posttoday

จุฑานุช ชุมมานนท์ พร้อมสร้างอาร์ ที เอ็น โลจิสติคส์ สยายปีกทั่วอาเซียน

06 ตุลาคม 2561

พลังจากผู้บริหารหญิงรุ่นใหม่ จุฑานุช ชุมมานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อาร์ ที เอ็น โลจิสติคส์

โดย ลิลี่ โจว

พลังจากผู้บริหารหญิงรุ่นใหม่ จุฑานุช ชุมมานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อาร์ ที เอ็น โลจิสติคส์ ได้เข้ามาร่วมขับเคลื่อนองค์กรเติบโต พร้อมกับขยายธุรกิจสู่ภูมิภาคอาเซียน กับการรองรับประเทศไทยสู่ ฮับ โลจิสติกส์ในอาเซียน

จุฑานุช ผู้ประกอบธุรกิจโลจิสติกส์ที่มีความสดใหม่ เล่าถึงที่มาของการมานั่งบริหารงานตรงนี้ว่า ได้เข้ามาบริหารธุรกิจโลจิสติกส์ต่อจากคุณพ่อและคุณแม่ ที่ได้เริ่มต้นสร้างธุรกิจไว้

เมื่อได้เข้ามาทำงานในองค์กรที่มีระบบและวัฒนธรรมอยู่แล้ว รวมถึงการมีพนักงานที่ได้ทำงานมาก่อน จึงต้องใช้เวลาในการเรียนรู้การทำงานภายในองค์กร สไตล์การทำงาน เรียนรู้การทำงานร่วมกัน พร้อมกันนี้ได้ปรับระบบของบริษัท จากแบบธรรมดา (Manual) สู่การลงทุนระบบไอที (IT) เพื่อทำให้เห็นภาพรวมของบริษัททั้งหมด ทั้งยอดขาย ผลการดำเนินงานอย่างครบทุกด้าน

“เมื่อเรียนจบแล้วได้เข้าไปทำงานในบริษัทเอกชนแห่งอื่นมาประมาณ 5 ปี เพื่อหาประสบการณ์ในการทำงาน หลังจากนั้นก็กลับเข้ามาทำงานในบริษัท เราต้องศึกษาเรียนรู้ แผนกงานต่างๆ และดูแลแผนกงานต่างๆ เองทั้งหมด”

จุฑานุช ชุมมานนท์ พร้อมสร้างอาร์ ที เอ็น โลจิสติคส์ สยายปีกทั่วอาเซียน

พร้อมกันนี้ จุฑานุช บอกว่าบริษัทได้ขยายทีมและมีคนรุ่นใหม่ อายุเฉลี่ย 20-30 ปี เข้ามาร่วมทำงานภายในมากขึ้น ซึ่งทุกคนต่างมีความรับผิดชอบในการทำงานที่ชัดเจนและพร้อมในการทำงาน รวมถึงการมีไอเดีย แนวคิดใหม่ เพื่อร่วมพลังให้บริการดีขึ้น ช่วยผสมผสานทีมร่วมขับเคลื่อนองค์กรไปข้างหน้า โดยผลจากการปรับต่างๆ ทำให้ตลอดระยะเวลากว่า 6 ปี บริษัทมีการเติบโตที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

“คุณพ่อคุณแม่เปิดบริษัท 20 ปี ความยากคือการที่องค์กร มีวัฒนธรรมหรือระบบอยู่แล้ว ต้องใช้เวลาในการเรียนรู้ ใช้สไตล์การทำงานของเรา ระบบการทำงานปรับจากแบบธรรมดาสู่ระบบไอทีทั้งหมด ทำให้ได้เห็นภาพรวมของบริษัททั้งหมด ยอดขาย กำไรเป็นอย่างไร และทุกด้าน

