posttoday

ภัทรพร & ภัทรพรรณ สาลีรัฐวิภาค ด้วยรักและผูกพันฉันพี่น้องฝาแฝด

06 ตุลาคม 2561

สองสาววัย 23 ปี “ณัฐ” ภัทรพร และ “นก” ภัทรพรรณ สาลีรัฐวิภาค

โดย ภาดนุ ภาพ : อมรเทพ โชติเฉลิมพงษ์

สองสาววัย 23 ปี “ณัฐ” ภัทรพร และ “นก” ภัทรพรรณ สาลีรัฐวิภาค เป็นพี่น้องฝาแฝดวัยสดใส ซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่อย่างแท้จริง ด้วยแนวคิดในการเลือกเรียนและเลือกทำงานในสิ่งที่ตัวเองชอบ ทำให้ณัฐกับนกมีความโดดเด่นและแตกต่างกันไปคนละแบบ แต่สิ่งที่สองสาวมีให้กันอย่างเหนียวแน่นก็คือ ความรักและความผูกพันฉันพี่น้อง ที่ยังไง้ ยังไง ก็ตัดกันไม่ขาดอย่างแน่นอน

ณัฐ-ภัทรพร สาลีรัฐวิภาค

ภัทรพร & ภัทรพรรณ สาลีรัฐวิภาค ด้วยรักและผูกพันฉันพี่น้องฝาแฝด

เรียนจบปริญญาตรีสาขา International Studies with an Emphasis in Political Science ที่ Pepperdine University (เกียรตินิยมอันดับ 1) เมื่อเรียนจบก็ทำงานเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในองค์กรนานาชาติที่ชื่อว่า Asia Initiatives ที่เมืองนิวยอร์ก เพื่อจะได้เรียนรู้การต่างประเทศและการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืนมากขึ้น โดยมีตำแหน่งเป็น Project Coordinator

แม้ตอนนี้ตัวเธอจะอยู่ที่เมืองไทย แต่เธอก็ยังช่วยงานองค์กรอยู่ และเร็วๆ นี้เธอก็กำลังมีแพลนที่จะไปเรียนต่อปริญญาโทที่ต่างประเทศด้วยเช่นกัน

ณัฐ พูดถึง นก

ภัทรพร & ภัทรพรรณ สาลีรัฐวิภาค ด้วยรักและผูกพันฉันพี่น้องฝาแฝด

“ตั้งแต่เด็กๆ เราสองคนเป็นคู่พี่น้องฝาแฝดที่สนิทกันมาเรื่อยๆ เหมือนกับพี่น้องฝาแฝดคู่อื่นๆ เลยค่ะ แต่อาจจะมีบางช่วงที่เราสองคนมักจะมีกิจกรรมที่ไม่เหมือนกันสักเท่าไร แม้จะเรียนอยู่โรงเรียนเดียวกันมาตลอดก็ตาม เนื่องจากณัฐเป็นนักเทนนิสเยาวชนที่จะต้องมีการซ้อมและแข่งขันทั้งในประเทศและต่างประเทศตั้งแต่อายุ 7-19 ปี กระทั่งเข้าเรียนมหาวิทยาลัยปี 1 ณัฐก็ยังคงเป็นนักกีฬาเทนนิสให้กับทีมดิวิชั่น 1 ของมหาวิทยาลัยที่เรียนอยู่เลยในตอนนั้น

การที่เราสองคนมีกิจกรรมที่ต่างกันนี้ ทำให้ณัฐกับนกไม่ค่อยได้ใช้เวลาร่วมกันอย่างที่พี่น้องฝาแฝดควรจะเป็นมากนัก เพราะในช่วงตั้งแต่ 7 ขวบเป็นต้นมา ณัฐจะแข่งขันตีเทนนิสมาตลอด ส่วนน้องนกก็จะชอบกีฬาขี่ม้า แต่ถึงยังไงเราสองคนก็ยังสนิทกันและคุยกันได้ทุกเรื่องเลยค่ะ

ยิ่งช่วงที่ไปอยู่เมืองนอก เราสองคนก็ยิ่งรักและคิดถึงกันมากขึ้นกว่าเดิม เนื่องจากต้องแยกกันเรียนตามสาขาที่ตัวเองชอบถึง 4 ปี ณัฐเรียนอยู่ที่แอลเอ ส่วนน้องนกเรียนอยู่ที่นิวยอร์ก แต่พอมีเรื่องอะไรเราก็จะปรึกษากันเสมอ”

ณัฐบอกว่า เมื่อปีที่แล้วเธอได้ย้ายมาทำงานที่นิวยอร์ก จึงมีโอกาสได้อยู่กับนกสองคน ก็ยิ่งทำให้ทั้งคู่เป็นพี่น้องที่สนิทและรู้ใจกันมากยิ่งขึ้น

