posttoday

ดวงใจในไฟหนาว การเงิน ความรัก ชีวิต

13 พฤษภาคม 2561

“บ๊วย-นันทวรรณ รุ่งวงศ์พาณิชย์” ฝากผลงานในบทบาทนักเขียนบทละครโทรทัศน์มาหลายเรื่อง

โดย มัลลิกา /จุฑามาศ นิจประพันธ์ ภาพ ทวีชัย ธวัชประกรณ์

“บ๊วย-นันทวรรณ รุ่งวงศ์พาณิชย์” ฝากผลงานในบทบาทนักเขียนบทละครโทรทัศน์มาหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น ปดิวรัดา บ่วง หัวใจช็อกโกแลต คลื่นรักสีคราม เล่ห์รตี ทวิภพ ทาสรัก สวรรค์สร้าง เพลงรักข้ามภพ สู่แสงตะวัน อธิษฐานรัก ดั่งดวงตะวัน เพียงผืนฟ้า กลิ่นแก้วกลางใจ เปลวไฟในฝัน ฯลฯ

บางเรื่องคิดพล็อตเอง และบางเรื่องก็ต่อยอดมาเป็นหนังสือ อย่างผลงานล่าสุด “ดวงใจในไฟหนาว” พิมพ์กับสำนักพิมพ์ พิมพ์คำ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนละครรอคิวออกอากาศทางช่อง 3

“งานหลักคือบทโทรทัศน์ เราจะเสนอพล็อตสั้นๆ ให้ช่องอยู่เสมอ แต่ในกรณีดวงใจในไฟหนาว พี่คิง-สมจริง ศรีสุภาพ ผู้จัดละครเคยทำงานเรื่องปดิวรัดาด้วยกัน พี่คิงเลยชวนว่าบ๊วยทำพล็อตบ่อย ทำให้พี่บ้าง พี่อยากเห็นเจมส์ มาร์เล่น อยากเห็นคนที่มีเป้าหมายของการแก้แค้น หรือมีเป้าหมายบางอย่างของการที่จะเข้ามาตามหาครอบครัว เราได้โจทย์มาแค่นี้”

ใช้เวลาร่วม 2 ปีในการเก็บข้อมูล โดยความใหม่และยากของพล็อตดวงใจในไฟหนาว คือเรื่องการเงิน เธอเอาตัวเองลงไปคลุกคลีกับเรื่องตัวเลขที่ไม่ค่อยถนัด ซึ่งเป็นการท้าทายอย่างหนึ่ง

“จริงๆ สนใจในเรื่องของการเงิน มีความรู้สึกว่ามนุษย์เรามีพื้นฐานที่ควรจะรู้2 เรื่อง คือเรื่องของคน ว่าคนเป็นอย่างไรจะได้ใช้ชีวิตกับคน อีกเรื่องคือเรื่องของการเงิน มันเป็นเรื่องส่วนตัวเรามากๆ ที่จริงเราไม่ค่อยเปิดเผยกับใครและไม่ค่อยหาความรู้ แต่โดยสถิติคนไทยมีปัญหาเรื่องการเงินเยอะมาก ยอดหนี้ครอบครัวก็สูง และตัวเราเข้าสูงสังคมผู้สูงอายุ แต่เราไม่เคยมีความรู้ว่าเราควรจะเตรียมตัวด้านการเงินอย่างไร

ก็คุยกับพี่คิงว่ามันหนักไปไหมแต่เราชอบ จริงๆ เป็นเด็กสายศิลป์ที่เรียนเลขไม่เก่ง แต่มีอยู่ช่วงชีวิตหนึ่งเรารู้สึกว่าเราขาดความรู้ เราท้าทายตัวเองในสิ่งที่เราไม่เก่ง ซึ่งจริงๆ มันไม่ใช่เรื่องใหญ่เลย มันแค่เก็บเงินให้มันเป็นระบบ รู้จักการออม

ตอนนั้นเล่าให้พี่คิงฟัง พี่คิงก็บอกว่าก็น่าสนใจไม่น่าจะหนักเกินไป เพราะฉะนั้นตัวฉบับละครเราจะเห็นตรงนี้เยอะ แต่ตัวฉบับนิยายเราจะเห็นเป็นเส้นรักและก็รู้ว่าอาชีพของเยี่ยมยุทธ (พระเอก) เป็นอาชีพที่มีความสามารถสูงด้านการเงิน เขาสามารถให้คำปรึกษาการเงินกับคนได้”