ขณะเดียวกันการร่วมบริหารองค์กร ที่นอกจากจะต้องมุ่งทำให้บริษัทเติบโตต่อเนื่อง ยังมีภารกิจที่สำคัญคือ การทำให้พนักงานทุกคนที่ทำงานด้วยมีความสุขในการเข้ามาทำงาน เพราะบริษัทเป็นธุรกิจบริการ ดังนั้น เมื่อพนักงานทุกคนมีความสุข จึงพร้อมที่จะทำงานและให้บริการกับลูกค้า จึงช่วยส่งต่อความสุขไปยังลูกค้า ได้รับบริการที่ดีต่อเนื่อง”

จุฑานุช ยังร่ายยาวเล่าต่อว่า สำหรับการให้บริการของ บริษัท อาร์ ที เอ็น โลจิสติคส์ ที่ทำธุรกิจโลจิสติกส์อย่างครบวงจร ทั้งการนำเข้าส่งออก ทางรถยนต์ ทางเรือ ทางอากาศ โดยการขนส่งทั้งทางเรือและทางอากาศจะครอบคลุมการขนส่งในทั่วโลก รวมถึงมีบริการรถบรรทุกขนส่งข้ามพรมแดนระหว่างประเทศในภูมิภาคอาเซียน รวมถึงบริการขนส่งที่ต้องผ่านพิธีการศุลกากร มีไลเซนส์ผ่านและการมีศูนย์คลังสินค้าข้ามแดน ถือว่ามีลูกค้าเพิ่มขึ้นมาตลอด

จุฑานุช ชุมมานนท์ พร้อมสร้างอาร์ ที เอ็น โลจิสติคส์ สยายปีกทั่วอาเซียน

“ขณะเดียวกัน การให้บริการของบริษัทนอกจากจะครอบคลุมทุกด้านของการขนส่งแล้ว บริษัทยังมีจุดแข็งที่มีรถบรรทุกของบริษัทจำนวนกว่า 100 คัน สามารถบริการรับส่งสินค้าให้แก่ลูกค้าไปในประเทศเพื่อนบ้านได้ผ่านทางรถยนต์ จึงรองรับบริการขนส่งในภูมิภาคอาเซียนไปในประเทศเพื่อนบ้านที่โลจิสติกส์มีการเติบโตในระดับสูง รวมถึงการที่สามารถให้บริการแบบ Door to door เช่น การขนส่งจาก กทม.ไปถึงย่างกุ้ง ประเทศเมียนมาได้เลย โดยช่วง 2 ปีที่ผ่านมา บริษัทมีการเติบโตในระดับสองเท่าตัวในตลาดอาเซียน

เหตุผลสำคัญคือ ผลจากการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือเออีซี ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจโดยรอบ ประกอบกับมีการลงทุนในประเทศเพื่อนบ้านของไทย ทั้งกัมพูชา เมียนมา และลาว เพิ่มขึ้น ส่งผลให้เกิดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศเพิ่มขึ้น ดังนั้นบริษัทที่ได้เข้าไปลงทุนในประเทศเพื่อนบ้าน จึงเลือกที่จะขนส่งสินค้าผ่านประเทศไทย มาจากประเทศไทยมีระบบการขนส่งทั้งทางเรือ ทางอากาศ ที่มีความพร้อมและความสะดวก ถือว่าประเทศไทยที่ก้าวเข้าสู่การเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ (ฮับ) ในภูมิภาคอาเซียนแล้ว”

จากโลจิสติกส์ในประเทศเพื่อนบ้านที่ขยายตัว จุฑานุช ชี้ว่าทำให้บริษัทได้มีการขยายการลงทุนไปเปิดออฟฟิศที่อยู่ในกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ในปี 2560 ที่ผ่านมา โดยประเทศต่อไปที่มีแผนจะเปิดออฟฟิศในปี 2561 หรือ 2562 จะเป็นประเทศเมียนมา คาดว่าจะอยู่ในนครย่างกุ้ง รวมถึงให้ความสนใจจะขยายในประเทศอื่นๆ อีกทั้งบริษัท มี 9 สาขาในพื้นที่ด่านชายแดน ระหว่างไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน

