posttoday

คิดใหม่ทำใหม่ ทำใจให้เย็นเพื่อสุขระยะยาว

27 กันยายน 2561

เทคนิคการเปลี่ยนเป็นคนใหม่ เพื่อให้ชีวิตมีความสุขในระยะยาว

เรื่อง กันย์  ภาพ pixabay

เวลาผ่านไปไวเหลือเกิน เผลอแป๊บเดียวผ่านไป 9 เดือน อะไรที่คิดว่าจะทำจะเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดีขึ้นก็ยังไม่ได้เริ่มสักที

กลับมานั่งคิดย้อนไปว่าเรามัวแต่ทำอะไรอยู่ บางครั้งก็รู้สึกเหนื่อยทั้งกายและใจ เหมือนย่ำอยู่กับที่ตลอดเวลา แต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร จะเริ่มตรงไหน วันนี้มีเทคนิคการเปลี่ยนเป็นคนใหม่ เพื่อให้ชีวิตมีความสุขในระยะยาวได้อย่างไร?

1.มุ่งมั่นตั้งใจที่จะเปลี่ยนตัวเอง

การที่จะทำอะไรสักอย่างสำเร็จต้องมาจากความสมัครใจ และความรู้สึกที่แท้จริงของตัวเอง พูดง่ายๆ คือต้องอินกับสิ่งที่จะทำ เพราะถ้าเรารู้สึกมุ่งมั่นอยากเปลี่ยนแปลงตัวเองก็จะไม่ยอมแพ้ง่ายๆ และไม่รู้สึกฝืนใจตัวเอง จะมีพลังใจที่จะทำและมีความสุขกับการได้มองเห็นความเปลี่ยนแปลงของเราไปในทางที่ดีขึ้น เชื่อว่าถ้าเรามีใจที่มุ่งมั่น จุดหมายก็อยู่ไม่ไกล

2.ตั้งเป้าหมายแล้วไปให้ถึง

การมีเป้าหมายถือว่าเป็นสิ่งที่ยึดเหนี่ยวจิตใจมนุษย์ ลองสังเกตว่าคนที่มีเป้าหมายในชีวิตมักจะอยู่อย่างมีความหวัง มีการวางแผนการใช้ชีวิตที่ชัดเจน และมีกำลังใจในการต่อสู้ ต่างกับคนที่ไม่มีเป้าหมาย มักเดินไปเรื่อยๆ ไร้ทิศทาง รู้สึกว่างเปล่า ไม่สามารถก้าวไปข้างหน้าหรือมีความสุขกับปัจจุบันได้เต็มที่

เราควรตั้งเป้าหมายในชีวิตกันดู อาจจะไม่ต้องเป็นเป้าหมายใหญ่โตหรือกินระยะเวลานานก็ได้ เช่น ตั้งเป้าว่าจะลดน้ำหนักโดยการออกกำลังกายภายใน 6 เดือน หรือจะเก็บเงินซื้อบ้านภายใน 3 ปี เป็นต้น เมื่อมีเป้าหมายเราก็จะมีแรงบันดาลใจรู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่ ทำเพื่ออะไร แล้วระหว่างทางของเราก็จะมีความหมายในทุกวัน

3.รักตัวเองอย่างที่เป็น

หลายคนรู้สึกไม่ดีกับรูปร่างหน้าตาของตัวเอง ยิ่งเวลาเจอคนที่สวยกว่า ดูดีกว่าก็มักอดไม่ได้ที่จะเปรียบเทียบกับตัวเอง อีกทั้งสังคมบ้านเรายังมีการล้อเลียนรูปร่างหน้าตาของผู้อื่นอยู่มาก สิ่งเหล่านี้ทำให้เกิดปมในใจ บางคนกลายเป็นคนไม่มั่นใจ บางคนกลายเป็นคนอิจฉาริษยาอยู่ตลอดเวลา ความรู้สึกเหล่านี้เป็นเรื่องปกติที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน แต่เราไม่ควรจะปล่อยให้มันมาทำร้ายเรา

ดังนั้น เราควรเริ่มต้นจากการเคารพและรักตัวเองให้ได้ก่อน เปลี่ยนความคิดทางลบให้เป็นพลังบวก จำไว้ว่าทุกคนมีความพิเศษอยู่ในตัวเอง และไม่มีใครในโลกนี้ที่สมบูรณ์แบบไปทุกอย่าง ถ้าเมื่อไรที่เราทำได้ เมื่อนั้นเราจะมีความสุขอย่างที่เราเป็น

