posttoday

เคล็ดลับรู้ไว้ ห่างไกลโรค

21 มิถุนายน 2561

ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐและจะดียิ่งขึ้นไปอีกถ้าคุณดูแลสุขภาพตัวเองให้แข็งแรงอยู่เสมอ

เรื่อง ภาดนุ ภาพ รอยเตอร์ส

ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐและจะดียิ่งขึ้นไปอีกถ้าคุณดูแลสุขภาพตัวเองให้แข็งแรงอยู่เสมอ ยิ่งถ้ารู้เคล็ดลับในเรื่องการดูแลสุขภาพ ทั้งจากการกิน การออกกำลังกาย และอื่นๆ ร่วมด้วยแล้ว เชื่อได้เลยว่าจะช่วยให้คุณมีสุขภาพที่ดีและห่างไกลจากโรคภัยต่างๆ อย่างแน่นอน

1.ของดีจากก้นครัว

รู้มั้ยว่านักวิทยาศาสตร์ได้มาเคาะประตูห้องครัวของพวกเราเป็นเวลาหลายปีแล้ว เพื่อหาหนทางให้เราพ้นจากโรคภัยไข้เจ็บ เช่น มีการใช้แคปไซซิน ซึ่งเป็นสารเคมีที่สำคัญในพริกมาเป็นส่วนประกอบในครีมเพื่อบรรเทาอาการข้ออักเสบ หรือการค้นพบว่าเมื่อกินกระเทียมปริมาณมาก ร่างกายจะได้รับสารอัลลิซินที่มีสรรพคุณลดระดับคอเลสเตอรอลและความดันโลหิตได้และเครื่องเทศอีกชนิดหนึ่งจากห้องครัว ที่เป็นผู้ช่วยให้เรามีสุขภาพดีได้ก็คือ ขมิ้น สมุนไพรที่ทำให้น้ำแกงมีสีเหลือง

- ขมิ้นอาจช่วยป้องกันการเกิดโรคอัลไซเมอร์ได้ เพราะขมิ้นจะกระตุ้นการผลิตโปรตีนที่ช่วยต่อต้านการทำลายของอนุมูลอิสระในสมอง

- ขมิ้นอาจช่วยรักษามะเร็งผิวหนัง นักวิจัยจากศูนย์มะเร็งเอ็มดีแอนเดอร์สันแห่งมหาวิทยาลัยเทกซัส ได้ลองใช้ขมิ้นในการรักษาเซลล์เมลาโนมาที่มาจากการเพาะเลี้ยง พบว่า ช่วยลดจำนวนเซลล์เนื้องอกที่มีชีวิต และชักนำให้เซลล์ในเนื้องอกตายได้

- ขมิ้นหยุดยั้งการแพร่กระจายของมะเร็งเต้านม จากการศึกษาของมหาวิทยาลัยเทกซัส พบว่า ขมิ้นหยุดการแพร่กระจายของมะเร็งเต้านมในหนูทดลองได้

2.เบอร์รี่ ยิ่งกิน ยิ่งฉลาด

ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่สามารถชะลอและฟื้นฟูโรคที่เกิดจากความเสื่อมต่างๆ อันเป็นผลมาจากความเสื่อมของสมอง ลูกบลูเบอร์รี่ แบล็กเบอร์รี่ สตรอเบอร์รี่ และราสพ์เบอร์รี่ มีค่าความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระหรือค่าโอแร็ก (Oxygen Radical Absorbance Capacity : ORAC) ในปริมาณสูงจึงสามารถต้านการทำลายของอนุมูลอิสระ ซึ่งทำอันตรายต่อเส้นเลือดจนเป็นเหตุให้ระบบความจำและความคิดทำงานเสื่อมประสิทธิภาพลง

บลูเบอร์รี่จัดเป็นหนึ่งในอาหารที่ช่วยดูแลสมองที่ดีที่สุด นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยแห่งชาติออโตโนมา ประเทศเม็กซิโก พบว่า หนูที่เลี้ยงด้วยอาหารที่อุดมไปด้วยบลูเบอร์รี่จะมีโปรตีน NF-Kappa B ในปริมาณต่ำ โปรตีนชนิดนี้มีผลเกี่ยวข้องกับความเสื่อมของสมอง หากมีในระดับสูงจะส่งผลให้ความจำแย่ลง