“องค์ประกอบต่อมา ที่ทำให้บริษัทเติบโตสองเท่า มาจากการที่บริษัทสามารถสร้างบริการตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า ทั้งคุณภาพและบริการ การจัดส่งสินค้าได้อย่างตรงเวลา และพร้อมดูแลหากลูกค้ามีปัญหาเกิดขึ้น ส่งผลให้มีกลุ่มลูกค้าทั้งบริษัทไทย บริษัทจากต่างประเทศทั้งในยุโรป และประเทศญี่ปุ่น เลือกใช้บริการของบริษัทอย่างต่อเนื่อง สัดส่วนรายได้ในปัจจุบัน จะมาจากต่างประเทศ 70% และในประเทศ 30% จากที่ผ่านมา สัดส่วนจะเป็นรายได้ในประเทศ 60% และต่างประเทศ 40%

จุฑานุช ชุมมานนท์ พร้อมสร้างอาร์ ที เอ็น โลจิสติคส์ สยายปีกทั่วอาเซียน

สำหรับภาพรวมตลาดในอาเซียน มีการเติบโตประมาณ 15-30% ส่วนบริษัท อาร์ ที เอ็น โลจิสติคส์ ตั้งเป้าหมายการเติบโต 50% ในระยะเวลา 3-5 ปีข้างหน้า สูงกว่าภาพรวมตลาดอาเซียน ส่วนในช่วงไตรมาสแรกปี 2561 ที่ผ่านมา บริษัทมีการเติบโตสองเท่าตัวแล้ว สูงเกินเป้าหมายที่วางไว้ว่าจะเติบโต 30% พร้อมกันนี้ภายใน 3 ปีนี้นับจากนี้ บริษัทจะเน้นตลาดทั้งเมียนมา สปป.ลาว กัมพูชา เวียดนาม และอินโดนีเซีย ผ่านการใช้โมเดลของการบริหารธุรกิจในไทยไปขยายสู่อาเซียน”

นอกจากนี้ จุฑานุช ยังมองตลาดในไทยที่บริษัทยังมีการขยายการลงทุนต่อเนื่อง เพื่อให้บริการที่ดีที่สุดแก่ลูกค้า รวมถึงการเข้าไปลงทุนเปิดสาขาในพื้นที่แหลมฉบัง มาประมาณ 6-7 ปีแล้ว และมีแผนจะขยายบริการใหม่ๆ ให้แก่ลูกค้า เพื่อรองรับโครงการลงทุนเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) เชื่อมั่นว่าจะมีกลุ่มลูกค้าเข้ามาใช้บริการมากขึ้น โดยเธอกล่าวต่อทิ้งท้ายว่า

“สิ่งสำคัญที่จะช่วยผลักดันทำให้องค์กรเติบโตอย่างยั่งยืน จะต้องประกอบไปด้วยการมีเป้าหมายของบริษัทที่ชัดเจนว่าจะไปในทิศทางใด เพื่อทำให้ทุกคนในเป้าหมายสำคัญขององค์กร ต่อมาการทำงานเป็นทีมเวิร์ก เพื่อทำให้พนักงานมีความรู้สึกต่อการเป็นเจ้าของงานพร้อมทำงานตามเป้าหมาย

และที่ขาดไม่ได้คือ ความสุข เพราะธุรกิจคือ การให้บริการ ถ้าพนักงานมีความสุข มีพลังงานในการทำงานจะส่งไปที่ลูกค้า ลูกค้าจะรู้สึกว่าบริษัทมีคุณภาพในการให้บริการ และลูกค้าจะมีความสุขที่ใช้บริการของบริษัท”

การบริหารงานในยุคใหม่ของ จุฑานุช ได้ตั้งเป้าหมายว่า ภายใน 3-5 ปีข้างหน้า บริษัทจะก้าวสู่การเป็นบริษัทระดับภูมิภาคอาเซียน และในระยะยาว บริษัทจะก้าวสู่การเป็นผู้นำการให้บริการโลจิสติกส์ในภูมิภาคอาเซียน