posttoday

กฤชวรรณ เจริญรักษ์ เมื่อประตูบานหนึ่งปิด ประตูอีกบานก็จะเปิดเสมอ

15 กรกฎาคม 2561

ชีวิตคนเรานั้นไม่มีอะไรแน่นอน เมื่อวานยังดี วันนี้เจอเรื่องเลวร้าย พรุ่งนี้อาจจะกลับมาดี

โดย อณุสรา ทองอุไร ภาพ วิศิษฐ์ แถมเงิน

ชีวิตคนเรานั้นไม่มีอะไรแน่นอน เมื่อวานยังดี วันนี้เจอเรื่องเลวร้าย พรุ่งนี้อาจจะกลับมาดี แต่ไม่เหมือนเดิมหรืออาจจะดีกว่าเดิม ขึ้นอยู่กับหลายเหตุปัจจัยที่ทำให้เราได้พบเจอ เช่นเดียวกับเธอคนนี้ หมอดูที่สวยและแซ่บเว่อร์ที่กำลังโลดแล่นในแวดวงหมอดูอยู่ตอนนี้ และคาดว่าจะเป็นหมอดูรุ่นใหม่มาแรง แซงโค้งเอาได้ง่ายๆ หมอดูเชอรี่-กฤชวรรณ เจริญรักษ์ ในวัย 38 ปี เธอยังหุ่นดูเป๊ะเว่อร์เลยทีเดียว

แต่ก่อนที่เธอจะมาถึงวันนี้ชีวิตก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ผ่านร้อนผ่านหนาวมาไม่น้อยเลย เธอเล่าย้อนอดีตให้ฟังว่า เธอเป็นชาวอยุธยา เกิดและโตที่นั่น จนจบปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา มีน้องชายอีกคน พ่อแม่แยกทางกัน เธอโตมาจากการเลี้ยงดูของคุณย่า ซึ่งให้ความรักความอบอุ่นกับเธออย่างมากมาย ชีวิตก็มีความสุขตามแบบเด็กต่างจังหวัด เรื่อยๆ สบายๆ ซึ่งเธอไม่เคยมาอยู่กรุงเทพฯ เลย

เรียนจบก็ทำงานที่อยุธยา เป็นประชาสัมพันธ์ให้กับห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งอยู่ 3-4 ปี แล้วก็ย้ายไปทำงานที่ฝ่ายการตลาดของบริษัทรถยนต์มิตซูบิชิอยู่ 2 ปี แล้วจึงย้ายไปทำงานที่ บริษัท ฮอนด้าคาร์ และที่บริษัทนี้เองที่เธอได้พบเจอกับอดีตสามีของเธอ เธอบอกว่าที่ผ่านมาตั้งแต่เล็กจนโตชีวิตเธอถือว่าราบรื่นดีตามอัตภาพของชนชั้นกลาง คุณย่าเลี้ยงดูอย่างดี ไม่ต้องลำบากลำบนอะไรมากนัก เรียกว่าชีวิตดีมาโดยตลอดเมื่อครั้งอยู่อยุธยา ตั้งแต่เด็กจนวัย 20 กว่า

เธอบอกว่าจนออกจากอยุธยาไปชีวิตก็เริ่มมีเรื่องยากๆ เข้ามาทดสอบอยู่หลายครั้ง เริ่มจากเจ็บป่วยจนต้องออกจากงาน หย่ากับสามี เธอย้อนอดีตให้ฟังว่าเธอได้พบเจอกับแฟนของเธอและกลายมาเป็นสามี และอดีตสามี หลังจากแต่งงานกันได้ 7-8 ปี และแยกทางกันในที่สุด เธอพบกับเขาที่อยุธยา จนกระทั่งแต่งงานก็ย้ายไปอยู่ที่สระบุรี โดยเธอย้ายไปทำงานที่บริษัทรถยนต์เช่นกัน

