอเล่นเปียโนเก่งได้” เธย่า กล่าวด้วยรอยยิ้มอันสดใส

ในส่วนของประสบการณ์การเล่นเปียโนในช่วงอายุระหว่าง 5-8 ขวบนั้น เธย่า บอกว่า ที่ผ่านมาจากการเรียนดนตรีทำให้มีสมาธิและมีความอดทน สามารถควบคุมอารมณ์ของตนเองได้แม้จะอยู่ในช่วงเวลาคับขัน มีประสบการณ์ชีวิตหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการทำงานร่วมกับคนรุ่นเดียวกันหรือเป็นผู้ใหญ่มากกว่า ฝึกฝนในเรื่องของการแบ่งเวลา การวางแผน และการวางเป้าหมายให้สามารถเดินตามความฝันของเด็กหญิงคนหนึ่งที่รักในงานการแสดง และมีความสุขทุกครั้งที่ได้ขึ้นแสดงบนเวที

เธย่า บอกว่า ตื่นเต้นทุกครั้งที่ได้เรียนเปียโน แต่ในความตื่นเต้นก็ยังแฝงความภาคภูมิใจที่ได้มาอยู่ตรงนี้ ได้แสดงต่อหน้าผู้คนมากมาย ที่ใครหลายคนอาจจะยังไม่มีโอกาสได้ก้าวมาถึงตรงจุดนี้

“หนูเริ่มต้นเรียนเปียโนกับอาจารย์อร ผู้ก่อตั้ง Piano Academy of Bangkok ตั้งแต่อายุ 6 ขวบ จนถึงปัจจุบัน โดยทุกการแข่งขันที่ผ่านมา อาจารย์อรจะเป็นผู้วางแผนและฝึกฝนเปียโนให้ตลอดมา ช่วงแรกๆ รู้สึกว่าเปียโนเรียนยากมาก แต่ตอนนี้เรียกได้ว่าคุ้นเคยแล้ว พร้อมที่จะก้าวสู่การแสดงเปียโนบนเวทีโลก”

หลังจากไปร่วมการแสดงคอนเสิร์ต Peter and the Wolf ผู้ชมชาวไทยและต่างชาติต่างยอมรับฝีมือเธย่าในการบรรเลงเปียโนได้ไพเราะจับใจ กว่าที่มาถึงตรงนี้ เธย่า บอกว่าได้ทำการซ้อมหนักมากเป็นเวลานานถึง 4 เดือนเต็ม เนื่องจากการทำงานร่วมกับวงผู้ใหญ่มืออาชีพนั้น ต้องศึกษารายละเอียดเยอะมาก จะพลาดไม่ได้ เพราะงานจะเสียหาย

การแสดงคอนเสิร์ตครั้งที่ผ่านมา เธย่าเปิดคอนเสิร์ตโดยการบรรเลงเปียโนเดี่ยว 3 เพลง ก่อนเริ่มคอนเสิร์ต สำหรับในส่วนคอนเสิร์ตนั้น เธอเล่นเปียโนในบทบาทของหมาป่าในเรื่อง Peter and the Wolf โดยมี ภัทราวดี มีชูธน ศิลปินแห่งชาติ บรรยายเล่าเรื่องหมาป่า

ครอบครัว คือกำลังสุดสำคัญ

‘เธย่า’ สวารีย์ เตชะเจริญอนันต์ หนูน้อยนักเปียโนเลือดไทย อัจฉริยะดังไกลทั่วโลก

ความสำเร็จดังกล่าวจะเกิดขึ้นไม่ได้ หากขาดกำลังใจที่จะเป็นแรงสนับสนุนอย่างดีให้กับเธย่า คือครอบครัว ซึ่งคุณแม่ ธัญยธรณ์ เตชะเจริญอนันต์ กล่าวว่า ครอบครัวเริ่มให้การสนับสนุนเธย่าตั้งแต่เด็ก โดยเมื่อ 2 ปีที่แล้ว อาจารย์อรได้แสดงความเห็นกับครอบครัวว่า เธย่ามีพรสวรรค์ด้านเปียโน โดยเฉพาะมือที่เป็นธรรมชาติ สมาธิดี และสามารถเล่นเพลงได้อย่างดีเยี่ยม

