posttoday

ต้นไม้ใช้กู้เงินได้

08 สิงหาคม 2561

เห็นข่าวว่าต้นไม้สามารถนำมาใช้กู้เงิน อีกทั้งยังเป็นหลักประกันทางธุรกิจได้อีก

โดย...สลาตัน

เห็นข่าวว่าต้นไม้สามารถนำมาใช้กู้เงิน อีกทั้งยังเป็นหลักประกันทางธุรกิจได้อีก ผนวกกับเพื่อนฝูงถามไถ่มาเยอะว่าสามารถทำได้จริงหรือ แล้วคุณสมบัติหลักเกณฑ์ใดจะสามารถทำได้ เนื่องจากบางทียังมีต้นไม้ที่ชาวบ้านปลูกในพื้นที่ทับซ้อน พื้นที่เช่าอาศัย พื้นที่ของรัฐ

ยกข้อมูลจากที่ประชุม ครม.สัปดาห์ก่อนอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทรัพย์สินอื่นเป็นหลักประกันทางธุรกิจ โดยกระทรวงพาณิชย์เป็นผู้เสนอ ซึ่งเป็นผลต่อเนื่องมาจากคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านสังคม เสนอแผนขับเคลื่อนระบบการเสริมสร้างชุมชนเข้มแข็ง ในส่วนของระบบการจัดการทรัพยากรและชุมชน ที่จะผลักดันกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมให้ประชาชนปลูกต้นไม้ยืนต้นมูลค่าสูงในที่ดินกรรมสิทธิ์

กระทรวงพาณิชย์ในฐานะกำกับดูแล พ.ร.บ.หลักประกันทางธุรกิจปี 2558 ได้เสนอออกกฎกระทรวงให้นำไม้ยืนต้นที่มีมูลค่าสูงมาเป็นหลักประกันทางธุรกิจ โดยออกกฎกระทรวงตามมาตรา 8(6) พ.ร.บ.หลักประกันทางธุรกิจที่บัญญัติให้หลักประกัน ได้แก่ ทรัพย์สินอื่นตามที่กำหนดในกฎกระทรวง จึงได้กำหนดไม้ยืนต้นที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจ 58 ชนิด ตามบัญชีท้ายกฎหมายว่าด้วยสวนป่าให้เป็นหลักประกันทางธุรกิจได้

ส่วนต้นไม้ตามบัญชีท้ายกฎหมายว่าด้วยสวนป่า 58 ชนิด เช่น ต้นสัก พะยูง ชิงชัน กระซิก กระพี้เขาควาย สาธร แดง ประดู่ป่า ประดู่บ้าน มะค่าโมง มะค่าแต้ เคี่ยม พะยอม ตะเคียนทอง ตะเคียนหิน ตะเคียน สะเดา สัตบรรณ ตีนเป็ดทะเล ปีบต้นตะแบกนา แคนา กัลปพฤกษ์ มะขามป้อม จามจุรี หลุมพอ กฤษณา ไม้หอม เทพทาโร ไผ่ทุกชนิด ไม้สกุลมะม่วง ไม้สกุลทุเรียน

ใครมีพันธุ์ไม้ที่เอ่ยมาข้างต้น รีบกลับเข้าสวนไปดูแล เพราะต่อไปในอนาคตอันใกล้นี้จะไม่ใช่ไม้ไร้ค่า ที่เราปลูกทิ้งไว้เฉยๆ เท่านั้น ต่อไปทุกต้นจะเป็นเงินเป็นทองใช้ทางธุรกิจได้อย่างมหาศาล กฎหมายแบบนี้ถือว่าดีมากยกนิ้วกดไลค์ให้เลย เพราะนอกจากจะช่วยพยุงทางเศรษฐกิจ ทำนองใครมีต้นไม้ก็สามารถนำมาเป็นหลักทรัพย์ได้ ไม่จำเป็นต้องใช้บ้าน รถ อสังหาริมทรัพย์อีกต่อไป แถมยังส่งเสริมให้คนทั่วประเทศหันมาสนใจปลูกต้นไม้ในพื้นที่ว่างเปล่า ช่วยฟื้นฟูธรรมชาติให้สมบูรณ์เพิ่มขึ้น ที่สำคัญยังช่วยให้ต้นไม้ในประเทศไทยเพิ่มจำนวนขึ้นอีกด้วย

เท่าที่ทราบตอนนี้ ได้ยินมาว่าตัวกฎหมายดังกล่าวกำลังอยู่ระหว่างยกร่างกฎกระทรวงตามที่กฤษฎีกาพิจารณา โดยมีการคาดคะเนกันไว้ว่าน่าจะบังคับใช้ได้ในช่วงเดือน ก.ย. แบบนี้เตรียมปัดกวาดถางหญ้าให้สวยงาม ขณะที่การประเมินต้นไม้จะทำอย่างไร เบื้องต้นทราบว่า สถาบันการเงินจะเป็นผู้ประเมิน อย่างธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จะเป็นสถาบันการเงินแห่งแรกที่เข้ามาดำเนินการโครงการ “ธนาคารต้นไม้”

สำหรับสมาชิกในโครงการนี้สามารถนำต้นไม้เป็นหลักประกันมูลค่าทางเศรษฐกิจได้ ซึ่งทางธนาคาร ธ.ก.ส.เขาจะเป็นผู้ประเมินราคาตามความจริง ถือว่าเป็นธนาคารนำร่องสร้างความเชื่อมั่นต่อเกษตรกร หรือคนทั่วไปที่ปลูกต้นไม้ 58 ชนิดไว้ โดยมีสถาบันการเงินรับต้นไม้เป็นหลักประกันหรือกู้เงินได้ในอนาคต

ส่วนอนาคตจะมีการขยายชนิดต้นไม้เพิ่มเติมอีกหรือไม่ คงต้องดูกระแสตอบรับและความคุ้มค่าที่สะท้อนความจริงกลับมาว่าเป็นอย่างไร อดใจรอกันอีกไม่นานเกษตรกรที่มีต้นไม้เหล่านั้น สามารถนำมาแปรให้เกิดมูลค่าได้อย่างมหาศาล อนาคตประเทศไทยอาจเต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่และใช้เป็นหลักทรัพย์ทางธุรกิจได้