posttoday

เหตุเกิดจากความรัก

06 สิงหาคม 2561

เหมือนคนกำลังมีรัก เหมือนคนหลงทางพบคนรู้จัก เหมือนเจอของสำคัญที่หล่นหาย

เรื่อง มัลลิกา นามสง่า  ภาพ วีรวงศ์ วงศ์ปรีดี (ใส่ตรงรูปผู้ชาย 2 คน นภ พรชำนิ+ไลฟ์) /ภาพ01 จาก pixabay.com

เหมือนคนกำลังมีรัก เหมือนคนหลงทางพบคนรู้จัก เหมือนเจอของสำคัญที่หล่นหาย เหมือนร้ายนั้นกลายเป็นดีมาก เหมือนที่ฉันนั้นได้มาพบกับเธอ ชีวิตฉันจึงได้เจอ

แต่ไม่รู้จะขอบคุณ ไม่รู้ทำอย่างไร ไม่รู้ว่าสิ่งไหนจะยิ่งใหญ่ควรค่าพอ ที่ฉันได้จากเธอ ได้รักโดยไม่ต้องขอ ได้รู้โดยไม่ต้องรอ ว่ารักคืออะไร…

(เพลง “รัก” ประพันธ์โดย “บอย โกษิยพงษ์”)

“ความรัก” เป็นแรงขับให้มนุษย์มีพลังสามารถทำทุกอย่างได้ ไม่ว่าจะรักร้ายรักดีแล้วแต่ใครจะปล่อยให้ความรักนำทาง การฆาตกรรมหลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็มีมูลเหตุมาจากความรัก แต่ไม่ได้หมายความว่ารักไม่ดี หากแต่ยังขาดความเข้าใจในความรัก

บางคนเดินหาทางออกไม่เจอติดอยู่ในวังวนแห่งรักจึงต้องพึ่งศิราณี ซึ่งยุคนี้คงไม่มีใครไม่รู้จัก พี่อ้อย-พี่ฉอด (นภาพร ไตรวิทย์วารีกุล-สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา) แห่ง คลับฟรายเดย์ คลื่นกรีนเวฟ 106.5 ที่คอยรับฟังสารพันปัญหาความรักจากผู้ฟังปลายสายที่โทรเข้ามาปรึกษามากกว่า 10 ปี จนต่อยอดสู่ซีรี่ส์ รายการ และกิจกรรมต่างๆ

ขณะที่ “นภ พรชำนิ” ก็ได้จับมือกับ “บอย โกษิยพงษ์” ก่อตั้งบริษัท “ไลฟ์อีส” (LIFEiS) ธุรกิจเพื่อสังคม (SE-Social Enterprise) เปิดตัวโปรดักต์แรกก็ว่าด้วยเรื่องของความรัก ความสัมพันธ์ จัดโชว์ “Staying in Love ติวเรื่องเลิฟ เสิร์ฟพร้อมเพลงรัก”

เหตุเกิดจากความรัก

โลกยังสวย…

“นภ พรชำนิ” ประธานบริหาร (ซีอีโอ) บริษัท ไลฟ์อีส เล่าถึงการก่อตั้งธุรกิจเพื่อสังคม คือการสร้างโมเดลแห่งการปลูกความดี หวังสร้างสังคมไทยให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ภายใต้แนวคิด “…ปลูกอะไรก็ได้อย่างนั้น” ผ่าน 3 คอนเซ็ปต์หลัก คือ 1.Life Stage ออกแบบให้สอดรับกับทุกช่วงวัยในชีวิต 2.Life Supplement การเติมวิตามินบำรุงจิตใจให้ตรงตามแต่ละช่วงวัย 3.Lifestyle การให้กิจกรรมนั้นๆ เป็นส่วนหนึ่งของวิถีการดำรงชีวิต

“ไลฟ์อีส มีจุดประสงค์ในการสร้างอีเวนต์ กิจกรรมต่างๆ ทำสื่อ หรือจัดแคมปิ้ง โชว์ต่างๆ เพื่อให้เกิดประโยชน์กับภาพรวมสังคม สังคมที่ว่าด้วยมนุษย์ มนุษย์ตั้งแต่อยู่ในท้องจนถึงเสียชีวิต ทุกคนต้องการเติมวิตามิน เราจะทำกิจกรรมใดๆ ก็ตามต้องเติมวิตามินเสริมให้เขา ให้เขารับพลังงานได้เต็มและเผื่อแผ่ให้คนอื่นได้

