posttoday

รู้จักวายร้ายที่ชื่อ‘บุหรี่’เสียใหม่

01 พฤษภาคม 2561

ใครๆ ก็รู้ว่าการสูบบุหรี่นั้นเป็นอันตรายต่อสุขภาพ แต่สิ่งที่หลายคนยังไม่รู้

โดย พุสดี สิริวัชระเมตตา ภาพ คลังภาพโพสต์ทูเดย์, เอเอฟพี

ใครๆ ก็รู้ว่าการสูบบุหรี่นั้นเป็นอันตรายต่อสุขภาพ แต่สิ่งที่หลายคนยังไม่รู้ คือ พิษภัยของบุหรี่ที่เป็นต้นเหตุของโรคร้าย ซึ่งนำไปสู่การเสียชีวิตนั้น ไม่ได้มีแค่สารนิโคติน ที่มีอานุภาพทำลายอวัยวะต่างๆ ของผู้สูบบุหรี่ แต่แท้จริงแล้วในบุหรี่ยังมีวายร้ายอีกหลายตัวที่ทำงานเป็นขบวนการในการก่อให้เกิดโรคมะเร็งปอด โรคหัวใจ โรคถุงลมโป่งพอง ฯลฯ  

เนื่องจากในกระบวนการเผาไหม้ของบุหรี่ก่อให้เกิดสารมากกว่า 7,000 ชนิด ในจำนวนนี้มีสารหลายร้อยชนิดมีผลต่อการทำงานของอวัยวะต่างๆ ในร่างกาย และมีสารกว่า 70 ชนิดที่เป็นสารก่อมะเร็ง เพราะฉะนั้น “นิโคติน” ที่หลายคนเคยตีตราว่าตัวร้ายในบุหรี่จึงไม่ใช่ความเข้าใจที่ถูกต้องนั้น เพราะอานุภาพของนิโคตินเป็นเพียงสารที่ทำให้เสพติด และทำให้อยากสูบบุหรี่ตลอดเวลา ขณะสารที่ทำร้ายร่างกายที่แท้จริง ประกอบด้วย ทาร์, คาร์บอนมอนอกไซด์, ไฮโดรเจนออกไซด์, ไนโตรเจนออกไซด์, แอมโมเนีย, ไซยาไนด์, ฟอร์มาล์ดีไฮด์ และสารปรุงแต่งอีกจำนวนมาก

สารอันตรายต่างๆ ที่เกิดจากการสูบบุหรี่และส่งผลต่อการเสื่อมโทรมของอวัยวะต่างๆ อย่าง ทาร์ (Tar) หรือน้ำมันดิน ประกอบด้วยสารหลายชนิด มีลักษณะเป็นละอองเหลวเหนียวสีน้ำตาล ทาร์จะจับอยู่ที่ปอด ทำให้เยื่อบุหลอดลมไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ตามปกติ คาร์บอนมอนอกไซด์ (Carbon monoxide) เป็นก๊าซชนิดเดียวกันที่พ่นออกจากท่อไอเสียรถยนต์ ก๊าซนี้จะขัดขวางการลำเลียงออกซิเจนของเม็ดเลือดแดง

ไฮโดรเจนไดออกไซด์ (Hydrogen dioxide) เป็นก๊าซพิษที่ใช้ในสงคราม ก่อให้เกิดอาการไอ มีเสมหะ และหลอดลมอักเสบเรื้อรัง ไนโตรเจนไดออกไซด์ (Nitrogen dioxide) เป็นสาเหตุของโรคถุงลมโป่งพอง เพราะไปทำลายเยื่อบุหลอดลมส่วนปลายและถุงลม แอมโมเนีย (Ammonia) มีฤทธิ์ระคายเคืองเนื้อเยื่อ ทำให้แสบตา แสบจมูก หลอดลมอักเสบ ใช้ในขบวนการผลิตเพื่อให้นิโคตินถูกดูดซึมผ่านปอดเร็วขึ้น ไซยาไนด์ (Cyanide) ปกติเป็นสารที่ใช้ผลิตยาเบื่อหนู และก็พบในบุหรี่เช่นเดียวกัน และฟอร์มาล์ดีไฮด์ (Formaldehyde) เป็นสารที่ใช้ดองศพเพื่อไม่ให้เน่าเปื่อย และถูกนำมาใช้ในการผลิตบุหรี่ด้วย

รู้จักวายร้ายที่ชื่อ‘บุหรี่’เสียใหม่

สารอันตรายที่กล่าวมาสามารถก่อให้เกิดภัยเสี่ยงมากมายต่อผู้สูบเอง เช่น เสี่ยงตาบอดถาวร เสี่ยงมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ เสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด เสี่ยงโรคระบบทางเดินอาหาร เสี่ยงหลอดเลือดสมองตีบ เสี่ยงถุงลมโป่งพอง เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ เสี่ยงแท้งลูก หรือต่อผู้คนรอบข้าง เช่น เสี่ยงโรคหอบหืด ทำลายสุขภาพทารกในครรภ์ เสี่ยงเป็นโรคมะเร็งปอดได้ถึง 2 เท่า ทำให้เด็กมีพัฒนาการทางสมองช้ากว่าปกติ ฯลฯ

รศ.นพ.ฉันชาย สิทธิพันธุ์ รองคณบดีฝ่ายวางแผนและพัฒนา คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า จริงๆ แล้วผู้สูบบุหรี่ไม่ได้เสพติดตัวบุหรี่ แต่เสพติดนิโคตินที่อยู่ในบุหรี่ต่างหาก ดังนั้นการให้นิโคตินทดแทนด้วยวิธีการต่างๆ ที่แพทย์และผู้เชี่ยวชาญแนะนำ จะช่วยลดอาการอยากสูบบุหรี่อย่างได้ผล เพราะเป็นการเข้าไปลดระดับนิโคติน หรือทำให้อยากสูบบุหรี่ลดลงนั่นเอง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น การเลิกสูบบุหรี่ก็ต้องการปัจจัยรอบข้างเข้ามาส่งเสริม เช่นกำลังใจและความช่วยเหลือจากสังคมและคนรอบข้าง ก็จะช่วยให้โอกาสในการเลิกบุหรี่ประสบความสำเร็จเพิ่มขึ้นไปอีก

“นอกเหนือจากจิตใจอันแน่วแน่ที่ต้องการเลิกสูบบุหรี่แล้ว การแก้ปัญหาตั้งแต่ต้นเหตุ นั่นก็คือการทำให้อาการอยากนิโคตินลดลง โดยใช้นิโคตินทดแทน ซึ่งปัจจุบันมาทั้งในรูปแบบแผ่นแปะ หมากฝรั่ง ฯลฯ เพราะนอกจากจะช่วยให้เรามีกิจกรรมทำเพิ่มขึ้นแล้ว ยังช่วยลดอาการอยากสูบบุหรี่ได้ดีกว่าเดิม จึงนับว่าวิธีนี้เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการเลิกบุหรี่นอกเหนือจากการหักดิบ”

สำหรับผู้ที่ต้องการเลิกสูบบุหรี่และจัดการปัญหาติดนิโคติน สามารถเข้ารับคำปรึกษาและคำแนะนำได้ที่เภสัชกรและผู้เชี่ยวชาญ ที่ร้านบู๊ทส์ทุกสาขาทั่วประเทศ ข้อมูลเพิ่มเติม http://www.th.boots.com/quitsmoking