ละคร หรือ นวนิยาย จำเป็นต้องสะท้อนภาพสังคม วรรณกรรมมียุคสมัยของมันอย่างยุค 2500 เป็นเพ้อฝัน แต่ตรงนั้นเป็นยุคทอง เป็นยุควิพากษ์สังคมด้วย อย่างงานโบตั๋น เรื่องลำยอง ก็วิพากษ์สังคม ณ ขณะนั้นๆ ทองเนื้อเก้า หรืออย่างสุดแค้นแสนรัก ก็พูดถึงสังคม ณ ขณะนั้นของผู้เขียน วรรณกรรมจะมีการบอกถึงสังคมที่เป็นอยู่ตอนนั้น

ความต่างระหว่างเนื้อเรื่องที่ถูกสื่อออกมาในแบบฉบับละครและนวนิยาย “ละครเราจะเห็นอาชีพของเยี่ยมยุทธ์ได้อย่างชัดเจน ในหนังสือไม่ค่อยเห็น จะบรรยายเป็นภาพรวมเสียมากกว่า แม้กระทั่งการแต่งตัวว่าคนนี้เป็นคนจนหรือคนรวย ในภาพของละครมันเล่าเรื่องได้พันกว่าความหมาย แต่ในนิยายมันทำไม่ได้ เพราะเงื่อนไขการมีพื้นที่จำกัดของหนังสือ

เราก็เปลี่ยนบรรยายเป็นไดอะล็อก รวมไปถึงการตัดตัวละครออกเล็กๆ น้อยๆ จริงๆ แล้วในสตอรี่ของละครมีทั้งพ่อแม่พระเอกนางเอก ในนิยายเขาก็จะเบาลง ไม่เห็นสตอรี่ตรงนี้ ฉากเล็กๆ น้อยๆ ในทีวีก็อาจจะไม่เห็น มันก็จะแตกต่างกัน แต่ทั้งสองฉบับเราเอาคอนเทนต์หลักของเรื่องไว้

คุณค่าความสนุกของพระนางยังคงอยู่ ยังได้อารมณ์เหมือนเดิม ถ้าเราอ่านนิยายเราจะได้อรรถรสอีกอย่างหนึ่งคือเราจะได้เห็นมุมมองความคิดของเยี่ยมยุทธได้มากขึ้นเพราะเกิดจากตัวหนังสือที่เพิ่มจินตนาการ แต่ความสนุกและการดำเนินเรื่องของทั้งละครและฉบับที่เป็นนิยายก็ยังสนุกและน่าติดตามเหมือนเดิม”

อาชีพของตัวละครก็สำคัญ “ในยุคสมัยใหม่จำเป็นมาก ที่จะต้องจับต้องได้ เราเรียกว่า ยุคสมัยใหม่มันเข้าสู่งานวรรณกรรมที่มีการอิงความจริง เช่นไม่ใช่ลอยไปลอยมาแบบอดีต จริงๆ แล้วมีคำพูดว่า ละครหรือนวนิยาย ถ้าเราไปแตะอาชีพอะไรแล้วไปแตะด้านลบ เราจะโดนวิพากษ์วิจารณ์ แต่จริงๆ แล้วมันมีแง่มุม อย่างเช่น เราไปแตะด้านบวก ให้พระเอกเป็นคนเก่งสิ่งใดสิ่งหนึ่งชัดเจน ทำให้ตัวละครดูดีขึ้น ดูมิติสูงขึ้น ซึ่งคนรุ่นใหม่ชอบ เพราะฉะนั้นในช่วงหลัง ช่อง 3 เราจะเห็นตัวละครมีอาชีพที่ชัดเจนขึ้นมาก ค่อนข้างเห็นเด่นชัดเลย

คนดูรู้สึกแตะต้องได้จริง และจริงๆ ชีวิตสังคมเปลี่ยนไปเยอะแล้ว อย่างดวงใจในไฟหนาว เราพูดถึงคำว่า ฟินเทค มีการนำเสนอธนาคารถูกกระทบกระเทือน ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในองค์กรภายใน เราจะเห็นว่าตัวเยี่ยมยุทธได้เข้าไปช่วยจัดการบางอย่างที่เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงธนาคาร”

ตัวละครในดวงใจในไฟหนาวมีทั้งดีและไม่ดี เป็นตัวละครที่เป็นปุถุชนทั่วๆ ไปในสังคมปัจจุบัน นอกจากความบันเทิงยังมีสาระที่แทรกอยู่ให้ผู้อ่านผู้ชมได้เก็บเกี่ยว อ่านหนังสือแล้วดูละครเพิ่มอรรถรสและมุมมองต่อความเข้าใจต่อการ กระทำของทุกตัวละคร