posttoday

‘สร้างความทรงจำมีค่าของแม่และลูก’ วสุ แสงสิงแก้ว

07 เมษายน 2561

เรื่องราวแสนน่ารักและอบอุ่นของ “จิ๊บ” วสุ แสงสิงแก้ว และคุณแม่วัย 80 ปี

โดย ฤดูกาล ภาพ : วสุ แสงสิงแก้ว

เรื่องราวแสนน่ารักและอบอุ่นของ “จิ๊บ” วสุ แสงสิงแก้ว และคุณแม่วัย 80 ปี ช่างเป็นความสัมพันธ์ที่กระตุกความรู้สึกและความคิดของลูกๆ ถึงช่วงเวลาที่มีอยู่ระหว่างกัน

 จิ๊บเล่าว่า ในชีวิตของเขานั้น เดินทางไกลตั้งแต่เด็กทั้งไปเรียนหนังสือ ไปแข่งกีฬาเทนนิส ทำให้เขาคุ้นชินกับการเดินทางแต่เล็กจนโต

กระทั่งได้ทำงานกับกระทรวงการต่างประเทศทำให้เขาต้องเดินทางอยู่เสมอ เรียกได้ว่า การเดินทางกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตไปแล้ว

“ตอนเด็กๆ คุณยายจะชอบพาเที่ยวแนวธรรมชาติ ไปน้ำตก ไปภูเขา เพราะฉะนั้นตอนโตขึ้นมาทำให้เป็นคนชอบแคมปิ้งจนถึงตอนนี้ก็ยังมีแก๊งเดินป่าทั้งในเมืองไทยและต่างประเทศอยู่ แต่อาจไม่สมบุกสมบันเหมือนแต่ก่อน เพราะด้วยอายุที่มากขึ้นทำให้ต้องรักษาสุขภาพกว่าเดิม” จิ๊บในวัย 50 ปีกล่าว

‘สร้างความทรงจำมีค่าของแม่และลูก’ วสุ แสงสิงแก้ว

หลังจากเสียคุณพ่อไปเมื่อหลายปีก่อน ในฐานะลูกชายคนเดียวของบ้านทำให้เขาต้องตั้งเข็มทิศชีวิตใหม่ เนื่องจากไม่สามารถเดินทางไกลและไปอยู่ต่างแดนนานๆ ได้เหมือนเดิม

เขาจึงตัดสินใจออกจากกระทรวงการต่างประเทศ และเริ่มหน้าที่ใหม่กับตำแหน่ง คณะกรรมาธิการการต่างประเทศ วุฒิสภา เพื่ออยู่ใกล้ชิดมารดา ดูแลกิจการครอบครัว และทำงานในวงการบันเทิงที่คุ้นเคย

“ถ้ามีโอกาสจะชวนคุณแม่ไปเที่ยวไม่ว่าจะในเมืองไทยหรือต่างประเทศ ซึ่งหากเป็นในไทยเราจะชอบไปเขาใหญ่ จันทบุรี พัทยา เชียงใหม่ ซึ่งเป็นจังหวัดที่เรามีบ้านพักอยู่แล้ว ทำให้ไม่ต้องเตรียมตัวและวางแผนมาก รวมถึงคุณแม่เป็นคนชอบรับประทาน ทำให้เราสนุกกับการหาร้านอาหารหรือหาเมนูใหม่ๆ ไปทำรับประทานกันเองด้วย” จิ๊บกล่าวต่อ

‘สร้างความทรงจำมีค่าของแม่และลูก’ วสุ แสงสิงแก้ว

“หรือถ้าหากเดินทางไกลกว่านั้นก็ต้องวางแผนล่วงหน้าและตามใจคุณแม่ว่าอยากไปไหน เช่น ไปดูเทศกาลดอกไม้ที่ญี่ปุ่น กลับไปเยี่ยมโรงเรียนเก่าของคุณแม่ที่โคโลราโด สหรัฐอเมริกา ซึ่งแม้ว่าคุณแม่จะเช็กร่างกายเป็นประจำอยู่แล้ว แต่ก่อนออกเดินทางไกลแต่ละครั้งก็ต้องพาท่านไปเช็กอัพให้ละเอียดอีกครั้งเพื่อความสบายใจ โดยเฉพาะกับผู้ใหญ่ที่มีโรคประจำตัว การได้รับการรับรองจากแพทย์ก็ยิ่งทำให้มั่นใจและสบายใจขึ้น”

หลักชีวิตข้อหนึ่งที่เขายึดถืออยู่เสมอคือ “ชีวิตเรานั้นสั้น” ดังนั้นจะทำอะไรอย่าผัดวันประกันพรุ่ง และอย่าให้มีวันที่มองย้อนหลังกลับมาแล้วนึกเสียใจ

“เราจะใช้ชีวิตยังไงให้มีคำว่าเสียใจและเสียดายน้อยที่สุด สำหรับผม ทุกครั้งที่มีโอกาสจะพาคุณแม่ไปเที่ยวหรือทำกิจกรรมที่ท่านอยากทำด้วยกัน ไม่รอหรือเลื่อนออกไปเพราะไม่มีใครรู้ว่าเวลานั้นจะมาถึงไหม เข็มนาฬิกาชีวิตของผู้สูงวัยเขาเดินไม่เหมือนผู้ที่กำลังทำงาน สำหรับคนทำงานอาจรู้สึกว่าเวลามันผ่านไปเร็วเหลือเกิน แต่สำหรับพวกท่านทุกวันมีค่าและมีความหมาย ดังนั้นอย่าเขินอายที่จะแสดงความรักกับท่าน ถ้าคิดแล้วต้องทำทันที”

‘สร้างความทรงจำมีค่าของแม่และลูก’ วสุ แสงสิงแก้ว

นอกจากการทำงาน เขาได้ให้เวลาทั้งหมดกับคุณแม่สุดที่รัก เพื่อทดแทนช่วงเวลาในอดีตครั้งที่ต้องไปทำงานต่างบ้านต่างเมือง และเพื่อทำทุกวันที่มีอยู่อย่างคุ้มค่า สร้างความทรงจำที่มีค่าให้เกิดขึ้นมากที่สุดเท่าที่จะทำได้