posttoday

นพ.พิษณุ สุนทรปิยะพันธ์ หมอหัวใจกีฬา

13 ตุลาคม 2561

ผมมีความใฝ่ฝันอยากจะเป็นหมอตั้งแต่ยังเด็ก เมื่อใครๆ ถามว่า โตขึ้นอยากเป็นอะไร

โดย กษม จักรเครือ

ผมมีความใฝ่ฝันอยากจะเป็นหมอตั้งแต่ยังเด็ก เมื่อใครๆ ถามว่า โตขึ้นอยากเป็นอะไร คำตอบคือ อยากเป็นหมอครับ เมื่อเรียนต่อในระดับมัธยมได้เลือกวิชาสาธารณสุขเป็นวิชาเลือก เพราะมีความชอบและความใฝ่ฝันที่อยากจะเป็นหมอ ตอนเป็นนักเรียนจึงได้ฝึกพื้นฐานด้านการดูแลคนเจ็บป่วย ซึ่งผมตั้งใจเรียนให้ดีที่สุด เพื่อสอบเข้าศึกษาต่อด้านแพทยศาสตร์ในระดับอุดมศึกษา”

นพ.พิษณุ สุนทรปิยะพันธ์ แพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟูและกายภาพบำบัดโรงพยาบาลพญาไท 2 ที่เดินตามความฝันในวัยเด็กของตัวเอง ด้วยการประกอบอาชีพ “หมอ”

ปัจจุบันเขาเป็นหนึ่งในทีมแพทย์ที่อยู่ในทีม “Chat กับหมอทีมชาติ” ตอบรับเพื่อสนองเทรนด์การออกกำลังกายและการเล่นกีฬาในปัจจุบันเป็นที่แพร่หลายมากขึ้น คนรุ่นใหม่หันมาใส่ใจสุขภาพด้วยการออกกำลังกาย

การออกกำลังกายที่ได้ประสิทธิภาพ ควรต้องได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ ไม่ว่าจากเทรนเนอร์หรือจากแพทย์เฉพาะทางด้านเวชศาสตร์การกีฬา โดยเวชศาสตร์การกีฬาที่หลายคนอาจเข้าใจว่าเป็นวิชาที่มีไว้เฉพาะสำหรับนักกีฬาอาชีพ

แท้จริงแล้วนั้น เวชศาสตร์การกีฬาว่าด้วยเรื่องของการป้องกัน วินิจฉัย และรักษาอาการบาดเจ็บจากการเล่นกีฬา รวมทั้งช่วยเสริมสมรรถภาพของนักกีฬาและผู้ที่ใส่ใจสุขภาพ เพื่อให้สามารถเล่นกีฬาได้ดีขึ้น

นพ.พิษณุ สุนทรปิยะพันธ์ หมอหัวใจกีฬา

เพื่อการเข้าถึงข้อมูลและการปรึกษาปัญหาสุขภาพเฉพาะทางสำหรับผู้เล่นกีฬา โรงพยาบาลพญาไท 2 เปิดตัว Line Official “Chat กับหมอทีมชาติ” ที่สามารถแชตคุยกับแอดมินที่เป็นแพทย์เฉพาะทางด้านเวชศาสตร์การกีฬา ด้วยดีกรีของแต่ละท่านดูแลนักกีฬาระดับทีมชาติ เช่น ทีมแบดมินตัน ฟุตบอล ฮอกกี้น้ำแข็ง วอลเลย์บอล เป็นต้น เพื่อให้ทุกท่านเข้ามาปรึกษาแพทย์ได้โดยตรงผ่าน Line Chat นี้ตลอดเวลาที่มีปัญหา

ความพร้อมในการดูแลนักกีฬามืออาชีพ นักกีฬามือสมัครเล่น และผู้ที่หันมาเริ่มต้นออกกำลังกาย โดยทีมแพทย์ระดับทีมชาติที่มีทั้งความสามารถและประสบการณ์ด้านการรักษา ดูแลนักกีฬามายาวนาน ซึ่งทางโรงพยาบาลมีศูนย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู (Physical Medicine & Rehabilitation) เป็นสาขาวิชาชีพที่เรียกแบบย่อว่า “PM&R” ที่เป็นสาขาเฉพาะทาง เน้นในทางป้องกันวินิจฉัยและรักษาโดยไม่ใช้การผ่าตัด