การศึกษาในสัตว์อื่น พบว่า การบริโภคบลูเบอร์รี่ช่วยลดการสูญเสียเซลล์สมองและฟื้นฟูการเคลื่อนไหวหลังจากเป็นอัมพาต การศึกษาหนึ่งซึ่งทำโดยนักวิจัยจากสถาบันผู้สูงอายุแห่งชาติสหรัฐ พบว่า บลูเบอร์รี่ช่วยฟื้นฟูการทำงานของระบบต่างๆ ที่สูญเสียไปเพราะสมองได้รับบาดเจ็บ ในอนาคตอาจมีการศึกษาที่ก้าวหน้ามากขึ้น และให้ผลอย่างมีนัยสำคัญว่า การกินผลเบอร์รี่ช่วยต้านความชราของสมอง โรคอัลไซเมอร์ และความผิดปกติของระบบประสาท

3.เส้นใยอาหารช่วยล้างพิษ

การใช้ชีวิตสมัยใหม่ที่นิยมบริโภคอาหารจานด่วน และมีความเครียดจากการทำงานและชีวิตส่วนตัว ทำให้คนส่วนใหญ่กลายเป็นมนุษย์สารพิษท็อกซีเมีย (Toxemia) เป็นศัพท์ทางการแพทย์ที่มีคำกำจัดความถึงภาวะที่ร่างกายมีสารพิษสะสมถึงระดับเกินขีดความสามารถที่จะกำจัดออกไปได้ ซึ่งภาวะอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับภาวะท็อกซีเมีย ได้แก่

- ไวรัสตับอักเสบ เอ บี ซี ดี อี เอฟ และจี

- ตับถูกทำลาย รวมถึงภาวะตับแข็ง

- ท้องร่วง ท้องผูก โรคลำไส้แปรปรวน และภาวะลำไส้รั่ว

วิธีการหนึ่งที่จะช่วยล้างพิษในร่างกายก็คือ การบริโภคอาหารที่มีเส้นใยมากขึ้นในแต่ละมื้อ เพราะเส้นใยอาหารที่เรากินเข้าไปจะไปช่วยในกระบวนการย่อยอาหาร แล้วยังช่วยขจัดของเสียและสารพิษออกจากร่างกายด้วย

4.ตากแดดบำรุงกระดูก

ในช่วงเช้าของวัน ลองดึงแขนเสื้อขึ้น แล้วออกไปตากแดดวันละ 5-15 นาที เพราะร่างกายของเราจำเป็นต้องได้รับแสงแดดเพื่อผลิตวิตามินดี ซึ่งจะช่วยเพิ่มการดูดซึมแคลเซียมจากลำไส้เล็ก และเพิ่มการใช้แคลเซียมและฟอสฟอรัสในร่างกาย ดังนั้น แสงแดดจึงมีส่วนในการรักษาความแข็งแรงของกระดูก ส่วนผิวหนังบริเวณอื่นให้สวมเสื้อผ้าหรือทาครีมกันแดดที่มีค่าเอสพีเอฟ 15 หรือมากกว่าเพื่อปกป้องผิว และจำกัดเวลาเผยผิวส่วนที่ไม่มีการปกป้องไว้เพียง 15 นาที

ช่วงเวลาในการอาบแดดเพื่อให้มีสุขภาพที่ดีก็คือ ช่วงเช้าและช่วงเย็นเท่านั้น ส่วนช่วงเวลา 10 โมงเช้าไปจนถึงบ่าย 3 โมงเป็นช่วงที่แดดแรงเกินไป จึงไม่ควรออกไปนอกอาคาร แต่หากจำเป็นควรใส่เสื้อผ้าให้มิดชิด หรือมีเครื่องป้องกันสายตาและผิวหนัง เช่น สวมแว่นกันแดด สวมหมวก หรือกางร่มก็ได้