บริหารการออม อย่างมีประสิทธิภาพ
ไม่เคยมีเงินเก็บสักที ต้องมีเรื่องมาคอยให้ใช้ตังค์อยู่เรื่อยไป การออมเงินไม่ใช่เรื่องยากเพียงแค่เราต้องมีวินัยกับตัวเอง
เรื่อง กันย์ ภาพ Pixabay
เบื่อไหมที่ทำอย่างไรก็ไม่เคยมีเงินเก็บสักที ต้องมีเรื่องมาคอยให้ใช้ตังค์อยู่เรื่อยไป อันที่จริงแล้วการออมเงินไม่ได้ยากขนาดนั้นเลยนะ เพียงแค่เราต้องมีวินัยกับตัวเอง ตัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นออกไป แล้วออมเงินส่วนที่เราไม่ได้ใช้ แต่ถึงบอกแบบนี้ก็ทำไม่ได้หรอกใช่ไหมล่ะ ถ้าอย่างนั้นเรามาหาวิธีเก็บเงินแบบหลอกตัวเองกันดีกว่า เก็บเงินได้โดยที่ไม่รู้สึกว่าเรากำลังออมเงินอยู่ ไปดูกันเลยว่ามีอะไรบ้าง
1.ทำเรื่องออมเงินให้เป็นนิสัยจนเคยชิน
มีแค่ความตั้งใจมันไม่พอนะ เราควรทำเรื่องวางแผนการเงินให้เป็นเรื่องอัตโนมัติโดยที่เราแทบไม่ต้องมานั่งปวดหัวคิดในทุกเดือนว่าจะต้องออมเงินยังไง เท่าไหร่ โดยให้ไปคุยกับธนาคาร แล้วขอจัดระบบโอนเงินอัตโนมัติจากบัญชีเงินเดือนของเราเข้าไปที่บัญชีเงินเก็บ เพียงเท่านี้ก็จะไม่พลาดหรือลืมเก็บเงินตามที่ต้องการ
2.แยกเงินไว้ต่างหาก
แบบว่าเอาบัญชีไปซ่อน การที่ทำให้ตัวเองไม่เห็นว่าเรามีมูลค่าเงินอยู่แล้วเท่าไหร่ ก็จะทำให้ไม่อยากใช้เงินมากขึ้น โดยสามารถทำการแยกบัญชีเงินเก็บไว้ธนาคารหนึ่งและบัญชี
ใช้จ่ายไว้ในอีกธนาคารหนึ่ง ทำให้เป็นเรื่องยากที่จะมองเห็นมูลค่าบัญชีของตัวเอง แถมทำให้ออมเงินได้มากขึ้น อีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยในการเก็บเงินก็คือ สำหรับบัญชีเงินเก็บ เราไม่ต้องทำบัตร ATM เพื่อที่จะได้ไม่ต้องมีเครื่องมือไว้ถอนเงินออกมาใช้เมื่อไหร่ก็ได้ง่ายๆ นั่นเอง
3.ตั้งชื่อให้แต่ละบัญชี
เวลาที่ไปเปิดบัญชีเงินฝากแต่ละที ชื่อบัญชีก็เป็นชื่อเราหรือเป็นเลขบัญชี ดูน่าเบื่อสุดๆเลยใช่ไหมล่ะ ยิ่งมีหลายบัญชีก็ยิ่งสับสนว่าแต่ละบัญชีจะใช้ทำอะไร ทางที่ดีถ้าหากอยากออมเงินให้ได้มากขึ้น ก็ให้เขียนไว้หน้าสมุดบัญชีว่า บัญชีนี้ใช้สำหรับทำอะไร เช่น ไว้ไปเที่ยว ไว้จ่ายภาษี ไว้ซ่อมรถ เป็นต้น อาจจะหาชื่อให้กับแต่ละบัญชี เช่น ถ้าเป็นบัญชีเก็บเงินไปเที่ยว ก็อาจจะตั้งเป็น ทริปไปฝรั่งเศสแบบชิกๆ หรือถ้าเป็นบัญชีเงินฝากเตรียมเกษียณก็อาจจะเป็นชื่อว่า Freedon Fund อะไรแบบนี้ ให้เรารู้สึกสนุกไปด้วย แถมออมเงินอยู่ด้วยยิ่งดีไปอีก
4.ใช้ app เข้าช่วย