กฤชวรรณ เจริญรักษ์ เมื่อประตูบานหนึ่งปิด ประตูอีกบานก็จะเปิดเสมอ

“แฟนทำงานธนาคาร เราก็ทำงานบริษัทรถยนต์ แต่งงานใหม่ๆ ก็ดีมีความสุข สามีก็ใส่ใจดูแลดีมาก จนกระทั่งแต่งงานได้ 5-6 ปี เราเริ่มป่วยเป็นกระดูกสันหลังทับเส้นประสาท จากปวดเมื่อยหลังไหล่คอ มือชา เท้าชา ไม่มีแรง ปลายประสาทอักเสบ จนเป็นไข้ หนักขึ้นยืนเดินไม่ได้ ไปทำงานไม่ได้ หยุดงานเป็นเดือน จนต้องลาออกมารักษาตัว แฟนต้องอุ้มเข้าห้องน้ำ เขาก็ดี ดูแลช่วยเหลืออย่างดี ซึ่งต้องรักษาตัวอยู่ 6 เดือนค่อยดีขึ้น แต่ก็ยังไม่ปกติดี ยังต้องทำกายภาพ ฝังเข็มต่อเนื่องอีกเกือบปี ถึงจะเดินเหินได้เป็นปกติ ตอนนี้ก็ยังต้องฝังเข็มเป็นระยะๆ” เธอเล่าย้อนอดีตให้ฟัง

เธอเล่าต่อไปว่า ตอนที่เป็นแฟนก่อนแต่งงานกัน เธอได้ไปดูหมอดู หมอดูก็ทักว่ากับคนนี้จะอยู่กันได้แค่ 3 ปี ก็จะเลิก ซึ่งตอนนั้นฟังแล้วก็ตกใจพอสมควร แต่คิดว่าต่างคนก็รักกัน “เราพร้อมจะสร้างครอบครัวด้วยกัน เรารักกันมาก ช่างเถอะ เราจะพยายามทำให้ดีที่สุด ถ้าจะอยู่กันได้แค่ 3 ปี แต่เป็น 3 ปี ที่มีความสุขมากๆ เราก็เลือกที่จะได้อยู่ด้วยกัน แต่เราก็อยู่ด้วยกันนานถึง 8 ปี สุดท้ายก็ไปไม่รอด แต่ตอนที่ป่วยนี่เขาก็ยังดูแลเราอยู่นะคะ ไม่ได้เลิกกันตอนป่วย หายแล้วถึงเลิกกัน เมื่อเลิกกันแล้วเธอก็ไม่ได้ย้ายกลับมาอยู่อยุธยา แต่ไปซื้อบ้านใหม่และอยู่ที่สระบุรีต่อไป”

ตอนที่ลาออกจากงานมาอยู่บ้านเกือบ 6 เดือนนั้น เธอจึงเอาวิชาไพ่ยิปซีที่เคยเรียนสมัยวัยรุ่นมาฟื้นฟู เพราะสนใจเรื่องไพ่ยิปซีมาตั้งแต่วัยรุ่น ตอนเรียนจบทำงานใหม่ๆ ก็เคยเข้าไปเรียนกับอาจารย์ด้านไพ่ยิปซีที่ท่านเขียนหนังสือมาหลายเล่ม ตอนวัยรุ่นก็เคยดูให้เพื่อนๆ ญาติๆ ตอนนั้นเกือบทุกคนก็ชมว่าเข้าเค้าแม่นอยู่ แต่เธอทำงานประจำ ไม่ได้คิดว่าจะยึดป็นอาชีพ จึงไม่ได้ดูเป็นจริงเป็นจัง และไม่ได้คิดค่าครูแต่อย่างใด แต่เวลาที่ตัวเธอเองมีเรื่องไม่สบายใจ เธอก็จะจับไพ่ยิปซีหาคำตอบให้ตัวเองอยู่เสมอ

