posttoday

วรัตน์พล วรัทย์วรกุล ‘รถ กีตาร์ นาฬิกา โลกของผม’

26 กันยายน 2561

จากพนักงานประจำรายได้ไม่ถึง 1 หมื่น สู่นักธุรกิจหนุ่มพันล้าน

เรื่อง มัลลิกา นามสง่า  ภาพ วีรวงศ์ วงศ์ปรีดี

“วรัตน์พล วรัทย์วรกุล” ผู้ก่อตั้งบริษัท ดิ ไอคอน กรุ๊ป นักธุรกิจออนไลน์ มีความเชี่ยวชาญด้านการตลาดออนไลน์ รวมถึงการบริหารองค์กรบริหารทีมมาแล้วด้วยยอดขายพันล้าน ล่าสุดเปิดตัวผลิตภัณฑ์อาหารเสริมยี่ห้อ บูม (Boom) สร้างเนื้อสร้างตัวจากธุรกิจการขาย จาก 17 ปีที่แล้ว เป็นพนักงานประจำรายได้ไม่ถึง 1 หมื่นบาท ทำงาน 6 วัน/สัปดาห์ แต่เขาไม่หยุดพัฒนาตัวเองใช้เวลาในวันหยุดเพียง 1 วัน ลงคอร์สเรียนต่างๆ หาความรู้เพิ่มเติม ใช้เวลานับ 10 ปี จากพนักงานรับโทรศัพท์ค่อยๆ เลื่อนตำแหน่งจนเป็นผู้จัดการฝ่ายการตลาด

“เงินเดือนล่าสุดก่อนลาออก 6 หมื่นบาท โอเคสำหรับเราแต่ไม่โอเคสำหรับการเลี้ยงครอบครัวให้ดี ตอนนั้นผมมีแฟนแต่ยังไม่มีลูก งานที่เราทำอยู่ยังหาความมั่นคง ดูแลคนข้างหลังเราไม่ได้”

เขาตัดสินใจลาออกมาขายกระเบื้องทางออนไลน์เพียงเดือนเดียวได้เงินมากกว่าทำงานทั้งปี จากนั้นก็เข้าสู่ธุรกิจการขายอย่างเต็มรูปแบบจากรายได้หลักพันบาทกลายเป็นหลักพันล้านบาท แต่วิถีชีวิตในครอบครัววรัตน์พลยังสมถะ หากแต่สังคมหน้าที่การงานภาพลักษณ์สำคัญ

วรัตน์พล วรัทย์วรกุล ‘รถ กีตาร์ นาฬิกา โลกของผม’

“คนมองมาภาพลักษณ์ผมอาจจะดูอู้ฟู่ แต่เราสมถะนะ รู้หน้าที่ เวลาออกงานสังคมต้องมีภาพแบบนี้ เพื่อให้ไม่ต้องอธิบายเยอะเวลาคุยกับพาร์ตเนอร์ ให้เราดูน่าเชื่อถือเอาจริงๆ เดินลงจากรถญี่ปุ่นคนก็มองเราอีกแบบ เดินลงจากรถเฟอร์รารี แต่งตัวดีๆ ไปงาน สิ่งนี้ก็สำคัญ เมื่อก่อนผมก็มองว่าเป็นค่านิยมของคน มักประเมินค่าจากสิ่งที่เห็น ใครจะรู้แก่นแท้เป็นคนดีไม่ดี จนเมื่อเราได้เรียนรู้เจอผู้คนการที่คนประเมินเราจากภายนอกสำคัญ ภาพลักษณ์ของเราน่าเชื่อถือไม่น่าเชื่อถือ ผมเคยไปซื้อทีวีตอนนั้นแต่งตัวธรรมดาพนักงานไม่ดูแลไม่เทกแคร์ ถามคำตอบคำ อีกวันแต่งตัวดีๆ ไป การดูแลของพนักงานก็ต่างไป เมื่อก่อนผมไม่เข้าใจ พอมาทำธุรกิจก็เข้าใจ ตอนทำงานแต่งตัวดีเป็นใบเบิกทางเจรจา ให้พูดคุยกันง่ายขึ้น ไม่ต้องมานั่งอธิบายโปรไฟล์ เราพูดไปเขายังไม่เชื่อคำพูดเราเท่าภาพที่เห็นเลย แต่สุดท้ายจะดีลต่อไหมอยู่ที่ความสามารถของเรา”