คนเต็มแล้วควรเติมให้คนไม่เต็ม ให้เกิดสังคมเกื้อกูลกัน สังคมเกื้อกูลกันมีอยู่จริงมีมานาน แต่ตอนนี้ทุกคนมีแต่ต้องการเทกๆๆๆ ทำตัวอยู่บนหอคอย แต่ความเชื่อของไลฟ์อีสทุกคนอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข ขายขนมครกก็มีความสุขไม่ต้องเปิดแฟรนไชส์ ความสำเร็จของคนหนึ่งทำให้ตัวเองเต็มแล้วแบ่งปันให้คนอื่นได้ นั้นคือสิ่งที่เราเชื่อมั่นว่ามีคนคิดแบบเราจริงๆ เราพยายามสร้างตรงนี้ ความสุขมีความเรียบง่ายใกล้ๆ ตัว ไลฟ์อีสจะดึงเอาพลังของคนเหล่านี้มารวมกัน”

โมเดลธุรกิจเพื่อสังคม ในเฟสแรก แบ่งกลุ่มเป้าหมายที่จะเข้าไปสื่อสาร สร้างแรงบันดาลใจ ปลดล็อกปัญหาของแต่ละช่วงชีวิต 

“พี่บอยพูดว่า จริงๆ โลกมันสวยเพียงแต่หลายคนอาจจะเจอกับด้านมืดเลยคิดว่าโลกมันเป็นแบบนั้น เราจึงไม่ลังเลที่จะสร้างและลงมือทำ ผมเชื่อสิ่งที่พี่บอยพูด คือ เราปลูกสิ่งดีๆ วันนี้ อนาคตเราจะได้เก็บเกี่ยวสิ่งดีๆ

เหตุเกิดจากความรัก

ไลฟ์อีสเกิดจากการคิดวิเคราะห์หลายด้าน ไม่ใช่แค่คิดว่าจะทำ แต่ได้ผ่านไอเดียต่างๆ จากพวกเราและทีมงานทุกคน ความฝันพี่บอยมีอยู่มากแต่ผมขออาสาทำตรงนี้ ไลฟ์อีสจะเปลี่ยนชีวิต เปลี่ยนมุมมองของคนเราผ่านกิจกรรมต่างๆ ที่เรานำเสนอ และเร็วๆ นี้ที่ไลฟ์อีสจะทำ คือ Staying In Love ซึ่งจะจัดขึ้นในเดือน ส.ค.นี้

เรามองเห็นว่าประเทศไทยมีคนแต่งงานปีหนึ่ง 2 แสนกว่าคู่ เราก็จะเอากิจกรรมขยายไปตามเมืองต่างๆ เพื่อสร้างเสริมความสัมพันธ์ของคู่รักให้แข็งแรงขึ้น

ในช่วงเด็กอายุ 0-5 ขวบก็มีคุณเพลิน ประทุมมาศ (พรชำนิ) เป็นผู้มาออกแบบกิจกรรมที่เหมาะสำหรับเด็ก โดยนำเสนอผ่านรายการทีวีสำหรับเด็กที่มีเพลินและเดอะแก๊งของเขาร่วมทำรายการ ซึ่งพ่อแม่ที่ดูรายการก็จะนำกิจกรรมเหล่านั้นไปพัฒนาลูก แล้วเราก็จะมีการจัดกิจกรรมให้พ่อแม่และเด็กได้มาทำร่วมกัน

สำหรับเด็กช่วงประถม 1-6 จะมีคุณโต๋-ศักดิ์สิทธิ์ เวชสุภาพร มาฝึกฝนสมาธิผ่านดนตรี ช่วงมัธยมหรืออาชีวะก็มีคุณอุ๋ย บุดด้าเบลส มาพูดถึงชีวิตวัยรุ่นที่เขาก็เคยผ่านมาก่อน

