posttoday

สมพงษ์ โพธิ์ศรี เกษียณอย่างมีสุข

07 เมษายน 2561

นาวาโทสมพงษ์ โพธิ์ศรี ผู้ก่อตั้งและประธานกรรมการบริษัท ชาชักชาวเรือ แบรนด์ชาชักและโรตีที่มีแฟรนไชส์กว่า 100 สาขาทั่วประเทศ

โดย เจียรนัย อุตะมะ

นาวาโทสมพงษ์ โพธิ์ศรี ผู้ก่อตั้งและประธานกรรมการบริษัท ชาชักชาวเรือ แบรนด์ชาชักและโรตีที่มีแฟรนไชส์กว่า 100 สาขาทั่วประเทศ ในวัย 50 ปีวันนี้ เขาแทบจะไม่ต้องทำอะไรแล้ว ใช้ชีวิตบั้นปลายอย่างเรียบง่าย พรั่งพร้อมด้วยทรัพย์สินและเงินหมุนเวียนเข้ามาปรนเปรอชีวิต หลังจากเกษียณอายุการทำงานราชการตั้งแต่วัย 42 ปี

ทั้งนี้ เป็นผลจากการทำงานอย่างหนักตั้งแต่วัยหนุ่มเพื่อสร้างสมทรัพย์สิน พร้อมกับการวางแผนการเงินและวางแผนชีวิตมาอย่างดี

ในวันนี้เขายกหุ้นเกือบทั้งหมดในบริษัทชาชักชาวเรือให้ลูกสาวหรือหลานสาว ซึ่งเป็นลูกของพี่สาวที่เขาเลี้ยงดูมาตั้งแต่ยังเล็กเสมือนลูก และเรียกเขาว่าพ่อ พร้อมให้สืบทอดกิจการแทน ทั้งด้านการบริหารและจัดการแฟรนไชส์ร่วมกับหุ้นส่วน ในขณะที่เขานั้นถอยฉากออกมาแค่เป็นพี่เลี้ยงประคองอยู่ห่างๆ

นาวาโทสมพงษ์ยามนี้ นอกจากคอยไปตรวจเยี่ยมแฟรนไชส์ต่างๆ ประปรายแล้ว ชีวิตส่วนใหญ่ก็จะอยู่ในคอนโดมิเนียมย่านปิ่นเกล้า แหล่งที่อยู่อาศัยที่พรั่งพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกย่านตะวันตกของกรุงเทพฯ และใช้ชีวิตท่องเที่ยวต่างประเทศอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง

สมพงษ์ โพธิ์ศรี เกษียณอย่างมีสุข

ครั้งล่าสุดเขาและลูกสาว 2 คนไปเที่ยวญี่ปุ่น วางแผนเที่ยวกันเอง ซื้อตั๋วเครื่องบินไป 7 วัน นั่งสายการบินแอร์เอเชีย ใช้เงินเพียงคนละ 3.5 หมื่นบาท โดยไม่ต้องจ้างคนนำทัวร์ อาหารการกินอุดมสมบูรณ์

“ผมไม่ชอบอยู่บ้าน มีบ้านอยู่พุทธมณฑล ชวนลูกๆ มาอยู่คอนโดมิเนียม แต่ซื้ออยู่คนละชั้น สะดวกสบาย ไม่ต้องยุ่งเกี่ยวกับเพื่อนบ้านมากนัก ไปดูแฟรนไชส์หรือธุระปะปังที่ไหนให้ลูกมารับไปด้วยกัน”

แม้ปัจจุบัน นาวาโทสมพงษ์ จะสร้างตัวจนมีฐานะดีมาก แต่เขายังใช้ชีวิตอย่างพอเพียง มีบำนาญทหารเรือเดือนละ 3 หมื่นบาท มีเงินสะสมไว้บ้าง และบริหารเงินด้วยการลงทุนหุ้นโดยให้ลูกสาวเป็นคนจัดการ ซื้อทองคำบ้าง โดยล้วนแล้วแต่ลงทุนระยะยาว

“ตอนนี้ลูกสาว 3 คน เรียนจบหมดแล้ว วัยไล่เลี่ยกัน 26 ปี 24 ปี และ 22 ปี โดยคนเล็กอีก 3 เดือนจะจบ คนโตทำงานโรงพยาบาล คนกลางเพิ่งออกจากโรงแรมดุสิตธานี มาช่วยบริหารบริษัท ชาชักชาวเรือ ซึ่งมีผู้บริหารช่วยดูแลอยู่แล้ว และเรามีแฟรนไชส์ของเราเองที่สาขาสายใต้ใหม่ กำไรก็เดือนละเกือบแสนบาท ยกให้ลูกสาวหมด”

สมพงษ์ โพธิ์ศรี เกษียณอย่างมีสุข

ชีวิตของเขาแทบจะไม่มีห่วงอะไรแล้ว

เรื่องอาหารการกินแต่ละวัน นาวาโทสมพงษ์ ชอบใช้ชีวิตสามัญ รับประทานข้าวแกงร้านค้าในคอนโดมิเนียม โดยลงไปซื้อขึ้นมารับประทานบนห้อง และไม่ค่อยออกจากห้องไปไหนมากนัก หากเพื่อนๆ อยากพบเจอต้องเดินทางมาหา ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเพื่อนจากโรงพยาบาลธนบุรี ที่เขาเคยทำงานแรกๆ ตั้งแต่สมัยยังหนุ่ม โดยทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย

น้อยคนนักที่จะออกแบบชีวิตได้เฉกเช่น นาวาโทสมพงษ์ เพราะต้องทนทำงานหนักและสร้างฝันให้บรรลุตั้งแต่วัยหนุ่ม เพื่อชีวิตบั้นปลายที่สมบูรณ์พูนสุขได้จนถึงรุ่นลูกรุ่นหลาน เป็นแบบอย่างของผู้ประกอบการที่ประสบผลสำเร็จในหน้าที่การงานและชีวิต