เฟอร์รารี ความฝันชาติหนึ่งต้องได้ขับความชอบของผู้ชายมีอยู่ไม่กี่อย่าง รถ นาฬิกา ดนตรี กีฬา ซึ่ง วรัตน์พล ได้เติมเต็มความชอบของตัวเองเกือบครบอย่าง 599 GTB Fiorano หนึ่งในรถสปอร์ตแบบหายากที่สุดรุ่นหนึ่งของโลกเขาก็มีครอบครองได้ 2 ปี ซื้อด้วยเงินสดสนนราคา 20 กว่าล้านบาท

วรัตน์พล วรัทย์วรกุล ‘รถ กีตาร์ นาฬิกา โลกของผม’

“ผมชอบเพราะเป็นรุ่นที่เครื่องใหญ่สะใจ ในประเทศไทยมี 10 คัน ผมชอบเฟอร์รารีเพราะโลโก้ม้า และชอบภาพลักษณ์ของรถ ดูโฉบเฉี่ยว ดูมีพลัง เป็นความฝันชาติหนึ่งต้องได้ขับซูเปอร์คาร์ยี่ห้ออื่นก็สนใจ แต่ตอนนี้ผมคิดว่าเฟอร์รารีต้องขับตอนหนุ่มๆ เพราะรถแรง ขับยากจะได้เอามันอยู่” 

อีกคันที่เอาไว้ขับใช้งาน ปอร์เช่ 718 Boxster ราคา 7 ล้านกว่าบาท “เลือกรุ่นนี้อยากได้เปิดประทุนบ้าง คันนี้ขับใช้งานแทบทุกวัน และเพื่อไปต่างจังหวัดได้เปิดประทุน และก็มีรถมินิคูเปอร์ 4 ประตูสำหรับครอบครัว รถทุกคันสีแดง ส่วนตัวชอบสีแดงและเป็นสีที่ดูมีพลัง อีกอย่างซูเปอร์คาร์ถ้าสีเรียบๆ ผมว่าไม่ค่อยเหมาะกับตัวถังรถสีเปรี้ยวๆ แรงๆ จะดูรถสวย ผมชอบขับรถแต่ไม่เคยแข่งรถนะ มีรถมาหลายคันแล้ว ก็หลายยี่ห้อไล่ระดับขึ้นไป เป็นความชอบและเราอยากขับในเวลานั้นๆ อย่างตอนนี้เฟอร์รารีก็มีสมาคมไปทริปต่างจังหวัดก็ได้คอนเนกชั่นทางธุรกิจ ผมว่ารถกับผู้ชายเป็นของคู่กัน เราใช้รถก็บอกรสนิยมของเราได้ระดับหนึ่ง”

กีตาร์แฮนด์เมด โลกดนตรี

นอกจากลุคนักธุรกิจวรัตน์พลยังมีอีกลุคคือนักดนตรี มีกีตาร์ตัวโปรดถึง 8 ตัว ราคาอยู่ที่ตัวละ 1-2 แสนบาท

“แต่ละตัวเสียงไม่เหมือนกัน คาแรกเตอร์ ทรงไม่เหมือนกัน เราแค่เลือกเสียงที่เราชอบ สไตล์ทรงที่ชอบ 8 ตัวชอบทุกตัว คนละทรงเล่นเพลงคนละกีตาร์ตัวเทพของผม เป็นงานแฮนด์เมดจากประเทศเยอรมนี มี 10 ตัวในโลก ตัวนี้ตัวที่ 7 ช่างกีตาร์ ชื่อ Nik Huber เป็นกีตาร์รุ่นครบรอบ 10 ปีในการผลิตของคนนี้ ซื้อมาเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ราคา 5 แสนบาท ผมชอบช่างคนนี้ เพราะเขาทำกีตาร์มีเอกลักษณ์เรื่องเสียง หางเสียงยาวมาก ก็งงว่าผลิตเสียงแบบนี้ได้ยังไง ผมว่าทรงมันสวย มีเสน่ห์แบบสรีระผู้หญิง โค้งเว้า เซ็กซี่ แฟลชเป็นรูปปลาวาฬ ทำจากหอยมุกมีมิติที่ลึกกว่า ใช้ไม้บราซิเลียนโรสวู้ด ซึ่งทุกวันนี้ห้ามตัดแล้ว กีตาร์มีกลิ่นของไม้กลิ่นแบบโกโก้ ตัวลูกบิดประดับด้วยหอย หน้ากีตาร์เป็นลายไม้ เป็นเฟรมลึกเหมือนคลื่นทะเล ผมชอบมาก เข้าใจตอนนี้ในไทยมีอยู่ตัวเดียว”

วรัตน์พล วรัทย์วรกุล ‘รถ กีตาร์ นาฬิกา โลกของผม’

