โก๋เอ็ม บุดดาเบลส พ่อทูนหัวของสัตว์ผู้โดดเดี่ยว
“ผมหัวร้อนง่าย ถ้ามีข่าวเรื่องเกี่ยวกับสัตว์ หรือมีคนรังแกสัตว์ อย่าให้ผมรู้”
โดย มัลลิกา นามสง่า
“ผมหัวร้อนง่าย ถ้ามีข่าวเรื่องเกี่ยวกับสัตว์ หรือมีคนรังแกสัตว์ อย่าให้ผมรู้”
ถ้อยความจากแร็ปเปอร์ชื่อดัง “โก๋เอ็มบุดดาเบลส” หรือกิตติพงษ์ คำศาสตร์
เป็นเวลานับสิบปี ที่ผู้คนเริ่มรู้จักและจดจำภาพใหม่ของโก๋เอ็ม นอกจากการเป็นศิลปินแร็ป เขายังเป็นคนที่รักสัตว์ตัวยง ประเภทที่ว่าหมาแมวพลัดหลง ตัวแห้งเหี่ยว พิการ ถูกทำร้ายบาดเจ็บ เป็นต้องเข้าไปช่วยเหลือ โอบอุ้มนำมารักษาอยู่ร่วมชายคาด้วย
จาก 1 เป็น 2 เป็น 3 เป็น 4 จนมากถึง 50 ตัวก็มี ทั้งหมู หมา กา ไก่ เรียกว่า Goh-m Family
จากอยู่บ้านร่วมห้องนอนในกรุงเทพฯ ปัจจุบันโก๋เอ็มพาลูกๆ ย้ายสำมะโนครัวไปอยู่ที่ “บ้านไร่ลุงเอ็ม” จ.ราชบุรี สถานที่ซึ่งเขานำเงินสะสมจากการทำงานมาวางอนาคตใหม่โดยมีสัตว์เป็นส่วนร่วมในชีวิต
สถานที่แห่งนี้นอกจากให้ลูกๆ นานาสัตว์ได้เดินเล่น ครอบครองพื้นที่อย่างอิสระ ยังเป็นสตูดิโอที่สรรค์สร้างงานศิลปะ โปรดักชั่นเฮาส์ และงานอื่นๆ ตามแต่ว่าจ้าง แต่ยังอยู่ในไลฟ์สไตล์ของ โก๋เอ็ม เพลง สัตว์ ศิลปะ
“ตอนนี้บ้านที่กรุงเทพฯ มีหมา แมว ไก่ รวม 20 ตัว แมว 2 หมา 14 ไก่ 2 ไก่ไข่ 2 ตัวที่อยู่กรุงเทพฯ มีทั้งเลี้ยงเองและรอหาบ้าน แต่ผมว่าพอมันโตก็หมดโอกาสมีบ้านใหม่แล้ว ธรรมชาติของสัตว์โตก็ไม่มีใครอยากเลี้ยง ก็ต้องเลี้ยงไว้เอง
หมาที่กรุงเทพฯ ผมก็เหมือนคนทั่วไปซื้อมาเลี้ยงแล้วยังไม่มีความรู้ ไม่ได้ทำหมัน ออกลูกออกหลานมาเยอะจนเป็นฟาร์ม หมาจรก็มีเลี้ยงไว้ เป็นหมาที่อยู่ในซอยหมานี้แหละ ซอยพระราม 9 ซอยเลียบด่วนรามอินทราคนแถวนี้จะรู้ดีว่าผมคุมหมาในซอยนี้ (หัวเราะ) ใครมารังแกไม่ได้ ส่วนที่ไร่ราชบุรีเป็นหมาจร 100 เปอร์เซ็นต์ รวมถึงหมู แพะ ไก่ หมู2 ตัวซื้อพร้อมซื้อที่ดินเขาจะขายส่งโรงเชือด”
บ้านไร่ลุงเอ็ม มีเนื้อที่ 2 ไร่ โก๋เอ็มซื้อไว้เมื่อ 4 ปีที่แล้ว เพราะตระหนักได้ว่าสัตว์ที่เขาอุปการะเริ่มมีมากขึ้น นอนบนเตียงด้วยกันไม่พออีกแล้ว ประจวบกับมีคนวางยาฆ่าสุนัขในซอย
อย่างไรก็ตาม บ้านไร่ลุงเอ็มไม่ใช่มูลนิธิดูแลสัตว์ที่เจ้าของไม่ต้องการแล้ว หรือสัตว์พิการที่ดูรูปลักษณ์ไม่น่ารัก ไม่น่าอุ้มน่าจูง ไม่ต้องเอามาทิ้งหรือฝากให้ช่วยหาบ้าน
สิ่งที่โก๋เอ็มทำนั้น เงินทุกบาททุกสตางค์ก็ควักเอง รายจ่ายดูแลสัตว์ที่มีอยู่ในอาณัติตกราวเดือนละ 2 แสนบาท ส่วนใครจะเรี่ยไรเงินมาช่วยเหลือเขาก็ไม่ค่อยอยากรับ ไม่อยากให้มีปัญหากันภายหลังแต่ให้เป็นสิ่งของสำหรับสัตว์ก็มิอาจจะปฏิเสธได้ ยิ่งขนมาให้ถึงไร่ก็รับไว้และขอบคุณมากๆ