“การที่เด็กคนหนึ่งจะประสบความสำเร็จตอนอายุยังน้อย ส่วนตัวเชื่อว่าเกิดจาก 3 องค์ประกอบ คือ 1.ตัวเด็กเอง 2.พ่อแม่ต้องให้การสนับสนุน 3.ต้องเจออาจารย์ผู้สอนที่ใช่ เราพยายามสอนให้น้องทำตัวเหมือนเด็กทั่วไป ช่วยวางแผนให้น้อง และให้ความสำคัญกับการนัดครู โดยจะฝึกให้น้องให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ด้วย

ในฐานะแม่ เราภูมิใจในตัวน้องอยู่แล้ว และบอกน้องเสมอว่าความสำเร็จไม่ได้มีมาง่ายๆ ทุกอย่างต้องมีการวางแผนและการแบ่งเวลาที่ดี ทุกคนเกิดมาเหมือนกันหมด ทุกอย่างอยู่ที่ความตั้งใจ ทุกอย่างก่อนที่จะได้มามีทั้งสมหวังและผิดหวัง ไม่มีใครจะสมหวังหมด

อีกเรื่องที่คิดว่าช่วยให้น้องมีสมาธิและมีสติ คือ การส่งน้องไปปฏิบัติธรรมทุกปี ปีนี้เป็นปีที่ 2 ของยุวพุทธของคุณแม่สิริ ที่พยายามเดินสายกลางในทุกเรื่อง เพราะอยากทำให้เขารู้สึกภูมิใจในสิ่งที่เขาทำและไม่อยากให้ทิ้ง”

‘เธย่า’ สวารีย์ เตชะเจริญอนันต์ หนูน้อยนักเปียโนเลือดไทย อัจฉริยะดังไกลทั่วโลก

ในอนาคตทางครอบครัวอยากจะให้เธย่าเดินหน้าสานต่อดนตรีคลาสสิกตรงนี้ การเล่นดนตรีเป็นความรู้ที่ติดตัวโดยที่ใครก็ไม่สามารถเอาจากเธย่าไปได้ เพราะเป็นอาชีพติดตัว หรือมีพรสวรรค์ติดตัว ไม่ว่าจะเป็นด้านกีฬา ดนตรี หรืออะไรก็ตาม และยังสามารถนำไปต่อยอดได้ทั่วโลก

ธัญยธรณ์ กล่าวว่า ที่เลือกดนตรีคลาสสิกให้กับลูก เพราะคลาสสิกเป็นดนตรีที่ซับซ้อนและต้องเรียนมาตั้งแต่เด็ก การใช้นิ้วมือ หรือประสาทสัมผัสทุกอย่างต้องเริ่มเรียนรู้มาตั้งแต่เด็กจริงๆ ดนตรีถือว่าเป็นภาษาอีกภาษาหนึ่ง ที่ทางครอบครัวจะให้เธย่ามุ่งไปถึงขั้นสูง แต่ไม่ได้คาดหวังว่าน้องจะต้องเป็นนักเปียโนชื่อดังระดับโลก

“ไม่อยากให้เธย่าทิ้ง เพราะในอนาคตสามารถเล่นดนตรีทั้งในประเทศและต่างประเทศได้ ในฐานะความเป็นแม่ลงทุนให้เธย่าได้เท่านี้ แต่ให้ค่อยเป็นค่อยไป ไม่อยากทำให้ขาดชีวิตความเป็นวัยเด็ก ยังคงให้เล่นกับเพื่อนๆ เหมือนปกติทั่วไป”