ช่วงมหาวิทยาลัย มีคุณหนุ่ย-พงศ์สุข หิรัญพฤกษ์ มาชวนน้องๆ ค้นหาตัวเอง ช่วงวัยทำงาน หลังเรียนจบแต่งงาน (Staying In Love) เริ่มต้นทำงานสร้างครอบครัว จึงปลูกความรักและความเข้าใจในชีวิตคู่ มีพี่บอย และอาจารย์ไลฟ์-วาระ มีชูธน ผู้เชี่ยวชาญเรื่องการดำเนินชีวิตและการใช้ชีวิตคู่

ช่วงวัยกลางคน เป็นช่วงเริ่มประสบความสำเร็จในชีวิต จึงต้องปลูกค่านิยมการแบ่งปัน และช่วงผู้สูงวัย มีคุณอาต้อย-เศรษฐา ศิระฉายา และพี่ปุ๊-อัญชลี จงคดีกิจ มาสอนการวางแผนชีวิตวัยเกษียณ”

เหตุเกิดจากความรัก

เติมวิตามินบำรุงความรัก

“Staying In Love ติวเรื่องเลิฟ เสิร์ฟพร้อมเพลงรัก” วาไรตี้โชว์ สำหรับคู่รัก เพื่อนรัก เพื่อนสนิท สามีภรรยา หรือใครที่กำลังดูใจกันอยู่ โชว์เต็มรูปแบบครั้งแรกของเมืองไทย แบบ Love Mentor-Trainmen ที่จะช่วยให้คู่รักทุกคู่ทุกรูปแบบความสัมพันธ์ ตกหลุมรักครั้งแล้วครั้งเล่ากับคู่รักของคุณไปตลอดชีวิต

วิทยากร คือ กูรูด้านความรัก “ไลฟ์-วาระ มีชูธน” และเจ้าพ่อเพลงรัก “บอย โกสิยพงษ์” 3 ชั่วโมงเต็ม พบกับคอนเสิร์ต ไลฟ์ทอล์ก เวิร์กช็อป ที่จะพาคุณเดินทางไปพบกับ สูตร+เคล็ดลับ+คำตอบ เพื่อกระชับความสัมพันธ์ของกันและกันให้มากขึ้น จนเกิดเป็นความรัก ความเข้าใจ อันเป็นพื้นฐานอันสำคัญยิ่งต่อการใช้ชีวิตคู่ต่อไป โชว์จะเกิดขึ้นวันที่ 25-26 ส.ค. ณ โรงละครเอ็ม เธียเตอร์ ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ กรุงเทพฯ

นภ พรชำนิ ยกตัวอย่างคำพูดของบอย โกสิยพงษ์ ก่อนที่จะขับรถเป็นเรายังต้องไปเรียนหัดขับรถก่อน แต่ก่อนแต่งงานไม่เคยมีใครมาสอนการใช้ชีวิตคู่ ความรักก็เหมือนกับการเติมน้ำมันรถ ถ้าเติมน้ำมันผิด รถก็พัง ดังนั้นหากเรารู้ภาษาของคู่รักเรา เราจะเข้าใจกันได้ดีขึ้น 

“ความคาดหวังแต่ละคนมาคนละแบบ เราเพราะถูกสอนมาไม่เหมือนกัน บางคนพ่อแม่สอนให้ทำมาหากิน บางคนเอาแต่เล่นเกม แต่นั้นคืออดีต ปัจจุบันคือภาษารักการเติมใจให้เต็ม อนาคตคือการวางเป้าหมายของชีวิต สมมติว่า เรารู้ว่าแฟนเรามองเป้าหมายคนละอย่าง เราไม่เลิกกันแต่จะมีคอนฟิกซ์ มาดูโชว์เราจะทำให้รู้ว่าสามารถเดินไปด้วยกันได้ ทำไงให้วินๆ ทั้งคู่” 

“ไลฟ์-วาระ มีชูธน” ผู้เชี่ยวชาญทางด้านการให้คำปรึกษาเรื่องการใช้ชีวิตคู่ “ส่วนตัวผมคบแฟน 12 ปีก่อนแต่งงาน แต่งมาแล้ว 14 ปี เราคิดว่าทำไมคู่อื่นหลายคู่ความสัมพันธ์ไปไม่รอด ทำไมสถาบันครอบครัวที่เป็นสังคมที่เล็กที่สุด เป็นสังคมที่สำคัญที่สุดแต่เละเทะที่สุด