กระทั่งเมื่อป่วยหลายเดือนและเดินไม่ได้ ถึงขั้นต้องคลานเข้าห้องน้ำ ต้องนั่งอย่างเดียว เดิน ยืน ไม่ได้ เธอจึงคิดว่าถ้ายืนทำงานไม่ได้ก็ต้องหาอะไรที่นั่งทำงานได้ แล้วเธอก็ปิ๊งแวบถึงวิชาไพ่ยิปซีขึ้นมา แล้วก็นำมาทบทวนอีกครั้ง แล้วก็โทรหาเพื่อนฝูงคนรู้จักว่าเธอจะมารับดูดวงอย่างจริงจังแล้วนะ ก็เริ่มประกาศข่าวออกไป ในที่สุดเพียง 1 เดือนก็เริ่มมีเพื่อนฝูงมาดูแล้วก็บอกกันไปปากต่อปาก จนเกือบปีก็เริ่มมีคนมาดูที่บ้าน มีคนขอดูทางโทรศัพท์

กฤชวรรณ เจริญรักษ์ เมื่อประตูบานหนึ่งปิด ประตูอีกบานก็จะเปิดเสมอ

“จากวันนั้นจนถึงวันนี้เป็นเวลาเกือบ 7 ปีแล้วที่เชอรี่ยึดอาชีพนี้ และค่าครูของเชอรี่ก็ยังคงเสมอต้นเสมอปลายอยู่ที่ราคา 300 บาท คนมาดูส่วนใหญ่เขาทุกข์ เราไม่ได้หวังรวย พอมีอยู่มีกินก็พอแล้ว จึงไม่คิดว่าต้องเรียกค่าครูแพงๆ เอาพออยู่ได้ มีคนจองคิวทุกวันก็พอใจแล้ว ช่วยๆ กันไป” เธอกล่าวด้วยรอยยิ้ม

เธอบอกว่าหลังจากที่ชีวิตสั่นไหวโอนเอนสั่นคลอนมานานหลายปีตั้งแต่เริ่มป่วย จนถึงขั้นหย่าขาดกับสามีชีวิตล้มลุกคลุกคลานอยู่หลายปีจนตั้งหลักได้ใหม่กับอาชีพหมอดูไพ่ยิปซีนั้น ชีวิตเธอก็เริ่มเข้าที่เข้าทางอยู่ในเกณฑ์ดีมาโดยตลอด เรียกว่าในเนื้องานอาชีพนั้น มีความสะดวกราบรื่นจนอาจจะเรียกได้ว่าโรยด้วยกลีบกุหลาบกันเลยทีเดียว

นี่คงเป็นตัวอย่างชีวิตที่มันมีหลายบทหลายตอน มีขึ้น มีลง มีสุข มีทุกข์ เพียงแต่เราพยายามอดทนแล้วเราก็จะผ่านมันไปได้ รู้จักรอเวลา รู้จักให้อภัยตัวเอง รักตัวเอง หวังดีกับตัวเองให้มากๆ อย่าทำร้ายตัวเอง

“แน่นอนว่าเราเคยมีงาน เคยมีคนรัก ถ้าเขาไปเราก็แค่เสียคนที่ไม่ได้รักเราจริงไปก็แค่นั้น แต่เขาสิเสียคนที่รักเขาจริงไปหนึ่งคน ถ้าเขาทำร้ายเรา เราก็อย่าทำร้ายตัวเองซ้ำ ถ้าเราไม่รักตัวเองแล้วใครจะรักเราล่ะ เสียใจได้แต่อย่านาน ร้องไห้ให้พอ แล้วต้องสู้ ต้องเดินหน้าต่อ ทำตัวให้ดี ให้มีคุณค่า ให้สวย ให้สดใส ให้เขาเสียดายที่ทิ้งเราไป (หัวเราะ) นี่ก็บอกถึงผู้หญิงที่อกหักที่ถูกทิ้งขว้าง บางทีความรักมันก็มีวันหมดอายุ เหมือนยาที่ฝืนจะกินต่อมันจะเป็นอันตรายกับเราได้กลายเป็นยาพิษ จากประสบการณ์ชีวิตคู่ที่เราเคยผ่านมาทำให้เหมือนเราสื่อสารเรื่องความรักได้ดี เข้าใจความรักได้เข้าถึงยิ่งขึ้น เพราะเราก็ทั้งสุขทั้งทุกข์ เจอมาแล้วครบทุกรส ลูกค้าหลายคนที่มาดูหมอจะบอกว่าเราแม่นเรื่องความรัก”