“ที่เขาพูดกันว่าฝาแฝด (ฝาเดียวกัน) สามารถสื่อความคิดถึงกันได้ อันนี้ก็น่าจะเป็นเรื่องจริงค่ะ ขนาดเราสองคนเป็นแฝดคนละฝา เราก็ยังคิดอะไรตรงกันหลายๆ อย่างเลยค่ะ ถ้าให้พูดถึงเรื่องที่ณัฐรู้สึกประทับใจน้องนกที่สุด ก็จะเป็นเรื่องเมื่อปีที่แล้ว

ตอนที่ณัฐย้ายไปอยู่นิวยอร์กกับน้องนก แล้วมีอยู่วันหนึ่งณัฐเกิดไม่สบายหนักมาก คือตอนนั้นณัฐเป็นหวัดแล้วมีอาการหูอักเสบร่วมด้วย ทำให้น้องนกต้องลาหยุดงาน 1 วันเพื่อดูแลณัฐ และวันต่อมาน้องนกก็สั่งข้าวไว้ให้ พร้อมกับทิ้งโน้ตไว้ว่า ‘ขอโทษทีนะ วันนี้ต้องไปทำงานแล้ว แต่สั่งข้าวไว้ให้เรียบร้อย หายเร็วๆ นะ’ นี่แหละที่ณัฐรู้สึกประทับใจในตัวน้อง เพราะเวลาเราป่วย น้องทำให้รู้สึกว่าเราไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวนะ”

ณัฐ เสริมว่า ที่จริงแล้วครอบครัวเธอมีพี่น้องทั้งหมด 4 คนด้วยกันคือ พี่สาวพี่ชาย ณัฐ และนก ซึ่งพี่น้องทุกคนจะสนิทกันมาก เพราะคุณแม่จะคอยสอนเสมอว่า เป็นพี่น้องกันต้องรักกัน และครอบครัวต้องมาก่อนเป็นอันดับ 1 เสมอ

“จะพูดว่าครอบครัวเราเป็นครอบครัวที่อบอุ่นมากก็รู้สึกเขินนะ แต่พี่น้องของเราทุกคนจะรักกันและดูแลกันเป็นอย่างดี ถือว่าเป็นครอบครัวที่อบอุ่น ซึ่งพี่ชายคนรองของเราเนี่ยจะหวงน้องนกมากๆ เลยค่ะ แต่ณัฐก็จะเป็นห่วงน้องแบบธรรมดาๆ มากกว่า (หัวเราะ)

สิ่งที่ณัฐจะเตือนน้องนกอยู่เสมอก็คือ การดูแลเรื่องสุขภาพ อย่านอนดึก เพราะด้วยงานของน้องเป็นงานด้านศิลปะ เป็นอาร์ติสต์ ช่วงที่เรียนน้องก็จะเรียนหนักด้วย บางครั้งน้องนกจะนอนดึกติดกัน 2-3 คืนเลย พอเห็นณัฐก็จะเตือนว่า น้องนกควรหาสมดุลให้ชีวิตตัวเองด้วย ไม่ควรทำอะไรที่สุดโต่งจนเกินไป

อีกอย่างด้วยความที่พวกเราโตมาก็เห็นคุณยาย คุณพ่อ และคุณแม่ ทำงานหนักจนประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ก็ทำให้พวกเรารู้สึกกดดันไปเองว่า อยากทำให้ดีกว่านี้ หรือน่าจะทำได้ดีกว่านี้อีก ทั้งที่คุณพ่อคุณแม่ก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะรู้ว่าพวกเราพยายามอย่างเต็มที่แล้ว ดังนั้นตอนนี้เราสองคนจึงพยายามยึดหลักทางสายกลางกันมากขึ้นทุกๆ เรื่องเลยค่ะ”

นก-ภัทรพรรณ สาลีรัฐวิภาค

ภัทรพร & ภัทรพรรณ สาลีรัฐวิภาค ด้วยรักและผูกพันฉันพี่น้องฝาแฝด

นกเลือกเรียนศิลปกรรมศาสตร์ สาขาการทำและออกแบบจิวเวลรี่ที่ Pratt Institute โดยจบปริญญาตรีด้วยเกียรตินิยมอันดับ 1 เช่นกัน พร้อมกับได้รับรางวัล Outstanding Merits Award หรือนักเรียนดีเด่นติดไม้ติดมือมาด้วย

หลังจากเรียนจบปริญญาตรี นกได้ฝึกงานและทำงานอยู่ที่นิวยอร์กเช่นกัน ล่าสุดเธอได้เริ่มธุรกิจเครื่องประดับของตัวเองโดยตั้งชื่อแบรนด์ตามชื่อจริงว่า “Pattaraphan” ซึ่งเป็นเครื่องประดับสำหรับสาวๆ รุ่นใหม่ที่อาจจะยังไม่ได้เน้นการใช้เพชรพลอยมากนัก แต่จะเน้นวัสดุประเภทเงินและทอง พร้อมทั้งดีไซน์ที่เก๋ไก๋ซะมากกว่า อัพเดทได้ที่ IG : _pattaraphan_