เรามาหาอะไรที่เป็นแรงหนุน เป็นความรู้ความเข้าใจที่ทำให้คู่แต่งงานอยู่กันได้ ใช้เหมือน Premarital Counseling ที่หลายประเทศสหรัฐอเมริกา อังกฤษ และอีกหลายประเทศในยุโรป ให้รู้ความแตกต่างของกันและกัน แม้กระทั่งเรื่องเพศศัมพันธ์ก็คุยกัน

เมืองไทยทำแบบนี้ทำในวงกลมเล็กๆ ของคริสเตียน องค์ความรู้ตรงนี้ของเราไม่เยอะ ประเทศมาเลเซียทุกคนที่จะแต่งงานต้องเข้าตรงนี้ ควรทำตั้งแต่วันแรกที่คบกัน หรือยังไม่มีแฟน ถ้าวันหนึ่งเรามีแฟนเราจะทรีตความรักแบบนี้

เหตุเกิดจากความรัก

ถ้าคนสองคนเข้าเรียนรู้เรื่องนี้ Staying In Love ความตั้งใจอย่างเดียวไม่พอต้องรู้วิธีปฏิบัติต่อกันด้วยถึงจะอยู่ได้ยาว

มีประโยคหนึ่งผมมักบอกเสมอว่า ถ้าจะตกหลุมรักต้องมีความต้องใจ ถ้าจะอยู่ในความรักต่อไปเรื่อยๆ ต้องมีความตั้งใจ คือต้องมีแพลนบางอย่าง 

คนไทยให้ความสำคัญกับงานแต่งงาน วางแผนทุกอย่างเกี่ยวกับงาน พรีเวดดิ้ง โรงแรม อาหาร ของชำร่วย แต่ไม่ได้วางแผนเรียนรู้วิธีการจะอยู่ด้วยกัน

สังเกตได้ว่าบางคู่ที่อยู่กันไปเหมือนรูมเมท สิ่งที่เคยวางแผนตั้งแต่ยังเป็นแฟนหายไปไหนไม่รู้ การมานั่งคุยกัน คนที่อยู่ในความสัมพันธ์แล้ว เราจะเริ่มแก้ไข เราจะต่อเติมไฟให้คุอีกครั้ง

ส่วนคนที่เพิ่งเริ่มคบกันใหม่ๆ ความรู้นี้จะประเสริฐมาก เราจะเติมคนนี้ให้เต็ม คนที่จะจ่ายเงินมาชม Staying In Love เขาต้องเป็นคนที่ลงทุนในเรื่องของความรัก”

ในส่วนของโชว์นั้น นภ พรชำนิ บอกว่า “เราทำเป็นโชว์ ไม่เหมือนโค้ชชิ่ง เรามีความกลมกล่อมของโชว์ ได้ดรีม  บ็อกซ์ทำโปรดักชั่น มีแขกรับเชิญที่เป็นคู่รักดารา มีวิดีโอคลิป มีแบบสอบถาม ในโชว์จะเป็นทูเวย์ ฟังเสร็จถามได้ด้วย แล้วคุยกับคนที่นั่งข้างๆ ได้ด้วย

พยายามดีไซน์โชว์ เป็น เลิฟ เมนเตอร์เทนเมนต์ เอาความเป็นเมนเตอร์มาบวกกับเอนเตอร์เทน นี่คือข้อที่เด็ดของพวกเรา เป็นศาสตร์และศิลป์ คนจะจำได้ คนจะนำไปปฏิบัติ เพราะเป็นประโยชน์ต่อเขาจริงๆ เราไม่ได้มาขายของ แต่ของเราคือรีเลชั่นชิป 
ที่คุณจะได้คือความเข้าใจ

