posttoday

เส้นทางสร้างบำนาญให้ชีวิต

19 กรกฎาคม 2561

เราต่างทำงานเก็บเงินเลี้ยงดูครอบครัวและสร้างรากฐานให้ชีวิตยามเกษียณ แต่เส้นทางความสำเร็จของแต่ละคนนั้นแตกต่างกันออกไป

เรื่อง กั๊ตจัง ภาพ pixabay

เราต่างทำงานเก็บเงินเลี้ยงดูครอบครัวและสร้างรากฐานให้ชีวิตยามเกษียณ แต่เส้นทางความสำเร็จของแต่ละคนนั้นแตกต่างกันออกไป เรามาดูกันว่าแนวทางในการออมเงินเพื่อการเกษียณนั้นมีเส้นทางไหนบ้างที่ช่วยให้คุณไปถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้

1.ออมเงินเก็บในระยะเริ่มต้น

แม้หลายคนจะไม่เห็นด้วยกับวิธีนี้ เพราะดอกเบี้ยต่ำไม่สู้ค่าเงินเฟ้อ แต่ก็เป็นการเก็บเงินที่ง่าย มีความปลอดภัยในแง่ความเสี่ยงน้อย (หากไม่คิดเรื่องเงินเฟ้อ) และมีความคุ้นเคยมากที่สุด แต่คนที่เหมาะกับการเก็บเงินด้วยวิธีนี้ คือคนที่อยู่ในช่วงแรกของการทำงานหาเงิน

เงินเดือนเริ่มต้น 1.5 หมื่นบาท ใช้จ่ายอย่างประหยัดก็อาจจะเหลือเก็บเพียง 2,000-3,000 บาทเท่านั้น จะให้เอาเงินไปซื้อประกันสุขภาพ ลงกองทุนต่างๆ ก็เห็นทีจะยาก จึงเหมาะกับคนที่ยังมีเงินเดือนไม่มาก และต้องใช้เวลาในการเก็บเงินให้ถึงเป้าหมายที่ตั้งเอาไว้ก่อน ค่อยเปลี่ยนไปใช้วิธีเพิ่มมูลค่าเงินแบบอื่นที่ดีกว่า

เช่น คุณตั้งเป้าหมายจะต้องมีเงิน 20 ล้านบาท ก่อนอายุ 60 ปี ในช่วง 5 ปีแรกคุณเก็บเงินก้อนให้มากพอจะรับความเสี่ยงจากการตกงาน และค่าใช้จ่ายอื่นๆ อีก 6 เดือน ประมาณ 2-3 แสนบาท เงินเก็บส่วนเกินจากนี้ค่อยนำไปลงทุนด้านอื่น

ขณะที่บางสูตรก็ใช้วิธีทำควบคู่กันไป เช่น เก็บออมและลงทุนไปพร้อมๆ กัน แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน อยู่ที่นิสัยการใช้เงินและรูปแบบความชอบในการออมเงิน

2.ลงกองทุนแอลทีเอฟและอาร์เอ็มเอฟ

กองทุนแอลทีเอฟและอาร์เอ็มเอฟนี้ เป็นรูปแบบการลงทุนที่มีความเสี่ยงระดับปานกลางถึงสูง แต่ส่วนมากแล้วค่อนข้างเชื่อใจได้ในระดับหนึ่งว่าจะให้ผลตอบแทนที่ดี แม้บางปีจะไม่ได้ผลกำไร แต่เมื่อเฉลี่ยในระยะ 10 ปีแล้วก็ยังได้มากกว่าการเอาเงินไปฝากไว้ในธนาคารอย่างเดียว

