posttoday

สังคะชา สยาดอ

07 พฤษภาคม 2561

เมืองเมียนมามีหนังสือภาษาอังกฤษมากมายเกี่ยวกับวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของเขา

โดย...กรกิจ ดิษฐาน

เมืองเมียนมามีหนังสือภาษาอังกฤษมากมายเกี่ยวกับวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของเขา เมื่อคราวที่ผมไปเมียนมาเมื่อปลายปีที่แล้วยังหอบกลับมาตั้งหลายเล่ม อดคิดถึงเมืองไทยไม่ได้ เพราะบ้านเรามีหนังสือโปรโมทวัฒนธรรมไทยในภาษาต่างชาติน้อยมาก ที่มีอยู่ก็ไม่ได้ลึกซึ้งอะไร

ในบรรดาหนังสือที่น่าสนใจ มีเล่มหนึ่งที่แพร่หลายมานานหลายปี คือ Burmese Monk’s Tales ของ Maung Htin Aung ผมเห็นว่าน่าสนใจจะขอเล่าเนื้อหาสักเรื่องสองเรื่องแบบคร่าวๆ โดยเฉพาะเรื่องสังคะชา สยาดอ พระเถระผู้มีเชาว์ปัญญาเฉียบแหลม

สังคะชา สยาดอ เป็นพระเถระรูปสำคัญของเมียนมายุคราชวงศ์ต่อยุคอาณานิคม ท่านเกิดที่แถบเมืองอมรปุระสมัยพระเจ้าปดุง แห่งราชวงศ์อลองพญา เป็นที่โปรดปรานในสมัยพระเจ้ามินดง เพราะความหลักแหลมของท่านในการวิสัชนาปัญหาต่างๆ ท่านสังคะชา สยาดอ เป็นพระสายปริยัติ ในนิกายสุธัมมะ แต่ก็ปฏิวัติธุดงค์กรรมฐานเป็นประจำ จึงมักไม่จำพรรษาเป็นหลักแหล่ง มีโยมศรัทธาสร้างวัดถวายก็จำอยู่แค่ 2-3 พรรษาก็สั่งให้ศิษย์ครองวัดแทนแล้วท่านก็จรไป ท่านเป็นผู้เคร่งครัดในพระวินัยอย่างมาก ยังรจนาปกรณ์ว่าด้วยพระวินัย และถวายคำชี้แนะพระเจ้ามินดงเรื่องการปฏิรูปพระศาสนาอยู่บ่อยครั้ง สังคะชา สยาดอ มรณภาพในปี 1886 หรือ 9 เดือนหลังจากอังกฤษผนวกเมียนมาเป็นอาณานิคมทั้งประเทศ

ในสมัยที่เมียนมายังมีกษัตริย์ ครั้งหนึ่งพระเจ้ามินดงนิมนต์พระภิกษุมารับภัตตาหารที่วังหลวง เสร็จแล้วพระสงฆ์เจริญพระปริตรถวาย แต่วันนั้นพระเจ้าแผ่นดินไม่สบพระทัยนัก จึงเหน็บเจ้ากูว่า “พระปริตรของพระคุณเจ้าไม่เห็นจะขลัง สมัยพระเจ้าอโศกนิมนต์พระคุณเจ้ามาสวดพุทธมนต์ ปรากฏว่าศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก แม้แต่น้ำดื่มในคนโทเบื้องหน้าก็ยังเดือดพล่าน แต่นี่กระไรน้ำในคนโทพระคุณเจ้ายังเย็นเยียบเงียบสนิท”

พระคุณเจ้าได้ยินเจ้าแผ่นดินเหน็บเข้าก็พากันเงียบ มีแต่ท่านสังคะชา สยาดอ โพล่งขึ้นมาว่า “พระเจ้าศรีธรรมาโศกราชทรงมีมหิทธานุภาพ ปกครองทั้งผู้คนและเหล่านาค สามารถโองการให้พญานาคราชมาเข้าเฝ้าได้ แต่มหาบพิตรนั้นแม้แต่งูเขียวก็ยังสั่งไม่ได้” พระเจ้ามินดงทรงได้ยินคำตอบก็สบพระทัยนัก ถึงกับปรบพระหัตถ์แล้วทรงพระสรวลลั่น ตรัสขอขมาคณะสงฆ์ที่ทรงล่วงเกิน

คราวต่อมาพระเจ้ามินดงมีพระอารมณ์แช่มชื่น คิดอยากจะหยอกพระคุณเจ้า จึงตรัสว่า “ที่พระราชฐานฝ่ายขวาเป็นเขตชั้นใน เป็นที่ประทับของพระมเหสีเหล่าสนมกำนัล มีแต่พระองค์ที่เข้าไปได้ ส่วนพระคุณเจ้านั้นเล่าก็เป็นบุรุษตัดเสียซึ่งกามราคะมานาน ฉะนั้นหลังจากรับบาตรแล้วขอนิมนต์พระคุณเจ้าเข้าไปฝ่ายในเสียหน่อยจะเป็นไร”

บรรดาเจ้ากูได้ยินพระเจ้าแผ่นดินหยอกก็พากันเงียบ พระเจ้ามินดงได้ทีจึงหยอกหนักขึ้นว่า “สงสัยว่าพระคุณเจ้าจะตัดกามราคะไม่ได้เสียกระมัง จึงไม่กล้าเข้าไปยังฝ่ายใน”

แต่ท่านสังคะชา สยาดอ ช่วยกู้หน้าบรรดาสมภาร ตอบว่า “ที่เบื้องตะวันออกของพระนครมีทิวเขาป่าเขียวสดกับธารน้ำตกบรรยากาศร่มรื่น แต่คนไม่ใคร่ไปที่นั่นเพรากลัวไข้ป่าเช่นกัน พระราชฐานฝ่ายในบรรยากาศร่มรื่นเย็นสบาย แต่อาตมาภาพทั้งหลายไม่ขอเข้าไปเพราะกลัวจะอาพาธด้วยโรคชาววัง” พระเจ้ามินดงได้สดับก็สบพระทัย มีพระสรวลเสียดังลั่น

ปิดท้ายด้วยเรื่องของสังคะชา สยาดอ กับชาวบ้านบ้าง

เมื่อท่านจำพรรษาที่ย่างกุ้ง สังคะชา สยาดอ ได้ยินโยมคุยกันเรื่องเครื่องรางของขลัง คนหนึ่งอวดว่ารู้จักนักมวยชื่อดังชกทีไรก็ไม่เคยมีแผลแตกเพราะมีของดี อีกคนก็โวว่ารู้จักทหารคนหนึ่งไม่เคยบาดเจ็บจากการรบเพราะสักยันต์ขลังๆ ไว้ ทำให้คงกระพันชาตรี

พระเถระได้ยินก็กล่าวว่า “โยมช่วยหาอาจารย์ขลังๆ ให้อาตมาสักหน่อย เอาคนที่ช่วยป้องกันไม่ให้ถูกเบียดเบียน ลำเอียงด้วยอคติ นินทาว่าร้าย หรือถูกใส่ไคล้ได้นะ”

ช่างคมคายและเปี่ยมไปด้วยหลักธรรมลึกซึ้งเสียจริง