รวมถึงการผ่าตัดรักษานักกีฬาในกลุ่มที่ได้รับบาดเจ็บรุนแรง และเพื่อเพิ่มการเข้าถึงข้อมูลและการดูแลตนเองไม่ให้ได้รับบาดเจ็บจากการเล่นกีฬา ด้วยเหตุนี้จึงเปิดตัว Line @Chat กับหมอทีมชาติ เพื่อให้ทุกท่านได้เข้าถึงแพทย์ดังกล่าวได้ง่ายมากยิ่งขึ้น โดยสอบถามปัญหาสุขภาพเบื้องต้น ซึ่งไม่ต้องเดินทางมาที่โรงพยาบาลเหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคนในปัจจุบัน

หลังศึกษาด้านแพทยศาสตร์ คุณหมอพิษณุ ได้เลือกเป็นแพทย์เฉพาะทางด้านเวชศาสตร์ฟื้นฟู เนื่องจากเป็นสาขาที่ยังมีแพทย์ด้านนี้ไม่มากเมื่อเทียบกับสาขาอื่นๆ

เขาขยายความถึงสาขาเวชศาสตร์ฟื้นฟูว่า เป็นกลุ่มโรคที่ต้องการการดูแล โดยเริ่มจากป้องกัน รักษาและฟื้นฟู การเป็นหมอด้านเวชศาสตร์ฟื้นฟู ต้องฟื้นฟูสภาพหลังจากคนไข้เจ็บป่วย ซึ่งเป็นกลุ่มคนไข้กลุ่มใหญ่ที่ต้องดูแลหลังจากรักษาหายแล้ว

นพ.พิษณุ สุนทรปิยะพันธ์ หมอหัวใจกีฬา

“อาจจะเป็นการฟื้นฟูให้กลับมาเป็นปกติเหมือนเดิม เช่น คนที่เป็นอัมพาต เขาอาจจะกลับมาไม่เหมือนเดิม แต่ทำให้คุณภาพชีวิตของเขาดีที่สุด การเป็นแพทย์เฉพาะทางด้านนี้ ทำให้ได้ดูแลคนไข้ทุกวัย ตั้งแต่เด็กจนถึงคนแก่ เช่น คนไข้พิการทางสมอง เด็กภาวะอัมพาตสมองใหญ่หรือภาวะสมองพิการ แขนขาเกร็ง เดินลำบาก และคนไข้ผู้ใหญ่หลังฟื้นฟู จากการผ่าตัดแขนหัก ขาหัก พลัดตกหกล้ม โรคหัวใจ”

เมื่อได้ทำงานตามความใฝ่ฝันตั้งแต่ยังเด็ก ได้รักษาผู้ป่วยมาจำนวนไม่น้อย คุณหมอพิษณุ ได้เล่าถึงความประทับใจในการรักษาคนไข้รายหนึ่งซึ่งอยู่จังหวัดทางภาคใต้ของไทย คนไข้เดินทางมารักษากับคุณหมอที่โรงพยาบาล

“คนไข้คนนี้มาจากต่างจังหวัด เป็นผู้หญิงและมีอาชีพเป็นครู คุณครูท่านนี้เป็นโรคเกี่ยวกับหลอดเลือดสมอง จากที่ทำอะไรไม่ได้เลย คนไข้มารักษาตัวที่โรงพยาบาล จากนั้นได้ทำการรักษาฟื้นฟู จนคนไข้ดีขึ้นตามลำดับ แขนขามีแรงขึ้น การเดินดีขึ้น การพูดการสื่อสารดีขึ้น

หลังจากได้รับการฟื้นฟู จากที่คนไข้เขียนไม่ได้กลายเป็นเขียนได้ และเนื่องจากคนไข้เป็นครูภาษาไทย เมื่อคนไข้เขียนได้ จึงแต่งกลอนเป็นระยะ ซึ่งกลอนที่แต่งคือเป็นกลอนที่เขียนถ่ายทอดความรู้สึกตั้งแต่เข้าโรงพยาบาลว่าท้อแท้ขนาดไหน โดยจะเขียนเล่าถึงพัฒนาการการฟื้นฟูและความรู้สึกบันทึกเอาไว้เป็นกลอน

คนไข้ท่านนี้กลับมาช่วยเหลือตัวเองได้ เดินได้ จนกลับบ้าน ทำงานจนเกษียณ ไม่ต้องพึ่งพิงคนอื่นมาก ทุกวันนี้คนไข้ก็ยังกลับมาเจอและทักทายทุกครั้งที่มากรุงเทพฯ และได้มีของมาฝากหมอทุกครั้ง” คุณหมอเล่าถึงความประทับใจ

