โดย รอนแรม ภาพ : พาลูกเมียเที่ยว
เพราะความทรงจำในภาพถ่าย ทำให้ “พ่อกร” พงศกร ตรีศิริพิศาล อยากเก็บไว้ให้อยู่ตลอดไป เขาจึงแชร์เรื่องราวท่องเที่ยวของครอบครัวไว้ในเพจเฟซบุ๊ก “พาลูกเมียเที่ยว” โดยมี “แม่อัน” ภัครินทร์ โสภาศรีพันธ์ และลูกทั้งสองเป็นสมาชิกตลอดการเดินทาง
“พ่อกรเปิดเพจเพราะอยากเก็บเป็นไดอารี่ไว้ให้ลูกอ่าน” แม่อันเริ่มเล่า
“แต่ผลปรากฏว่ามีคนกดไลค์เยอะมาก ซึ่งมันเหนือความคาดหมายและพวกเราก็ดีใจ แต่ไม่ใช่ว่าเราจะรีบเที่ยวเพื่อรีบมาแชร์ เรายังทำทุกอย่างให้เป็นธรรมชาติ เราไม่มีพี่เลี้ยง ไม่มีตากล้อง ไม่มีทีมงาน เรายังไปเที่ยวกันแบบแฟมิลี่และเรายังสนุกทุกครั้งที่ได้ไป”
ทุกภาพถูกกดชัตเตอร์โดยพ่อกร และทุกเรื่องราวก็ถูกบันทึกโดยพ่อกรอีกเช่นกัน โดยเขาเล่าเรื่องออกมาจากใจเพื่อเก็บเป็นความทรงจำให้ลูก
“หลายคนคิดว่าพาลูกไปเที่ยวแล้วเขาจำไม่ได้จะพาไปทำไม จริงอยู่ว่าเขาคงจำรายละเอียดไม่ได้ทั้งหมด แต่รูปถ่ายและเรื่องราวเหล่านั้นจะเป็นความทรงจำที่ชัดเจนให้เขาเอง”
โพสต์ที่โดนใจและน่าทึ่งที่สุดต้องยกให้ทริปพาลูกสาววัย 9 เดือนครึ่งไปดูแสงเหนือที่ไอซ์แลนด์ พ่อกรรับหน้าที่เล่าต่อว่า เพราะน้องเนียเกิดที่ประเทศอังกฤษ การพาไปเที่ยวไอซ์แลนด์เป็นประเทศแรกจึงไม่ใช่เรื่องยาก
“ถามว่าการพาเด็กเล็กเที่ยวต้องเตรียมตัวยังไง ผมเชื่อว่าทุกครอบครัวสามารถเตรียมสิ่งของพื้นฐานของลูกได้อยู่แล้ว เช่น เสื้อผ้าที่เหมาะกับสภาพอากาศ อาหาร หรือนม แต่สิ่งที่ผมต้องเตรียมเป็นพิเศษคือเรื่องของความปลอดภัย ว่าเราจะพักที่ไหน หรือสถานที่ที่เราไปปลอดภัยหรือเปล่า
อย่างตอนเราไปไอซ์แลนด์มันเป็นพื้นที่ที่มีหิมะ เราก็ต้องระวังเรื่องพื้นลื่น ต้องใส่รองเท้าที่เกาะหิมะ เพราะเวลาอุ้มลูกจะได้ไม่เป็นอันตราย หรือตอนไปทะเลที่กรีซก็ต้องเตรียมเสื้อชูชีพสำหรับเด็กโดยเฉพาะ”
ปัจจุบันลูกสาวคนโต “น้องเนีย” อายุ 3 ขวบ เคยไปมาแล้ว 9 ประเทศ ส่วนลูกชายคนเล็ก “น้องนายล์” วัย 11 เดือนยังเน้นเที่ยวในประเทศไทย
“เวลาไปเที่ยวเราอยากให้ลูกสัมผัสธรรมชาติทั้งภูเขา ทะเล ป่าไม้ ดอกไม้ เราอยากให้เขาเรียนรู้ในสิ่งที่ห้องเรียนไม่มี และการพาลูกไปเที่ยวตั้งแต่เด็กทำให้เขาเป็นคนกินง่ายอยู่ง่าย” พ่อกร กล่าว
ด้านแม่อันได้กล่าวเสริมว่า เพราะการเดินทางบ่อยทำให้เด็กรู้จักปรับตัว ทั้งการเปลี่ยนที่นอนบ่อยทำให้ลูกเป็นเด็กนอนง่าย หรือการนั่งเครื่องบินและนั่งรถนานๆ ก็ทำให้ลูกสามารถอยู่นิ่ง
“เราพยายามเป็นพ่อแม่ที่ไม่ได้ปรับตัวหาลูกไปเสียทุกอย่าง แต่พยายามให้เขาปรับเข้าหาเราด้วยบ้าง เพื่อที่ว่าเราจะไม่ได้เป็นพ่อแม่ที่เหนื่อยล้าจนเกินไป
เราอยากให้การมีลูกเป็นเรื่องสนุก เป็นสีสันให้กับชีวิตครอบครัว และตอนนี้น้องเนียก็เป็นเด็กที่กินง่ายอยู่ง่ายจริงๆ เป็นเด็กที่โฟกัส มีสมาธิ และเห็นชัดเลยว่าลูกมีความเป็นผู้ใหญ่ เพราะเขาเห็นอะไรมาเยอะจากการเดินทาง”
คุณแม่ลูกสองยังกล่าวด้วยว่า การออกเดินทางทำให้ทุกคนในครอบครัวหลุดออกจากวงจร อย่างพ่อกรที่ต้องทำงานประจำ ลูกสาวคนโตที่ต้องเรียนหนังสือ รวมถึงตัวเธอเองที่แม้จะทุ่มเวลาเกือบทั้งหมดให้ลูกแต่ก็ยังต้องแบ่งเวลาทำงานอยู่บ้าง แต่ช่วงเวลาของการเดินทางคือ เวลาของครอบครัวที่จะสร้างประสบการณ์ร่วมกัน และสร้างทีมเวิร์กให้กับครอบครัว
ติดตามเรื่องราวของคุณพ่อแบกกล้อง คุณแม่อุ้มลูกชายคนเล็กและจูงมือลูกสาวคนโตไปท่องโลกได้ที่เพจ พาลูกเมียเที่ยว แล้วทุกครอบครัวจะไม่มีข้ออ้างในการเดินทาง
ถนนทุกสายมุ่งสู่โคชิเอ็ง สนามแห่งความฝัน
วันที่ 02 ธ.ค. 2561
ธนพัต ทับทอง ชีวิตที่เต็มไปด้วยอิสรภาพ
วันที่ 02 ธ.ค. 2561
คริสทีน วาชอน เธอคือโปรดิวเซอร์ภาพยนตร์ระดับออสการ์
วันที่ 02 ธ.ค. 2561
บรูไน...ไปแล้วจะรู้ อยู่แล้วจะรัก
วันที่ 01 ธ.ค. 2561
Elongate spine to prevent or cure Kyphosis with Yoga postures EP 1
วันที่ 01 ธ.ค. 2561