เราสามารถใช้ app ที่จะคอยติดตามการใช้งานของเรา ว่ามีการถอนโอนจ่ายกันไปอย่างไรบ้าง ทำให้เราสามารถออมเงินได้ทุกเม็ดทุกหน่วย อย่างเช่น app Digit หรือ app Acorns ที่ทำให้สามารถดูแลบัญชีข้ามธนาคารแล้วเก็บเงินส่วนที่เหลือได้อีกด้วย
5.ใส่กุญแจล็อกไว้เลย
ถ้าหากมีเงินส่วนไหนที่ไม่ได้ใช้อยู่แล้ว และเราคิดอยากจะออมเงินก็ให้นำเงินไปเก็บไว้ในที่ที่ถอนออกมายากๆ เช่น การเก็บเงินไว้ในบัตรเงินฝาก (Certificate of Deposit) ที่จะทำให้เราถอนเงินออกมาไม่ได้ เว้นแต่จะจ่าย
ค่าธรรมเนียมเล็กน้อย ซึ่งเหมาะกับการออมเงินไว้สำหรับก่อนเกษียณนั่นเอง โดยเราสามารถเก็บเงินส่วนที่เหลือไว้กับตัวได้สำหรับพร้อมใช้ในยามฉุกเฉิน โดยมีขั้นต่ำไว้สัก 2 หมื่นบาทก็โอเคแล้ว
6.เก็บรางวัลจากบัตรเครดิต
ถ้าหากเราใช้บัตรเครดิตที่มี Cash-back rewards ก็ให้เอาเงินที่ได้ตรงนั้นไปเข้าบัญชีเงินฝากดีกว่า เพราะถือว่าเป็นเงินที่เราไม่ได้จำเป็นต้องใช้ในแต่ละเดือนนั่นเอง สะสมไปเรื่อยๆ ก็จะได้เป็นกอบเป็นกำเข้าสักวัน
7. เปลี่ยนค่าใช้จ่ายให้เป็นการออมเงิน
ถ้าหากเรามีการยกเลิกค่าใช้จ่ายบางอย่าง เช่น การเปลี่ยนโปรมือถือให้ถูกลง หรือการยกเลิกเคเบิลทีวี แน่นอนว่าต้องมีเงินเหลือใช่ไหม ถ้าหากอยากเก็บเงินให้ได้เพิ่มขึ้น ก็ให้เอาเงินที่เหลือจากที่ต้องคอยจ่ายทุก
เดือน มาเข้าบัญชีเงินฝาก ก็จะได้เงินออมเพิ่มขึ้นอีกส่วนหนึ่ง
8.อย่าเอาเงินพิเศษมาใช้
ไม่ว่าจะเป็นเงินโบนัสเงินเดือน เงินได้คืนจากภาษีหรือการได้เงินคืนจากที่ใดๆ ก็ตาม ถ้าอยากเก็บเงินให้ได้เพิ่มขึ้น การออมเงินส่วนเพิ่มที่เราไม่ได้ใช้ในชีวิตประจำวัน ก็จะทำให้สามารถออมเงินได้มากขึ้นอีกระดับหนึ่ง
9.ทำให้เหมือนเล่นเกม
เวลาที่ได้เงินทอนมาเป็นเหรียญหรือทอนมาเป็นแบงก์ย่อยๆ เช่น แบงก์ 20 ที่เราไม่ค่อยได้ใช้ ก็ให้กลับบ้านมาแล้วเอาหยอดกระปุกไว้ ทุกๆ สิ้นเดือนก็ให้เอาเงินจากกระปุกตรงนั้นไปเข้าบัญชีเงินฝาก ก็จะเก็บเงินได้เพิ่มขึ้นอีกนะ
10.เมื่อเงินเดือนขึ้นก็ให้เก็บส่วนต่าง
ถ้าปีนี้เราได้เงินเดือนขึ้นสัก 7,000 บาท ก็ให้เก็บเงินเพิ่มตรงนี้ไว้ในบัญชีเงินฝากจะดีกว่า เพราะถ้าหากเราไม่ได้มีเหตุจำเป็นอะไรที่ต้องใช้เงินเพิ่ม ก็ออมเงินตรงนี้ไว้สำหรับตอนเกษียณก็จะมั่นคงได้เร็วขึ้น
เห็นไหมล่ะ มีหลากหลายวิธีเลยที่จะทำให้เราสามารถเก็บเงินได้ โดยที่ไม่ต้องทำตัวประหยัดจนเกินไป ถ้าเราวางแผนการเงินของตัวเองดีๆ ก็จะมีเงินเก็บไว้ใช้ยามฉุกเฉินหรือตอนแก่แน่นอน