posttoday

เตรียมตัวไป(เที่ยว)พักร้อน

29 ตุลาคม 2561

ใครติดกลุ่มคนทำงานสัปดาห์ละ 6 วัน ทำงานไปยาวๆ ต่อเนื่องแบบนี้ มานานๆ หลายปี หรือออกจากออฟฟิศเป็นคนสุดท้าย 4-5 ทุ่มแทบทุกคืน

โดย...เรื่อง ราตรีแต่ง

ใครติดกลุ่มคนทำงานสัปดาห์ละ 6 วัน ทำงานไปยาวๆ ต่อเนื่องแบบนี้ มานานๆ หลายปี หรือออกจากออฟฟิศเป็นคนสุดท้าย 4-5 ทุ่มแทบทุกคืน หลับก็ยังอุตส่าห์ฝันถึงงาน หรือจำไม่ได้แล้วว่าลาพักร้อนครั้งสุดท้ายไปเมื่อไร?!! ไม่รวมความรู้สึกผิดที่แทบตัดขาดปฏิสัมพันธ์กับครอบครัว เพื่อนสนิท และคนที่รัก ไปจนรู้สึกขาดพลังและความกระตือรือร้นในการทำงาน กลายเป็นคนทำงานที่แต่ละวันก็โหยหาแต่วันหยุด

นี่คือสัญญาณและเหตุผลที่ควรเขียนใบลาพักร้อน ถือเป็นเรื่องเร่งด่วนจำเป็นต่อชีวิตกันเลยทีเดียว

วันหยุดพักผ่อนประจำปี หรือที่เรียกว่าวันพักร้อน เป็นสิทธิของพนักงาน ตามกฎหมายแรงงานเมื่อทำงานครบ 1 ปี จะได้สิทธิพักร้อนขั้นต่ำการลา 6 วันต่อปี เป็นสวัสดิการที่ทุกบริษัทควรมี เพราะเป็นผลดีทั้งต่อบริษัท และต่อศักยภาพของพนักงาน

การหยุดพักร้อนไม่ว่าจะหยุดระยะสั้นๆ สำหรับพนักงานใหม่ หรือหยุดยาวๆ สำหรับพนักงานรุ่นใหญ่ ล้วนเป็นสิ่งจำเป็นต่อคนทำงานทั้งนั้น อย่ากระนั้นเลย วางแผนเตรียมตัวหยุดยาวกันเถอะ

วางแผน(ให้ดี)ก่อนพักร้อน

แม้วันลาจะเป็นสิทธิอันชอบธรรมที่มนุษย์ออฟฟิศทุกคนจะพึงมี พึงได้มากน้อยต่างกันตามอายุงาน แต่อย่างที่รู้ๆ กันโดยมารยาท และโดยน้ำใจให้เพื่อนที่ประจำอยู่ออฟฟิศ ซึ่งเขาอาจจะต้องรับผิดชอบแทนเรา เมื่อเกิดสถานการณ์มีงานเร่งด่วน หรืองานผิดพลาดให้ต้องแก้ไขแทนเจ้าของงาน

คนลางานจึงไม่สามารถลาตามอำเภอใจ นึกอยากจะหยุดเมื่อไรก็หยุด เพราะตราบใดที่ต้องทำงานร่วมกันเป็นทีมทั้งงานที่ต้องประสานกับคนอื่นๆ ในออฟฟิศ และหน่วยงานข้างนอก เราจึงจำเป็นต้องลาอย่างมีแผน เพื่อทุกฝ่ายจะได้เข้าใจ และเราเองก็ได้หยุดอย่างสบายใจด้วยเช่นกัน

หัวหน้าอนุมัติใบลา เข้าใจเหตุผลการลาของเรามากน้อยเพียงใด เช่น การลาพักร้อนไปเที่ยวต่างประเทศไกลๆ ไปหลายๆ วันเพื่อให้คุ้มค่าตั๋ว เป็นความฝันตั้งใจมานาน เป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางที่อยากไปทันทีที่มีโอกาส เหตุผลเหล่านี้บอกชัดเจนล่วงหน้าสัก 2 อาทิตย์ วันหยุดพักร้อนเป็นประเภทการลาที่มีการวางแผนการไว้ล่วงหน้า จึงไม่ควรส่งผลเสียกับองค์กรมากนัก ก่อนไปก็น่าจะต้องเป็นเรื่องที่ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย เที่ยวสนุกสนานสบายใจตลอดทริป กลับมาแล้วมีขนม ของฝากเล็กๆ น้อยๆ ติดไม้ติดมือมาให้ทีมงาน หรือคนที่เราฝากฝังการงานช่วงที่เราลาไปเที่ยว เป็นพิเศษสัก 2-3 อย่าง ก็เป็นน้ำใจคนทำงานที่เอื้อเฟื้อต่อกัน