เราคิดโชว์นี้มา 1 ปี โชว์นี้สำคัญเพราะสถาบันครอบครัวสำคัญที่สุด ความสัมพันธ์ของพ่อแม่ดี เด็กที่เกิดมาก็จะพร้อม พ่อแม่ไม่ทะเลาะกัน ปู่ย่าตายายไม่ถูกทอดทิ้ง เราเลยเลือกทำโชว์นี้เป็นอันแรก ตรงกับแนวคิดของไลฟ์อีสด้วย เพราะมันเชื่อมกับทุกมิติครอบคลุม”

เหตุเกิดจากความรัก

ทุก(ข์)ความรัก ยินดีรับฟัง

“ฉอด-สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา” รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท จีเอ็มเอ็ม แชนแนล เทรดดิ้ง และซีอีโอ บริษัท Change 2561

กับตำแหน่งและบทบาทการทำงานใหม่ แต่ยังไม่ทิ้งดีเอ็นเอในการทำงานมาตลอดชีวิต นั่นคือ คลับฟรายเดย์

“ไม่ว่าเราจะทำอะไรก็ตามแต่ สุดท้ายดีเอ็นเอของเราคือคลับฟรายเดย์ และที่เราแฮปปี้อยากทำที่สุด คืองานของเราสุดท้ายเป็นประโยชน์ต่อคนอื่น ต่อสังคม”

แนวคิดของ Change 2561 คือ “เปลี่ยนโลกไม่ได้...แต่เปลี่ยนวิธีคิดได้”

วางสถานะเป็นบริษัท คอนเทนต์ ครีเอเตอร์ มุมมองใหม่ ด้วยความตั้งใจอยากเปลี่ยนเพื่อสิ่งใหม่ เปลี่ยนความคิด เปลี่ยนทัศนคติ เปลี่ยนเพื่อสังคมที่ดีขึ้น เปลี่ยนเพื่อโลกใบเดิมที่ดีกว่า

ตอนนี้โปรดักต์ที่เห็นเป็นรูปธรรมอยู่บนแฟนเพจของเฟซบุ๊ก เป็นการนำเสนอคอนเทนต์บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย

“พอมีเวลาได้ทบทวนตัวเอง เราไม่ได้ดัดจริตเป็นคนดี แต่เราทำงานสุดท้ายต้องให้อะไรกับคนดู คนฟัง งานที่มีความสุขคือกรีนเวฟ คลับฟรายเดย์ พอเรามาขึ้นรูปงานใหม่หลายๆ อย่างก็มีอิทธิผลมาจากตรงนี้ เราคงมีความสุขกับการทำงานแบบนี้

ภาระหน้าที่ที่ผ่านมา เราทำยังไงให้ช่อง (จีเอ็มเอ็ม25) รอดยังไง มันเป็นภาระใหญ่หลวงมาก จนลืมความสุขของการทำงานคืออะไร

เรานั่งนิ่งๆ จะทำอะไรต่อ ทุกวันนี้คนรู้จักพี่อ้อยพี่ฉอด เราตอบปัญหาเรื่องความรัก ทุกวันนี้เราเดินไปไหนก็มีแต่คนอยากคุยกับเรา ไปกินข้าวข้างทางก็ยกเก้าอี้มาเล่าให้ฟัง เราก็ฟัง เรายอมไม่เป็นส่วนตัวเพราะคนเราคงถึงโหมดทุกข์ใจ ต้องการความช่วยเหลือ เราเลยใจร้ายไม่ลง

บางคนเล่าเสร็จก็ไป เรายังไม่ได้ตอบอะไรเลย คือเขาคงแค่อยากระบายแล้วก็สบายใจ เราเป็นผู้รับฟังให้เขาได้ เราก็ถามตัวเองทำไมไม่หงุดหงิด และเราก็ฟังทุกที จัดรายการก็ไม่เคยรู้สึกเบื่อหน่ายที่จะฟัง”

รับฟังปัญหาความรักมานับสิบๆ ปี สรุปปัญหาหลักๆ ได้ว่า นอกใจ เรื่องเพศที่สาม ไม่ได้รับการยอมรับ มีเพียงรายละเอียดที่แตกต่าง