กฤชวรรณ เจริญรักษ์ เมื่อประตูบานหนึ่งปิด ประตูอีกบานก็จะเปิดเสมอ

เวลาเจอลูกค้าที่มาถามปัญหาหัวใจเธอจะให้กำลังใจ ให้เขาสู้ต่อเดี๋ยวมันก็จะผ่านไป บางคนคิดมาก เครียดจนอยากทำร้ายตัวเอง เธอต้องรีบไปห้าม ไปช่วยให้กำลังใจ อย่าให้เขาคิดทำลายตัวเอง เคยมีลูกค้าโทรมาเล่า ร้องไห้ไปเล่าไป เตรียมจะฆ่าตัวตาย เธอก็ต้องพยายามกล่อมปลอบใจจนเขารู้สึกดีขึ้น แล้วเธอก็ขับรถไปเยี่ยมถึงบ้าน ส่งกำลังใจและกอดแน่นๆ จนลูกค้าเริ่มคลายความเครียดลง

แน่นอนว่าชีวิตคนเราทุกคนนั้น มันมีสุขมีทุกข์ปะปนกันไป ไม่มีใครดีมีความสุขตลอดเวลา หรือใครที่ตกต่ำตรอมตรมตลอดเวลา ชีวิตก็เหมือนสายน้ำ มีขึ้นมีลง มีน้ำขุ่นน้ำใส เหมือนเหรียญสองด้าน อยู่ที่เราจะเจอด้านไหนก่อน ที่เราทุกคนควรทำก็คือประคองสถานการณ์เอาไว้ไม่ให้เลวร้ายไปกว่าที่เป็นอยู่เมื่อเจอความทุกข์ รู้จักรอจังหวะเวลา ซึ่งไม่นานมันก็จะผ่านไปได้ในที่สุด

ขอแค่รอให้เป็น อดทน อดกลั้น มองโลกในแง่ดีเข้าไว้ ทุกอย่างเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ไม่มีอะไรจีรังยั่งยืน เมื่อประตูบานหนึ่งปิด ประตูอีกบานหนึ่งก็จะเปิดเสมอ ยังไงชีวิตก็ไม่มีทางตันจนหาทางออกไม่ได้ ตอนนี้เธอเป็นหมอดูประจำรายการ Horo Hiso และมีงาน
อีเวนต์หลายอย่าง

กฤชวรรณ เจริญรักษ์ เมื่อประตูบานหนึ่งปิด ประตูอีกบานก็จะเปิดเสมอ

“เชอรี่อยากให้กำลังใจทุกคนว่าไม่ว่าใครก็ตามมักจะมีช่วงเวลาแห่งความเลวร้ายเกิดขึ้นได้เสมอ เพียงแต่ว่าเรารับมือมันได้มากน้อยแค่ไหน เมื่อเวลานั้นมาถึงพยายามตั้งสติให้ดี ตั้งรับแล้วสู้กับมัน ไม่หนีปัญหา อีกไม่นานมันก็จะคลี่คลาย ทุกปัญหามีทางออกเสมอ แต่อาจจะต้องใช้เวลามากน้อยแตกต่างกันไป ขอเพียงมีสติตั้งรับค่อยๆ แก้ปัญหาไปทีละข้อ เดี๋ยวมันก็จะดีขึ้นเอง เชอรี่เองก็เจอมาแล้วหลายเรื่อง และผ่านมันมาได้ทุกเรื่อง ไม่ใช่ว่าเก่ง เพียงแต่ลุกขึ้นสู้และอดทนรอเวลานั่นเอง ต้องสู้ค่ะ จึงจะชนะ เมื่อผ่านมาได้เราก็จะแกร่งขึ้น ยิ้มรับกับปัญหาได้ดีขึ้น” เธอกล่าวทิ้งท้ายอย่างให้กำลังใจ