เตรียมตัวไป(เที่ยว)พักร้อน

ไม่(ควร)ติดงานไปเที่ยวด้วย

ถ้าหากต้องลาหยุดหลายๆ วันติดต่อกัน ซึ่งเป็นเรื่องแน่นอนอยู่แล้วงานของเราต้องเคลียร์เรียบร้อยไม่กระทบกับองค์กร ไม่เอาเปรียบเพื่อนร่วมงาน แต่อย่าให้ใครเป็นแบบนี้เลย แม้วันลาหยุดไปเที่ยวต่างจังหวัดก็ยังอุตส่าห์ขนแล็ปท็อปไปด้วย กังวลงานไม่เรียบร้อยเบ็ดเสร็จ หรืออาจมีปัญหาช่วงไม่อยู่ออฟฟิศ แทนที่จะได้พักร้อน ก็เลยกลับกลายเป็นว่า เปลี่ยนที่ทำงานจากออฟฟิศไปทำงานในห้องพักของโรงแรมแทน

โทรศัพท์สมาร์ทโฟนคือสิ่งอำนวยความสะดวก (มาก) แม้เป็นข้อดีของความก้าวหน้าของเทคโนโลยี สามารถจะเช็กอีเมลเมื่อไรก็ได้ แต่ข้อเสียก็คือทำให้เรามีเวลาส่วนตัวน้อยลงทุกที และแต่สิ่งที่ตามมา ก็เหมือนกับการพกงานติดตัวตลอดเวลา กดดูอีเมลตอน 4-5 ทุ่ม
ก็อดไม่ได้เลยเมื่อเปิดอ่านแล้วต้องตอบอีเมลฉบับนั้นทันที

วิธีแก้ปัญหาเรื่องนี้ ตั้งอีเมลในรูปแบบของ Out-of-Office ตอบกลับอัตโนมัติแจ้งผู้ติดต่อว่าเราอยู่ในช่วงพักร้อน แล้วจะกลับมาทำงานอีกครั้งเมื่อไร หากมีธุระเร่งด่วนให้ติดต่อได้ที่ใคร ระบุชื่อ และช่องทางในการติดต่อของผู้ที่รับผิดชอบงานแทนระหว่างที่เราไม่อยู่เอาไว้ด้วย

ถ้าอยากสบายใจกว่านี้ ควรวางแผนทำงานให้เสร็จสิ้นไปที่ออฟฟิศ อย่าติดงานไปเที่ยวด้วยเลย เพราะวันพักคือสิ่งที่ชุ่มชื่นหัวใจ แล้วการลาไปพักผ่อนกันยาวๆ ก็เป็นวันเฝ้ารอสำหรับชาวออฟฟิศ ที่ทำงานหนักตลอดทั้งปี เป็นเหมือนจุดแวะพักที่เราได้ไปชาร์จแบตตัวเอง ได้ไปทำสิ่งที่ชอบ ได้ไปจัดการด้านอื่นๆ ของชีวิตที่นอกเหนือจากการทำงาน

มีเพื่อนไว้ใจได้ในออฟฟิศ

ไม่แค่เป็นเรื่องดีมากๆ แต่ต้องนับเป็นคนทำงานที่มีโชคมีวาสนาดี ถ้าเรามีเพื่อนร่วมงานที่ฝากฝังได้ ซึ่งอย่างน้อยที่สุด ช่วยเคลียร์เรื่องจำเป็นเร่งด่วนทดแทนได้ หากเกิดขึ้นในช่วงเราลาหยุดไป

ก่อนไปเที่ยวควรฝากฝังเพื่อนร่วมงานที่สนิทกัน หรือเพื่อนในแผนกให้ช่วยอัพเดท และดูว่ามีงานอะไรที่เราต้องกลับมาจัดการบ้าง อาจจะขอให้จดหัวข้อของงานคร่าวๆ ไว้ให้ พอกลับมาทำงานจะได้ต่อติด และรีบเคลียร์งานได้รวดเร็วขึ้น คงไม่ดีแน่ๆ เลย หลังจากเที่ยวจนเพลิดเพลินเจริญใจ พอกลับออฟฟิศมาสู่โลกแห่งความจริง เข่าแทบทรุด งานเก่ายังค้างคา งานใหม่ก็มาไม่ทันตั้งตัว ต้องรีบเคลียร์งานจนหัวหมุน ทำเท่าไรก็ไม่หมดสักที

สถาบันคุ้มครองสิ่งแวดล้อม (EPA) เคยเตือนมนุษย์ออฟฟิศถึงโรคตึกเป็นพิษ ซึ่งเป็นโรคที่เกิดขึ้นภายในที่ทำงานเนื่องจากสภาพแวดล้อมภายในที่ทำงานที่ไม่ดี ซึ่งอาการของโรคตึกเป็นพิษ ได้แก่ อ่อนล้า ปวดหัว เวียนหัว คลื่นไส้ คัดจมูก ไอ จาม เกิดผดผื่นคัน ระคายเคืองดวงตา และมีความผิดปกติของประสาทรับกลิ่น และถ้าหากละเลยเอาไว้นานก็จะยิ่งทำให้อาการทวีความรุนแรงได้มากขึ้นอีกด้วย

ลองสำรวจตัวเองดูบ้าง ถ้าช่วงนี้เข่าข่ายมีอาการเหล่านี้ก็ให้รีบเขียนใบลาขอหัวหน้าไปพักร้อนได้เลย