ด้วยเพราะเริ่มแรกกองทุนแอลทีเอฟตั้งขึ้นเพื่อเพิ่มสัดส่วนนักลงทุนเข้าลงทุนในตลาดหุ้น โดยใช้สิทธิลดหย่อนภาษีเป็นเครื่องมือจูงใจ ส่วนกองทุนอาร์เอ็มเอฟจัดตั้งขึ้นมาเพื่อวัตถุประสงค์คือ เป็นหนึ่งในเครื่องมือเตรียมความพร้อมด้านการออมหลังเกษียณสำหรับคนไทย โดยใช้สิทธิลดหย่อนภาษีเป็นเครื่องมือจูงใจเช่นกัน

การจะเข้ามาใช้กองทุนนี้ต้องดูฐานภาษีของเราเป็นหลักว่าเราอยู่ในระดับไหน ถ้าอยู่ในระดับล่างการคืนภาษีนั้นจะได้ไม่สูงเมื่อเทียบกับเงินลงทุน (แต่ก็ยังได้คืน) ถ้าฐานภาษีของเราอยู่ในระดับสูง คุณมีความจำเป็นต้องใช้ทั้งสองกองทุนนี้เพื่อช่วยลดหย่อนภาษี

หมายความว่าเงินเดือนน้อยใช้กองทุนนี้ได้ แต่อย่าคาดหวังการคืนภาษีมากนัก คิดเสียว่าทำเพื่อออมเงินเพื่อการเกษียณและยังดีกว่าฝากเงินกับธนาคาร แต่ถ้าคุณมีฐานเงินเดือนสูงระดับแสนบาทจะได้รับสิทธิประโยชน์อย่างเต็มที่มากกว่า และยังได้เก็บเงินเพื่อการเกษียณอีกด้วย

3.ลงทุนธุรกิจส่วนตัว

เส้นทางนี้เป็นเส้นทางที่ตรงที่สุดหากคุณคิดจะมีบำนาญหลังเกษียณ แต่อันที่จริงจะเรียกว่าบำนาญก็คงไม่ตรงเสียทีเดียว เพราะคุณยังต้องทำงานอยู่แม้อายุจะมากกว่า 60-65 ปีไปแล้วก็ตาม แต่อย่างน้อยคุณก็ยังมีรายได้ที่สม่ำเสมอ ไม่ต้องเครียดเรื่องการเก็บเงิน เพราะคุณจะหารายได้มากพอเลี้ยงครอบครัว และยังส่งต่อธุรกิจให้กับลูกหลานได้อีกด้วย

หากจุดเริ่มต้นในการทำธุรกิจของเรานั้นต่างกัน บางคนเริ่มต้นได้ตั้งแต่เรียนจบใหม่ๆ เพราะทางบ้านมีฐานะสนับสนุนที่ดี บางคนมีภาระรับผิดชอบครอบครัวดูแลพ่อแม่ก็ไม่อยากเสี่ยงลงทุนทำธุรกิจตั้งแต่เริ่มแรก

กว่าจะตั้งตัวได้ก็อายุ 40 กว่าปี หรือมาเริ่มหลังเกษียณแล้ว ก็มีให้เห็นมากมาย อย่าได้รู้สึกผิดที่ยังไม่มีอะไรเป็นของตัวเอง พร้อมเมื่อไหร่ค่อยเริ่มเมื่อนั้น

สิ่งที่คนเริ่มธุรกิจมักจะพลาดมากที่สุดอย่างแรกก็คือล้มแล้วไม่ลุกเดินต่อปิดฉากความฝันของตัวเองคิดว่าทำไม่ได้ และอีกเหตุผลก็คือเริ่มสเกลใหญ่เกินไปโดยขาดประสบการณ์ บริษัทที่มั่นคงใหญ่โตทุกวันนี้ก็เริ่มจากธุรกิจเล็กๆ ด้วยกันทั้งสิ้น

สิ่งสำคัญที่สุดในการสร้างบำนาญของทุกคนก็คือความมีวินัยด้านการเงิน และรู้ว่าควรใช้จ่ายอย่างไรตรงจุดไหนเพื่อความมั่นคงด้านการเงินในอนาคตของคุณเอง