posttoday

L’Etape Phang Nga 2018 งานปั่นจักรยานยอดเยี่ยมแห่งปี

11 พฤศจิกายน 2561

ผานพ้นกันไปแล้วกับงานปั่นจักรยานที่ยิ่งใหญ่ระดับประเทศ เลต๊าป พังงา 2018

โดย Withaya Heng ภาพ : L’Etape Thailand 

ผานพ้นกันไปแล้วกับงานปั่นจักรยานที่ยิ่งใหญ่ระดับประเทศ เลต๊าป พังงา 2018 (L’Etape Phang Nga 2018 by Le Tour de France) งานปั่นตามรอยโปรที่จัดขึ้นโดยใช้มาตรฐานเดียวกับการจัดการแข่งขัน ตูร์ เดอ ฟรองซ์ (Tour de France) ที่ฝรั่งเศส แต่ที่นี่คุณจะเป็นมือโปรหรือจะแค่มือสมัครเล่นก็สามารถมาร่วมปั่นได้หมด เพราะมีการจัดการที่ยอดเยี่ยมและมาตรฐานความปลอดภัยเหนือระดับจริงๆ

เท้าความสักนิดว่างานนี้เกิดขึ้นได้ด้วยความร่วมมือจากหลายฝ่ายทั้งภาครัฐและเอกชน ไล่เรียงมาตั้งแต่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา TCEB ททท. การกีฬาแห่งประเทศไทย สมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยฯ สมาคมกีฬาแห่งจังหวัดพังงา สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดพังงา สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส โดยมี จ.พังงา รับหน้าที่เป็นเจ้าบ้าน และบริษัท มูฟ เอเชีย เป็นผู้ดำเนินการจัดงานทั้งหมดภายใต้การรับรองมาตรฐานจากผู้จัด ตูร์ เดอ ฟรองซ์ ผลจากการร่วมมือกันอย่างจริงจังของทุกฝ่ายผนวกกับประสบการณ์ในการจัดงานวิ่งมาอย่างช่ำชองของมูฟ เอเชีย ทำให้งาน เลต๊าป พังงา 2018 ถือได้ว่าเป็นงานปั่นจักรยานที่จัดได้ดีที่สุดในประเทศไทยรายการหนึ่งเลย

งานนี้ออกมาดีได้เพราะอะไร

L’Etape Phang Nga 2018 งานปั่นจักรยานยอดเยี่ยมแห่งปี

นอกจากความสวยงามของวิวสองข้างทางตลอดเส้นทางปั่นทั้งแบบ 70 กม.และ 140 กม. เส้นทางที่มีเนินขึ้นลงกว่า 80% ที่ตอนแรกเหมือนจะน่ากลัว แต่เอาจริงแล้วกลับทำให้ปั่นสนุกและเหนื่อยน้อยกว่าปั่นทางราบเสียอีก แต่สิ่งที่ทำให้เราประทับใจมากๆ คือสภาพของผิวถนนที่เรียบกริบ น่าจะเป็นงานเดียวที่ทางจังหวัดเจ้าภาพลงทุนปรับปรุงถนนให้เพื่อการนี้

ความปลอดภัยในการปั่นก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่น่าประทับใจ เป็นเรื่องเหลือเชื่อมากๆ ว่าเราได้ปั่นในถนนที่มีการปิดการจราจรแบบ 100% ตลอดเส้นทางและตลอดงาน! ไม่ใช่ปิดถนนแค่ตอนปล่อยตัว พอที่หนึ่งเข้าเส้นชัยก็ปล่อยรถออกมาแล้ว คนที่เหลือปั่นไปได้ยังไม่ถึงครึ่งทางก็ปั่นต่อไปตามยถากรรม สตาฟฟ์ที่มีมากถึง 400 คน ต่างทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยม มีสตาฟฟ์คอยเตือนในจุดอันตราย เช่น ทางโค้งลงเขา ช่วงทางเปียกลื่น และช่วยเคลียร์เส้นทางช่วงที่หัวขบวน 140 กม. ที่มาด้วยความเร็วแล้วต้องมาบรรจบกับกลางขบวนของ 70 กม. ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้คือ เป็นงานที่เกิดอุบัติเหตุน้อยมากๆ และเป็นเพียงอุบัติเหตุเล็กน้อยเท่านั้น