นก พูดถึง ณัฐ

ภัทรพร & ภัทรพรรณ สาลีรัฐวิภาค ด้วยรักและผูกพันฉันพี่น้องฝาแฝด

“ตอนเด็กๆ เราก็เป็นพี่น้องฝาแฝดที่สนิทกันนะคะ แต่ด้วยความที่มีกิจกรรมต่างกัน จึงทำให้เราไม่ค่อยได้ทำอะไรร่วมกันมากนัก ปัจจุบันนี้กลับกันเลย เพราะยิ่งโตเราสองคนก็ยิ่งสนิทกัน และมีแนวโน้มที่จะสนใจหรือชอบอะไรที่เหมือนกันมากขึ้นด้วย อย่างตอนนี้บางครั้งการแต่งตัวของเราสองคนก็จะเริ่มคล้ายๆ กัน หรือไม่ก็ชอบดนตรีในแนวเดียวกันอีกด้วย

ต้องบอกว่าการอยู่ด้วยกันที่นิวยอร์ก ทำให้เราสองคนรู้ว่า เราชอบอะไรที่เหมือนกันหลายอย่างเลยค่ะ เช่น ร้านอาหารที่ไปก็จะชอบร้านที่คล้ายๆ กัน หรือตอนนั้นเราสองคนก็จะชอบไปออกกำลังกายด้วยกัน เป็นต้น เพราะเมื่อเราโตขึ้น ทำให้เรามีเวลาที่จะแพลนตารางการทำกิจกรรมล่วงหน้าและสามารถไปด้วยกันได้มากขึ้น

อย่างตอนนี้เราสองคนก็ไปออกกำลังกายด้วยการเล่นพิลาทิสด้วยกัน หรือถ้านกเล่นโยคะอยู่ พี่ณัฐก็จะไปออกกำลังกายในยิมเดียวกันไปด้วย เรียกว่าหลายเรื่องที่ชอบเหมือนกัน เราสองคนก็จะพยายามทำด้วยกันค่ะ”

นกบอกว่า สิ่งที่เธอประทับใจณัฐก็คือ ตกเย็นกลับมาณัฐมักจะทำอาหารไว้ให้กินเสมอ เมื่อเธอทำงานเลิกดึก แต่พอกลับมาถึงบ้านปุ๊บก็จะมีอาหารฝีมือณัฐรออยู่บนโต๊ะแล้ว มันจึงเป็นช่วงเวลาดีๆ ที่รู้สึกอุ่นใจว่ามีพี่น้องที่ตัวเองรักคอยอยู่ดูแลกันและกัน

“ที่ผ่านมา สิ่งที่นกเป็นห่วงพี่ณัฐก็คือ ช่วงที่เขาย้ายมาอยู่กับนกที่นิวยอร์กใหม่ๆ เนื่องจากนิวยอร์กเป็นเมืองใหญ่ที่คนที่อยู่จะต้องช่วยเหลือตัวเองได้ ตอนพี่ณัฐย้ายมา นกก็จะคอยเตือนพี่ณัฐว่า เวลาจะไปไหนมาไหน จะต้องแพลนให้ดีก่อนว่า จะไปทำอะไร ที่ไหน อย่างไร

ตอนที่เราอยู่นิวยอร์ก บางทีเราต้องเดินหรือต้องใช้รถไฟใต้ดิน นกก็จะคอยบอกว่าถนนเส้นนั้นต้องระวังนะ อย่าเดินไป หรือถ้าจะไปไหนก็จะแนะนำให้พี่ณัฐใช้แอพพลิเคชั่นที่สามารถบอกได้ว่า ถ้าจะไปธุระตรงนั้นจะต้องใช้รถไฟใต้ดินสถานีไหน เป็นต้น เรียกว่าเป็นการแนะนำสิ่งดีๆ ให้กันซะมากกว่าค่ะ

ปัจจุบันนกไม่ค่อยเป็นห่วงอะไรพี่ณัฐเลยละ เพราะเขาเป็นคนดี ฉลาด สามารถเอาตัวรอดได้ เรื่องสุขภาพเนี่ยพี่ณัฐยิ่งดูแลตัวเองได้ดี จนบางครั้งสามารถเผื่อแผ่มาดูแลและแนะนำนกด้วยค่ะ เคยมีแค่ครั้งเดียวที่พี่ณัฐออกกำลังกายเยอะไปหน่อย ก็จะมีการบาดเจ็บเล็กๆ น้อยๆ แต่เมื่อเขาได้เรียนรู้แล้ว เขาก็รู้จักเลือกทางสายกลางแล้วล่ะค่ะ ดังนั้นจึงไม่ค่อยมีอะไรที่น่าเป็นห่วงสักเท่าไร เพราะตอนนี้พี่ณัฐสามารถดูแลตัวเองได้อย่างดีแล้วค่ะ”