4.บุคลิกภาพสร้างได้

บุคลิกภาพเป็นสิ่งแรกที่ผู้คนภายนอกมองเห็นและสามารถบ่งบอกถึงนิสัย ความใส่ใจในตัวเองของแต่ละคนได้ บุคลิกภาพหมายรวมถึงท่าทาง การวางตัว การเดิน การพูด การใช้สายตา การแต่งกาย ทรงผม ฯลฯ คนที่มีบุคลิกภาพแย่จะทำให้ขาดความน่าเชื่อถือ คนที่มีบุคลิกภาพหม่นหมอง หดหู่ก็จะแสดงถึงความไม่มั่นใจ ซึ่งอาจจะส่งผลไปถึงงาน รวมถึงทำให้คนรอบข้างรู้สึกถึงพลังลบไปด้วย

เรื่องบุคลิกภาพจึงเป็นเรื่องทางจิตวิทยาที่ส่งผลทั้งกับเรื่องส่วนตัวและหน้าที่การงาน จึงไม่ควรละเลยควรฝึกให้เป็นคนมั่นใจ มีมารยาท รู้จักวางตัว ใช้สายตาและน้ำเสียงเหมาะกับคู่สนทนาหรือประเภทของงานตรงหน้า แต่งกายให้สะอาดเหมาะสมถูกกาลเทศะอยู่เสมอ

5.หัดแต่งตัวและแต่งหน้า

การแต่งตัวแต่งหน้าไม่ใช่เพื่อคนอื่นแต่เพื่อตัวเราเอง การที่เรารู้จักเสริมจุดเด่นเพื่อกลบจุดด้อยจะทำให้เรามีความมั่นใจและรู้สึกภูมิใจในตัวเองเพิ่มขึ้น เมื่อเรารู้สึกดีจากภายในก็จะส่งผลให้มีบุคลิกภาพที่ดี มีออร่าความสุขส่งต่อไปแก่ผู้คนรอบข้างและการรู้จักแต่งตัวแต่งหน้าจะช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ และทำให้หน้าที่การงานราบรื่นอีกต่างหาก

6.ออกจาก Comfort Zone

เปิดใจรับสิ่งใหม่ๆ การที่เราออกจาก Comfort Zone ที่คุ้นเคยเพื่อเปิดใจรับสิ่งใหม่ๆ เข้ามาในชีวิต เป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยให้เปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างได้ผล เนื่องจากจะได้เรียนรู้ในสิ่งที่ไม่เคยรู้ ได้เห็นในสิ่งที่ไม่เคยเห็น ได้พบผู้คนหลากหลายสาขาอาชีพ หลากหลายเพศและวัย เราจะได้เจอกับความท้าทาย เห็นโลกกว้างขึ้นและอาจจะเป็นบันไดไปสู่ความสำเร็จในอนาคต

7.เรียนรู้ที่จะพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ

การเปลี่ยนแปลงตนเองให้สำเร็จ ควรเรียนรู้ที่จะพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ หมั่นหาความรู้เพิ่มอยู่ตลอดเวลา เช่น ลงอบรมเพิ่มเติมความรู้ที่เกี่ยวกับหน้าที่การงานที่รับผิดชอบ ลงเรียนภาษาเพิ่ม ติดตามข่าวสาร อัพเดท เทรนด์อยู่เสมอ เป็นต้น สิ่งเหล่านี้จะช่วยส่งเสริมศักยภาพและช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับตัวเราเอง

8.ออกกำลังกายและกินอาหารเพื่อสุขภาพ

การออกกำลังกายและกินอาหารเพื่อสุขภาพไม่ใช่เรื่องของการลดน้ำหนักเท่านั้น แต่การออกกำลังกายจะช่วยให้รู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่า เลือดลมไหลเวียน ทำให้สวยจากภายใน ช่วยลดความรู้สึกอ่อนแรงหงุดหงิดไปได้ การกินอาหารเพื่อสุขภาพก็เช่นกันจะช่วยให้ได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์ ผิวพรรณเปล่งปลั่งและห่างไกลโรคภัย

การเปลี่ยนแปลงตัวเอง อาจจะทำให้เรารู้สึกกลัวหรือกังวล ไม่แน่ใจในอนาคต บางคนอาจจะรู้สึกขี้เกียจ ไม่มีแรงใจที่อยากจะทำ แต่เพราะโลกนี้ต้องหมุนต่อไป เราเองก็ต้องเดินไปข้างหน้าเช่นกัน

เพราะฉะนั้นอย่ากลัวเรื่องที่ยังมาไม่ถึง ทำทุกวันให้ดีที่สุด ค่อยๆ เปลี่ยนแปลงตัวเองไปสู่ทางที่ดีขึ้นทีละนิดละน้อย เมื่อเราเปลี่ยนแปลงทั้งร่างกาย จิตใจ และทัศนคติแล้วออร่าความสดใสก็จะเปล่งประกายออกมา เห็นไกลๆ ยังต้องเหลียวหลังมอง

นอกจากนี้ เราก็จะเป็นคนใหม่ที่รู้จักรักตัวเองและสามารถอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุขในช่วงบั้นปลายได้