นพ.พิษณุ สุนทรปิยะพันธ์ หมอหัวใจกีฬา

สำหรับการดูแลคนไข้ระยะฟื้นฟูคือหัวใจสำคัญ ที่ช่วยให้คนไข้กลับไปใช้ชีวิตตามปกติได้ เพราะบางคนอาจต้องกลับไปทำงานตามเดิม หรือในรายของผู้สูงอายุจะไม่กลายเป็นภาระของครอบครัวมากเกินไป หากไม่ทำการฟื้นฟู ผู้สูงอายุจะติดบ้าน ติดเตียง ไม่เดิน

ดังนั้น การฟื้นฟูจะเป็นตัวที่ช่วยกระตุ้นให้กล้ามเนื้อที่ได้รับบาดเจ็บ หรือที่ผ่าตัดกลับมาฟื้นตัวได้ปกติอีกครั้ง โดยเฉพาะโรควิกฤตยากๆ อย่างเช่นโรคหัวใจคุณหมอพิษณุ บอกว่า

“เราต้องสร้างความเชื่อมั่นให้กับคนไข้ในระยะฟื้นฟูว่าเขาจะไม่กลับมาช็อกหรือหัวใจวาย แพทย์ด้านนี้ต้องทำงานร่วมกับแพทย์เฉพาะทางสาขาอื่น ดังนั้นจึงมีหลักในการทำงานว่า จะต้องทำงานในส่วนของเราให้ดีที่สุด เคารพผู้ร่วมงาน เพราะในส่วนของหมอนั้นต้องทำงานร่วมกับหมอท่านอื่นๆ ด้วย ทุกคนจึงมีส่วนร่วมส่วนสำคัญในการที่จะดูแลคนไข้ และหมอมีปณิธานว่าจะดูแลคนไข้ให้ดีที่สุด มอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับเขา ตัวเอง คนรอบข้าง ดูแลเหมือนกับคนไข้เป็นญาติของเรา”

นอกจากนี้ คุณหมอพิษณุ ยังได้รับมอบหมายให้ดูแลนักกีฬาพาราแบดมินตันทีมชาติไทย และทีมนักกีฬาเยาวชน “Special Olympics” อีกด้วย ถือเป็นอีกบทบาทหนึ่งที่น่าสนใจ

“เคยมีประสบการณ์การรักษานักกีฬาทีมชาติไทยที่มีอาการบาดเจ็บเรื้อรังมานาน ซึ่งทำให้พลาดโอกาสลงแข่งขันในรายการสำคัญ โดยผมทำหน้าที่ในการวินิจฉัยหาปัญหา พร้อมฟื้นฟูร่างกายจนสามารถลงแข่งขันได้อีกครั้ง และประสบความสำเร็จในการแข่งขัน ซึ่งถือเป็นหนึ่งความภาคภูมิใจที่สามารถทำการรักษาให้นักกีฬากลับมาสร้างผลงานและเป็นตัวแทนของประเทศไทยไปสร้างชื่อเสียงได้อีกครั้ง เพราะการรักษาอย่างตรงจุดและรวดเร็ว คือเป้าหมายในการรักษาของผม”

นพ.พิษณุ สุนทรปิยะพันธ์ หมอหัวใจกีฬา

สิ่งแรกต้องประเมินอาการบาดเจ็บเพื่อเลือกวิธีรักษา ในขั้นตอนการรักษา คุณหมอพิษณุ ขยายภาพว่าต้องทำการพูดคุยกับคนไข้เพื่อพิจารณาว่า คนไข้มีข้อบ่งชี้ที่ต้องผ่าตัดหรือไม่?

“กรณีที่ไม่ต้องทำการผ่าตัด คนไข้ควรปฏิบัติตัวตามที่แพทย์สั่ง เช่น ไม่เล่นกีฬาในกลุ่มที่เสี่ยงต่อการบาดเจ็บเพิ่มเติม ระหว่างนั้นอาจมีการทำกายภาพบำบัดและฝึกกล้ามเนื้อเพื่อรักษาสภาพกล้ามเนื้อของตนเอง ทั้งนี้จะขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยของแพทย์

สำหรับกลุ่มคนไข้ที่ไม่สามารถกลับมาเล่นกีฬาบางประเภทได้อีก อาจมีการเล่นกีฬาประเภทอื่นที่ไม่กระทบต่ออาการบาดเจ็บเพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อ ส่วนกลุ่มที่ต้องเข้ารับการผ่าตัด หลังจากผ่าตัดควรมีการดูแลด้านร่างกาย เพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อให้มีการใช้งานได้ใกล้เคียงเหมือนปกติ”