L’Etape Phang Nga 2018 งานปั่นจักรยานยอดเยี่ยมแห่งปี

นอกจากเส้นทางที่ดีความปลอดภัยที่เยี่ยมยอดแล้ว คิวปล่อยตัวคือหัวใจสำคัญในความสำเร็จของงานนี้ การแบ่งกลุ่มนักปั่นเป็น Wave 0-5 โดยมีเวลา Cut Off เป็นตัวกำหนดและให้นักปั่นเลือกเองตามความสามารถตั้งแต่ตอนสมัคร เมื่อถึงวันปั่นจริงก็ปล่อยตัวเหลื่อมเวลากัน Wave ละประมาณ 5 นาที ทำให้การจราจรในการปั่นเป็นไปอย่างลื่นไหล เหนืออื่นใดคือความตรงต่อเวลา เป็นอีกจุดหนึ่งที่เข้มงวดมากตามมาตรฐานของ ตูร์ เดอ ฟรองซ์ เราจึงไม่เห็นภาพชินตาที่มีข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ขึ้นเวทีมาปราศรัยร่ายยาว ในขณะที่นักปั่นยืนตากแดดหัวแดงหมวกแทบละลายอยู่หน้าจุดสตาร์ท ทุกอย่างเป็นไปตามกำหนดการแบบเป๊ะๆ และความตรงต่อเวลานี้เองเปรียบเสมือนการกลัดกระดุมเม็ดแรกให้ถูกต้อง (ไม่เกี่ยวกับวาทกรรมทางการเมืองนะจ๊ะ) ถ้าเราเริ่มต้นในสิ่งถูกต้องอย่างที่ถูกที่ควรแล้ว สิ่งที่ตามมาก็จะจัดการง่ายขึ้น ซึ่งผลก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ

ตลอดเส้นทางที่เราปั่น 70 กม. มีชาวบ้านออกมาชมด้วยความสนใจ บางบ้านจูงลูกจูงหลานออกมายืนเชียร์ คุณยายเอาเก้าอี้มานั่งใต้ร่มไม้ดูขบวนนักปั่น เราเห็นภาพน่ารักๆ แบบนี้ไปตลอดทาง จนถึงหน้าเส้นชัยเป็นภาพที่ชาวเมืองตะกั่วป่ายืนเรียงรายสองข้างทางโบกธงต้อนรับ ส่งเสียงเชียร์นักปั่นสปรินต์เข้าเส้นชัย ผมเชื่อว่าไม่ว่าจะเป็นใครถ้าอยู่ตรงนั้นจะต้องได้รับความประทับใจกลับไปแบบไม่รู้ลืม

L’Etape Phang Nga 2018 งานปั่นจักรยานยอดเยี่ยมแห่งปี

ร่ายยาวมาจนจะหมดหน้ายังไม่เจอข้อเสีย... มีครับ เรื่องใหญ่ด้วย... จุดบกพร่องที่ผู้จัดควรนำไปปรับปรุงอย่างที่สุดคือ การประชาสัมพันธ์ไปสู่กลุ่มเป้าหมาย งานนี้มีผู้เข้าร่วมต่ำกว่าเป้าหมายไปเยอะเลย ก็เพราะนักปั่นส่วนใหญ่ยังไม่รู้เลยว่า งานนี้จริงๆ แล้วเป็นงานอะไร สอบถามหมู่นักปั่นที่เป็นเพื่อนฝูงกันส่วนใหญ่จะเข้าใจไปว่าเป็นงานแข่งขันเก็บคะแนนระดับโปรทัวร์ หรือเป็นงานโปรโมทการแข่งขัน ตูร์ เดอ ฟรองซ์ ไปนั่น ทั้งๆ ที่ความเป็นจริงคืองานปั่นตามรอยโปรที่ไม่ว่าจะเป็นโปรหรือมือสมัครเล่นเข้าร่วมได้หมด

ตรงจุดนี้ต้องฝากถึงผู้จัดเป็นการบ้านสำหรับปีต่อไป ช่วยประชาสัมพันธ์ไปให้ถึงนักปั่นกลุ่มเป้าหมายจริงๆ ส่วนใครที่พลาดงานครั้งนี้ปีหน้าห้ามพลาดแล้วนะครับ อยากให้นักปั่นทุกๆ คนได้สัมผัสประสบการณ์ดีๆ แบบที่ผมได้รับจากงานในปีนี้ครับ