posttoday

ปณต คุณประเสริฐ บ้านมีเรื่องราวเติบโตไปพร้อมๆ กัน

25 ตุลาคม 2561

บ้านแห่งความทรงจำของมือกีตาร์ Getsunova

เรื่อง มัลลิกา นามสง่า ภาพ วีรวงศ์ วงศ์ปรีดี

“บ้านหลังนี้อายุ 29 ปี เท่ากับอายุผม ผมย้ายเข้ามาอยู่ตอนอายุ 6 เดือน”

“ปณต คุณประเสริฐ” นักแต่งเพลงและมือกีตาร์วงเก็ตสึโนว่า เล่าถึงความทรงจำที่มีภายในบ้านหลังโตริมทะเลสาบ ย่านถนนบางนา-ตราด

บ้านหนึ่งหลังมีความทรงจำ เรื่องราวมากมายของชีวิต สิ่งของ แม้ว่าจะมีช่วงหนึ่งที่ปณตไปศึกษาที่ประเทศอังกฤษ แต่เขาก็กลับมาเมืองไทยปีละหลายหน เสมือนบ้านมีพลังดึงดูด ไม่ได้เป็นเพียงวัตถุขนาดใหญ่ไร้ชีวิต ทว่า คือศูนย์รวมของทุกคนในครอบครัวคือความผูกพัน

ปณต คุณประเสริฐ บ้านมีเรื่องราวเติบโตไปพร้อมๆ กัน

“บ้านหลังอื่นผมไม่รู้ว่าเป็นยังไง แต่บ้านนี้ผมว่าแทบจะเปลี่ยนทุก 4-5 ปี เหมือนเป็นบ้านที่โตไปกับเรา ไม่ได้เป็นแบบนี้ตั้งแต่แรก ค่อยใหญ่ขึ้น ขยายขึ้น เปลี่ยนแปลงมันไปเรื่อยๆ

ผมสังเกตหลายบ้านไม่ได้เปลี่ยนแปลง แต่บ้านเราเดี๋ยวตรงนั้นงอก ตรงนี้ปรับตรงนี้เปลี่ยน สนุก มีเสน่ห์ เปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์บ้างสลับห้องนั้นเป็นห้องนี้บ้าง ย้ายมุมวางตู้ย้ายทีวี ผมก็ว่ามีสีสันดีนะ เราไม่เบื่อ

อย่างสวนตอนแรกๆ จัดรื้อกันบ่อยมาก ตอนนี้ปล่อยให้ต้นไม้เติบโตกันไป จากการที่เราลงแรงกันไปในตอนแรก ก็เหมือนกับผมที่โตมาในบ้านหลังนี้ ผมรู้สึกว่าบ้านก็โตมาพร้อมๆ กับเรา มีการเปลี่ยนแปลงเหมือนเราที่เปลี่ยนแปลงไป”

ปณต คุณประเสริฐ บ้านมีเรื่องราวเติบโตไปพร้อมๆ กัน

บ้านสะท้อนตัวตนของคนที่อยู่ได้ ให้ทายก็คงพอรู้กันว่ามีกีตาร์และเครื่องดนตรีอยู่จำนวนหนึ่งในบ้าน แต่หลายคนยังไม่รู้คือ ผลงานศิลปะ ที่บ่งบอกถึงตัวตนของปณต

ไม่เพียงเท่านั้นยังช่วยยืนยันสุภาษิตลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นเป็นจริงด้วย เพราะคุณพ่อของปณต คือ “ดร.สันติ คุณประเสริฐ” ศิลปินอักษรไทยวิจิตร หรือ Calligraphy

ศิลปะที่เห็นอยู่ตามห้องต่างๆ เป็นผลงานสะสมของคุณพ่อ และยังมีในส่วนของห้องทำงานคุณพ่อเป็นผลงานของคุณพ่อส่วนผลงานของปณตที่เห็นสะดุดตาแขวนไว้บนทางเดินขึ้นชั้น 2 คือ รูปคุณพ่อที่เขาวาดตอนเด็ก และในห้องทำงานมีผลงานศิลปะของเขาอีกเพียบ

ด้านงานประติมากรรมที่เด่นตระหง่านทางเดินเข้าบ้าน ผลงานของอะโนะ (เนะ-อโณทัย นิรุตติเมธี) แฟนสาวของเขานั้นเองเป็นตัวแทนยินดีต้อนรับอย่างอารมณ์ดี

“คุณพ่อเป็นอินทีเรียร์ประจำบ้าน คุณแม่เป็นคนทำให้ทุกอย่างเข้าที่เข้าทางเป็นระเบียบ ส่วนพื้นที่ส่วนตัวของใครคนนั้นก็ดูแลกันไป”

ปณต คุณประเสริฐ บ้านมีเรื่องราวเติบโตไปพร้อมๆ กัน

แต่ละห้องจำแนกตามสี ปณตพาทัวร์ “ผ่านผลงานของอะโนะ ซ้ายมือเป็นห้องรับแขก ดูทีวี เฟอร์นิเจอร์ห้องนี้สีม่วงๆ หน่อย ให้ดูสนุก เป็นโมเดิร์น เวลาเพื่อนๆ มาก็จะอยู่ห้องนี้กัน