แม้ว่าในแต่ละชนิดกีฬาที่เล่น จะมีลักษณะอาการบาดเจ็บที่เฉพาะเจาะจงกันไป แต่คุณหมอพิษณุ บอกเคล็ดลับว่าถ้าสังเกตง่ายๆ ข้อไหล่และข้อเข่า มักเป็นบริเวณที่เกิดอาการบาดเจ็บค่อนข้างสูงในแทบทุกกีฬา เพราะเป็นส่วนที่มีการเคลื่อนไหวมากที่สุด มีโอกาสที่จะถูกกระแทก ถูกบิด หรือว่ามีการพลิกของเข่ามากกว่าอวัยวะอื่น

“กลุ่มอาการบาดเจ็บเฉียบพลัน คือ การบาดเจ็บที่เกิดขึ้นทันทีหลังเล่นกีฬาหรือเกิดการกระแทก โดยมีหลักการปฐมพยาบาลง่ายๆ คือ RICE ซึ่ง R = Rest (พัก) คือพักในส่วนที่บาดเจ็บหรือหยุดเล่นในทันที I = Ice (น้ำเเข็ง) คือการนำน้ำแข็งมาประคบในส่วนที่บาดเจ็บทันที C = Compression (รัด) คือการหาผ้ามารัด และ E = Elevation (ยก) คือยกส่วนที่บาดเจ็บนั้นให้สูง เพื่อป้องกันไม่ให้บวมมากขึ้น

กลุ่มอาการบาดเจ็บเรื้อรัง คือ เกิดจากการละเลยบางส่วนของร่างกาย ทำให้เกิดการเสียสมดุล โดยกลุ่มอาการบาดเจ็บเรื้อรังนั้นทำการรักษายากกว่าอาการบาดเจ็บเฉียบพลัน”

สิ่งสำคัญที่คนใส่ใจสุขภาพ ควรทำอันดับแรก ก่อนการเล่นกีฬาทุกชนิด คือ การวอร์มอัพ คุณหมอพิษณุ แนะนำว่า ไม่ว่าจะออกกำลังกายด้วยวิธีใดก็ตาม เดิน วิ่ง ว่ายน้ำ ทุกคนต้องเตรียมร่างกายให้พร้อมเพื่อหลีกเลี่ยงการบาดเจ็บ

“วอร์มอัพ คือสิ่งที่เราควรทำทุกครั้งก่อนการเล่นกีฬา โดยการวอร์มอัพจะใช้เวลาประมาณ 15-20 นาที อาจเป็นการวอร์มอัพด้วยการวิ่งเบาๆ เพื่อให้เหงื่อซึมเพราะเมื่ออุณหภูมิในร่างกายสูงขึ้น 1 องศา จะทำให้กล้ามเนื้อมีความยืดหยุ่นมากขึ้น ช่วยลดการเกิดอาการบาดเจ็บได้

สเตรทชิ่ง คือ การเหยียด ยืด กล้ามเนื้อ ก่อนการเล่นกีฬาเพื่อป้องกันการเกิดอาการบาดเจ็บ เป็นสิ่งที่คนออกกำลังกายมักมองข้าม คิดว่าไม่สำคัญ” คุณหมอหัวใจกีฬาปิดท้าย

จิตใจที่สดใส ย่อมอยู่ในร่างกายที่แข็งแรง ดังนั้น ทั้งกายและจิตใจต้องเดินไปสู่จุดหมายพร้อมๆ กัน จะขาดอย่างใดอย่างหนึ่งไม่ได้

หากใครมีปัญหาอยากรับคำแนะนำ สามารถเข้าไปปรึกษาได้ ใน “Line @Chat กับหมอทีมชาติ” จะเป็นตัวช่วยเสริมที่เป็นประโยชน์สำหรับทุกคน ที่จะสามารถรู้อาการเบื้องต้นของตนเองได้ทันที ก่อนที่จะมาทำการรักษาที่โรงพยาบาล และยังมีทริกการป้องกันการบาดเจ็บก่อนออกกำลังกายด้วยเทคนิคต่างๆ

ประชาชนหรือคนรักสุขภาพ สนใจ สามารถค้นหาจาก ID Line : Sportmed_guru เพื่อพูดคุย สอบถาม หรือแบ่งปันข้อมูลดีๆ จากแพทย์เฉพาะทางโดยตรงอีกด้วย