“มีบางเคสที่เรารู้สึกไม่สบายใจ เราก็ตามต่อ ความรักแก้ยังไงล่ะ เขาไม่รักคือไม่รัก เราแก้ให้ไม่ได้ แต่ก็มีมุมอื่นๆ ให้เขาบ้าง”

ตอนนี้ผลิตภัณฑ์ของ Change 2561 ที่ทำออนไลน์มี “หนึ่งคำถามหนึ่งคำตอบ” เป็นคลิปวิดีโอสั้นๆ ประมาณ 2 นาที เกี่ยวกับความรัก โพสต์ลงในแฟนเพจ  

รายการ “พี่อ้อยพี่ฉอด ตัวต่อตัว” ต่อยอดจากคลับฟรายเดย์ทางคลื่นวิทยุที่ได้ยินแต่เสียง มานั่งคุยกันแบบเห็นหน้าค่าตา เน้นประชาชนทั่วๆ ไป  

“มีเคสหลั่งไหลมามหาศาล สิ่งแรกที่เขาได้คือเจอเรา เขาต้องการกอดเรา เติมเต็มกำลังใจ อย่างเคสแต่งงานมา 14 ปี แต่มารู้ว่าเขามีคนอื่นมาตลอด 15 ปี หรือเคสผู้หญิงคนหนึ่งตาเสีย อนาคตเขาคิดว่าตาจะบอดสนิท เขาอยากมีใครสักคนมาเป็นตาให้เขา ทุกคนที่มาตรงนี้สุดท้ายเขาได้เห็นคุณค่าของตัวเอง”

 “พี่อ้อยพี่ฉอดออนทัวร์” ไปตามโรงเรียนต่างๆ “เมื่อก่อนมีคนเชิญให้ไปเป็นวิทยากรเยอะแต่ไม่ค่อยได้ไป พี่อ้อยไปเยอะกว่า พอได้มาทำจะเจออีกประเภทหนึ่งของปัญหา ความรักในวัยเรียน ปัญหาท้องก่อนวัย เมื่อก่อนจะเป็นแบบอย่ามีความรักในวัยไม่เหมาะ แต่ตอนนี้เปลี่ยนมามีความรักแล้วทำยังไงให้รอด”

แม้จะเป็นผู้รับฟังปัญหาความรักมานาน แต่เธอไม่เคยคิดว่าตัวเองเป็นโค้ชชิ่งด้านความรัก “ความตั้งใจต่างกัน เราไม่ได้ตั้งใจสอน เรารู้สึกแบบพี่น้องกัน เราลืมไปด้วยซ้ำว่าเราจัดรายการอยู่ เราไม่กล้าคิด ตัดสินชีวิตใคร

ปัญหาความรักมันพูดง่ายไม่ใช่เรื่องของเรา เพราะเราไม่รักคนนั้นเท่ากับเขารัก ไม่เคยคิดว่าจะชี้นำใคร อย่างน้อยเป็นอารมณ์พี่น้องรับฟัง แล้วเราเห็นมุมอะไรที่เธอไม่เห็น มันเป็นแบบนี้ไหม

จะมีบางเคสที่รู้สึกว่า น้องควรต้องตัดสินใจซะทีหนึ่ง ความอดทนไม่ได้ช่วยอะไร วันนี้ทำไม่ได้ แต่วันหนึ่งก็ต้องรู้ควรทำอย่างไร เจ็บที่สุดหยุดได้เอง มันจะเสียเวลาชีวิตนะ เราแค่พยายามให้เขาเห็นอีกมุม สุดท้ายความรักจะเป็นยังไงเขาต้องเป็นคนตัดสินใจเอง”

ปัญหาความรักมีหลากหลายรูปแบบ จริงอยู่ที่ความรักเป็นเรื่องระหว่างคนสองคน แต่ถ้าหากมีคนที่สาม ที่สี่ สามารถช่วยคลี่คลายปัญหาหนักอก มาช่วยแบ่งเบากลัดหนองที่อยู่ในจิตใจได้ มาช่วยชี้ทางเดินแห่งรักที่จะครองคู่กันอย่างมีความสุขไปยาวนาน เรื่องรักๆ ก็จะไม่รกรบกวนชีวิตอีกต่อไป และความรักที่บังเกิดความสุขนั้นมีจริง...