“ผมมีพนักงานที่อยู่ที่ไร่ พื้นฐานก็รักสัตว์ บางคนไปเจอหมาแมวก็อุ้มมา ผมก็บอกว่าสงสารได้ แต่เราก็ต้องดูแลให้ไหว ใครอุ้มมาก็ต้องช่วยดูแลด้วย ความสงสารมันจะทำร้ายกู
ผมบอกเด็กทุกคน เราไม่ได้โลกสวย แต่เราต้องดูด้วยว่าเราดูแลเขาได้ไหม ผมใช้เพจหาบ้านตลอด ก็บอกทุกคนเวลาว่างจากงานประจำต้องช่วยดูแลเพจหาบ้าน
เหมือนกันคนที่จะเลี้ยงสัตว์ผมบอกเลยไม่มีเงินอย่าเลี้ยง ไหนจะค่ายาค่าดูแล พอดูแลไม่ไหวก็เอามาปล่อยทิ้งเป็นปัญหาให้สังคมอีก”
โก๋เอ็มอุปการะสัตว์ที่ถูกทอดทิ้ง ทำคนเดียว ควักเงินจ่ายเอง เป็นเช่นนี้มานาน ร่วมกิจกรรมจิตอาสาเพื่อสัตว์ต่างๆ รวมไปถึงการลุกขึ้นมาพูดถึงเรื่องของสิทธิสัตว์และอุตสาหกรรมสัตว์อย่างจริงจัง
“ตอนนี้ผมเน้นเรื่องการหาบ้าน ผมจะหมดกำลังใจแล้ว การที่หมาแมวมีมากขึ้นจนผมจะรับไม่ได้ แต่ตอนนี้มันยังหมุนเวียนได้บ้านบ้าง แต่สัตว์มีเข้ามาเรื่อยๆ จากลูกน้องอุ้มมา ส่วนผมช่วยเท่าที่ผมเห็นซึ่งหน้า
บางคนก็ทักมาให้ไปช่วยอยู่ จ.สงขลา ผมก็แนะนำไปว่า ถ้าอยากเป็นจิตอาสาสิ่งที่ต้องทำนอกจากสงสารแล้ว ให้อุ้มลูกหมาไปโรงพยาบาล แล้วก็ระดมทุนหาเงินรักษา อัพเดทอาการแล้วหาบ้าน พอได้บ้านรักษาหายปิดบัญชีด้วยนะ อย่าเปิดเพลิน นี่คือสิ่งที่เราต้องพิทักษ์สัตว์ ผมเองไปช่วยทุกเคสไม่ได้”
นอกจากนี้ โก๋เอ็มยังสร้างงานศิลปะโดยแรงบันดาลใจมาจาก GOH-M Family ทุกคนจะรู้จักกับ “พิคกุล” หมูป่าตัวน้อยสามขา เป็นอาทิ
งานอีเวนต์ที่โก๋เอ็มมักออกก็คือกิจกรรมช่วยเหลือสัตว์ จัดเป็นอีกหนึ่งศิลปินใจบุญ อย่างงานที่ไป ชวนเพื่อนศิลปินมาเล่นดนตรีเปิดหมวกพร้อมทำงานศิลปะ หารายได้ไปช่วยทำหมันให้สุนัขจรจัดที่บ่อขยะเขาบิน ราชบุรี ในงานฉลองเปิด อิออน เพ็ทช็อป แอท ซีดีซี
หารายได้และรณรงค์ให้คนเห็นความสำคัญของการช่วยเหลือน้องหมาจรจัดที่ไม่มีใครดูแล และอาจขยายพันธุ์จนก่อให้เกิดปัญหาสังคมในด้านต่างๆ ตามมาได้
“สำหรับคนที่เลี้ยงสัตว์ต้องมีเวลาให้ ไม่ใช่เบื่อแล้วนำมาทิ้ง ปัญหาน้องหมาจรจัดที่ปัจจุบันมีจำนวนมากขึ้น โดยไม่สามารถควบคุมการเพิ่มจำนวนน้องหมาได้ ผมเลยต้องการอาสาสมัครไปร่วมทำหมันให้สุนัขจรจัดที่บ่อขยะเขาบิน ราชบุรี เพราะมีจำนวนเยอะมากครับ”
สิ่งที่โก๋เอ็มทำ ไม่ใช่การสร้างภาพ และเขาไม่ได้สนใจที่คนจะมองมาอย่างไรบ้าง เขาทำมานานหลายสิบปีตั้งแต่เริ่มมีกำลังทรัพย์ ส่วนความรักสัตว์มีมาตั้งแต่เด็ก
“อันนี้คือความสุขของผม ผมเก็บกดมั้ง ผมอยากใช้ชีวิตกับสัตว์ แต่เราครอบครัวคนจีน ผมก็เข้าใจ พอเราโตขึ้นผมก็อยากอยู่กับสัตว์ ผมก็ชอบหมาที่สวยงาม แต่ลึกๆ ผมก็ชอบอะไรบางอย่างในสัตว์
อย่างหมาจรมีความซื่อสัตว์ เลี้ยงดีๆ มันก็อ้วน ขนสวย บางครั้งผมเอาหมาจรไปจูง คนก็ถามหมาพันธุ์อะไร นึกในใจพันธุ์ทางข้างบ้านคุณนั่นล่ะ ก็เลี้ยงดูดีจนขนมัน เป็นความรู้สึกภูมิใจถ้าเลี้ยงดี ใส่สายจูงแพง หมาเราก็ดูแพง”