นาฬิกา โลกของการลงทุน

เครื่องประดับที่ใส่ติดตัวมีแค่นาฬิกา “มีนาฬิกา 12 เรือน มีโรเล็กซ์ ปาเต๊ะ ฟิลิปป์ และ AP (Audemars Piguet) ยี่ห้ออื่นผมไม่เล่น ขายไม่ได้ราคา 3 แบรนด์นี้บางรุ่นไม่ผลิตแล้ว ราคาก็ขึ้นจากที่ซื้อมาจริงๆ เป็นทรัพย์สินเพิ่มมูลค่าได้เหมือนการลงทุน บางรุ่นราคาไหลเลยนะ อย่างปาเต๊ะรุ่น 5980 ตอนซื้อมายังผลิตอยู่ ตอนนี้ราคาตอนไป 2 ล้านกว่าแล้ว รุ่นที่เล่นกันหน้าปัดจะออกสีเหลี่ยม Nautilus มีทั้งสายทองคำขาว สายหนัง สายยาง AP รอยัล โอค ออฟชอร์ เรือนโตหน่อย หน้าปัดใหญ่ๆ เอาไว้ใช้เวลาแต่งตัวไปเที่ยวไปเป็นทางการ ผมชอบใส่เพราะเป็นรอยยาก โรเล็กซ์ซื้อไว้แต่ไม่ค่อยได้ใส่ ถ้าเทียบกับรถเหมือนเบนซ์ เก็บเงินได้ต้องเล่น ก่อนซื้อมาขายไปก็เยอะ เหมือนเราอยากได้เรือนใหม่ เอาจริงๆ เก็งผิด ก็มีนึกว่าเขาจะเลิกผลิตพอไม่เลิกก็ปล่อยไปหาซื้อตัวใหม่

เวลาซื้อนาฬิกา ผมคิด 2 อย่างแบบที่อยากใส่ และลงทุนซื้อไปไม่เจ็บตัวถ้าอยากขายต้องได้กำไร เพราะผมชอบเปลี่ยนนาฬิกา บางเรือนใส่ 2 ครั้ง ซื้อมา 3 เดือนก็ขายแล้ว นาฬิกาผมมองเป็นเครื่องประดับ ผู้ชายเจอกันก็มองนาฬิกากันนะ ว่าสวมใส่อะไร มองเสร็จก็เริ่มประเมินค่า คนนี้ประมาณนี้ ไม่ใชแค่สถานะ มันสะท้อนคาแรกเตอร์ด้วย มันคือความชอบของเรา เรือนที่แพงสุด 2 ล้าน ไม่กล้าซื้อแพงกว่านี้ ยังรู้สึกเสียดายเงินอยู่ ส่วนตัวผมแฮปปี้แล้วที่จะใส่แค่นี้ เกินกว่านี้เริ่มรู้สึกใส่แล้วไม่ปลอดภัยในชีวิต

นาฬิกาเหมือนเครื่องประดับเป็นตัวช่วยให้เราพูดน้อยลง ไม่ต้องมานั่งบรรยายสรรพคุณของตัวเองเท่าไร นาฬิกาเรือนที่ใส่บ่อยสุด คือ ปาเต๊ะ 5711 ซื้อจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เกือบ 2 ล้านบาท ตอนนี้ราคาขึ้นไปหน่อย เป็นสายหนังจระเข้สีดำ ตัวเรือนทองคำขาว ที่ชอบมันเบาบางดี แล้วพอใส่กับชุดดำเข้ากัน แต่งตัวง่ายกว่าสายเหล็กนะผมว่า”

วรัตน์พล บอกว่า ใช้เงินกับเรื่องส่วนตัวเพียง 20 เปอร์เซ็นต์

“เหมือนสนองกิเลสตัวเอง และมันต่อยอดเป้าหมายการทำงาน การที่เราพิสูจน์ตัวเองว่า เราสามารถทำได้ พวกนี้เป็นเครื่องมือที่ทำให้ทำธุรกิจไปได้ง่ายขึ้น แล้วมันคือตัวเรา โลกของเรา รถก็เป็นงานอดิเรกที่ชอบ สามารถใช้ในชีวิตประจำวันได้ กีตาร์โลกส่วนตัวในวัยเด็กของผม ผมไม่มีชีวิตวัยรุ่น ทำงานตั้งแต่อายุน้อย ส่วนนาฬิกาผมมองว่าการลงทุนชนิดหนึ่งและซื้อมาใช้ดีกว่าเงินฝากแบงก์”

รถ กีตาร์ นาฬิกา 3 ความชอบของนักธุรกิจหนุ่มที่กว่าจะมีวันที่เขาได้ทำในสิ่งที่ชอบได้อย่างอิสระ ต้องแลกมากับการทุ่มเททำงานอย่างหนักในช่วงชีวิตวัยรุ่น