แขกผู้ใหญ่เป็นอีกห้องถัดมา ห้องสีส้ม เฟอร์นิเจอร์โซฟาชุดใหญ่โทนสีส้มเอิร์ทโทน แต่ผมเรียกว่าห้องตัดเค้ก (หัวเราะ) เป็นห้องรวมญาติ วันเกิดใคร รดน้ำผู้ใหญ่ ก็จะมาถ่ายรูปกันที่ห้องนี้ ห้องนี้ไม่ได้ใช้นั่งคุยจริงจัง ทำอะไรอยู่มุมอื่น พอถ่ายรูปก็จะกลับมาห้องนี้ (หัวเราะ)

ถัดมาห้องกินข้าวโทนสีเขียว มีดอกไม้ประดับเยอะ กระจกเยอะ มีงานศิลปะวางบ้าง ห้องนั่งเล่นของครอบครัวสีครีม มารวมตัวกันดูทีวี และข้างๆ เป็นโต๊ะทำงานของคุณพ่อ มีผลงานของคุณพ่อ อุปกรณ์ทำงาน เด็กมาห้องนี้จะชอบกันได้วาดรูป

ห้องครัวสีขาวอยู่โซนหน้าบ้าน มีโต๊ะกินข้าวตัวใหญ่ตั้งตรงกลาง ผมชอบบรรยากาศตรงนั้น โปร่งโล่ง และมีกระจกเยอะ เพราะครอบครัวเราชอบส่องกระจกกันก่อนออกจากบ้าน และชอบเดินเข้าออกบ้านทางนั้นมากกว่าทางเข้าจริงๆ (หัวเราะ)

โซนถัดมามันเคยเป็นห้องนอนผม ตอนนี้เป็นห้องเก็บเครื่องดนตรี มีของเพื่อนๆ ด้วย เวลาทีมงานมายกไปก็ง่ายดีทีเดียวเลย”

ปณต คุณประเสริฐ บ้านมีเรื่องราวเติบโตไปพร้อมๆ กัน

ห้องนี้ทะลุออกไปเป็นสวนขนาดใหญ่ หญ้าเขียวขจี และต้นไม้ที่มีอายุร่วมสิบปีมีท่าน้ำที่ได้ร่มเงาจากต้นไม้ใหญ่และประดับประดาด้วยไม้เลื้อย

บ้านมีต้นไม้เยอะและติดบึงน้ำขนาดใหญ่ ทำให้ลมพัดผ่านเย็นสบายมาถึงตัวบ้าน หากในสวนสิ่งที่สะดุดตาไม่ใช่ดอกไม้ แต่มันคือ “ตุ่ม” รูปทรงขนาดต่างๆ ปณตเล่าที่มาอย่างขบขัน

“หลายคนมาที่บ้านชอบเดินนับว่ามีตุ่มกี่ใบ คุณพ่อชอบซื้อมา เหมือนตุ่มเป็นเดกคอร์ ในสวนมีเยอะมาก หน้าบ้านก็มีเมื่อก่อนเด็กส่งของจะบอก รปภ. ทางเข้าหมู่บ้านว่า มาบ้านที่มีตุ่ม โอ่งเยอะๆ (หัวเราะ)”

ปณตทัวร์คอนเสิร์ตเป็นส่วนใหญ่ เวลาอยู่พร้อมหน้าครอบครัวมักเป็นบ่ายวันอาทิตย์ในห้องดูทีวีของครอบครัว แต่ถ้าไม่มีงาน ไม่ต้องไปซ้อมดนตรี เขาเลือกอยู่ที่บ้านมากกว่าไปสังสรรค์ข้างนอก

พื้นที่ของปณตคือชั้น 2 ซึ่งเป็นห้องทำงาน ห้องอัดเสียง เขียนรูป ห้องนอน หน้าห้องยังมีอุปกรณ์ออกกำลังกายเป็นฟิตเนสขนาดย่อมของครอบครัว

“ข้างบนส่วนใหญ่เป็นห้องนอน มีห้องพระด้วย คุณแม่สวดมนต์ที่ห้องพระเป็นประจำ ผมเวลาเดินเข้าออกก็ไหว้เสมอ ส่วนฟิตเนสเป็นความโชคดีที่อยู่หน้าห้อง ทำให้ขี้เกียจไม่ได้ ผมวิ่ง 45 นาที ก่อนกินข้าวเที่ยง ผมไม่ใช่สายเวต เคยเล่นแล้วกล้ามมาง่าย ผมชอบแบบตัวเล็กจับกีตาร์แล้วกีตาร์ดูใหญ่กว่าเรา

ห้องอัดเพลง อุปกรณ์ไม่เยอะ ผมต้องการให้บรรยากาศดูเป็นห้องคิดงานมากกว่า ต้องรู้สึกไม่จริงจัง จะได้รู้สึกผ่อนคลาย อยู่ได้นานๆ ไม่มีความกดดัน ผมรู้สึกกลัวห้องอัดที่อุปกรณ์ครบ มันมีแต่วิทยาศาสตร์ไม่มีศิลปะ

ห้องนอนสีขาวดำ มีสีม่วงนิดหนึ่ง ห้องนอนโปร่ง ผมชอบให้หลังคาสูงๆ แต่สูงได้แค่นี้เพราะด้านบนแบ่งเป็นห้องเก็บของ แต่ห้องทำงานเพดานสูงเลย”

นอกจากงานศิลปะ ตุ่ม เครื่องดนตรี อีกสิ่งหนึ่งที่เห็นเยอะในบ้านหลังนี้ คือ ตู้หนังสือบานกระจกใสที่ข้างในเรียงรายไปด้วยหนังสือทั้งชั้น ส่วนใหญ่เป็นหนังสือศิลปะของคุณพ่อ

บ้านทุกหลังมีเรื่องราว มีความทรงจำ และมันคือครอบครัว