posttoday

เอก กฤษณาวารินทร์ ‘แข่งกับเวลา แข่งกับตัวเอง’

01 เมษายน 2561

สุดยอดของนักแอดเวนเจอร์ตัวจริง ดีเจเอก กฤษณาวารินทร์ ดีเจจากเอไทม์ มีไลฟ์สไตล์เกาะกระแส “สปอร์ต เมเนีย”

โดย ปอย

สุดยอดของนักแอดเวนเจอร์ตัวจริง ดีเจเอก กฤษณาวารินทร์ ดีเจจากเอไทม์ มีไลฟ์สไตล์เกาะกระแส “สปอร์ต เมเนีย” เผยความคลั่งไคล้กีฬาสไตล์คนยุคใหม่ การแข่งขันสนามล่าสุด ไทยแลนด์ไตรลีก ที่บางแสน  ดีเจเอกทั้งว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน ตามด้วยวิ่งเพื่อเข้าเส้นชัย ทำสถิติไตรกีฬาระยะใกล้ หรือ Sprint Distance ในสนามไตรกีฬาริมทะเลเมืองท่องเที่ยวเก่าแก่ของไทยได้ดีเยี่ยม รั้งอันดับ 8 กลุ่มนักวิ่งชาย อายุ 40-49 ปีขึ้นไป

ไฮไลต์สำคัญสนามนี้ ดีเจเอก บอกประทับใจบรรยากาศเมืองบางแสน ที่มุ่งมั่นก้าวสู่เมืองท่องเที่ยวเชิงกีฬาได้อย่างเต็มรูปแบบไปได้ภาคภูมิแล้ว เมืองสวยงาม มีเส้นทางปั่นจักรยานไปตามเส้นทางสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ ถนนข้าวหลามตัดใหม่ การวิ่งบนถนนเลียบชายหาด ผ่านแหลมแท่น วิ่งขึ้นเขาสามมุข เส้นทางปั่นจักรยานโชว์วิวเมืองท่องเที่ยว

เอก กฤษณาวารินทร์ ‘แข่งกับเวลา แข่งกับตัวเอง’

“ทุกครั้งที่ลงสนาม คือการแข่งกับเวลา แข่งกับตัวเอง สนามนี้ระยะสปรินต์เป็นระยะทางการแข่งขันสั้นที่สุด หรือเรียกว่าไตรกีฬาระยะสั้น โดยมีระยะทางว่ายน้ำอยู่ที่ 750 เมตร ปั่นจักรยาน 20 กิโลเมตร และตบท้ายวิ่งที่ระยะทาง 5 กิโลเมตร ไตรกีฬา คือการแข่งขันกีฬา 3 ประเภทนี้ ต่อเนื่องกันครับ โดยทำความเร็วในการแข่งขันให้ดีที่สุด ซึ่งผมทำเวลาได้ประมาณ 1 ชั่วโมง 26 นาที

สนามบางแสนผมประทับใจในตอนเข้าเส้นชัย คนเมืองนี้เคยชินกับการปิดเมืองแข่งขันกีฬาหลายๆ ประเภท ทั้งการแข่งรถแบบซิตี้เรซ การแข่งขันจักรยานแบบเซอร์กิต การแข่งขันวิ่งมาราธอน รวมถึงไตรกีฬา กำลังได้รับความนิยมสูงสุดในตอนนี้นะครับ ก็จะมีคนมาปรบมือต้อนรับและให้กำลังใจนักกีฬา เมื่อเข้าสู่เส้นชัยได้สำเร็จ การแข่งขันไทยแลนด์ไตรลีกที่บางแสนคึกคักมาก กลายเป็นจุดเริ่มต้นของเมืองในการก้าวเข้าสู่เมืองกีฬาที่สมบูรณ์แบบในอนาคตได้เลยครับ

ความรู้สึกเมื่อแตะเส้นชัย ยิ่งช่วงสุดท้ายระยะ 200-300 เมตร แรงก็จะกลับมาเลย จากป้อแป้ กลายเป็นแรงมาฮึกเหิม หรือที่เรียกว่า ฟิน ความที่ได้เห็นคนยืนรอเชียร์ รอถ่ายรูป อะดรีนาลินก็หลั่ง นี่คือความสุขว่าเราทำได้สำเร็จแล้ว มันคือการพัฒนาตัวเองได้ถึงระดับหนึ่งแล้ว และทำให้เรากล้าไปลองชาเลนจ์ใหม่ต่อไป”

เอก กฤษณาวารินทร์ ‘แข่งกับเวลา แข่งกับตัวเอง’

ดีเจเอกเริ่มต้นสนทนาเล่าบรรยากาศการแข่งขันกีฬาที่ติดเข้าไปในเส้นเลือด กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตไปแล้ว

ย้อนไปที่จุดเริ่มต้นราว 4-5 ปีที่แล้ว กับการปั่นจักรยานฟิกเกียร์ หรือจักรยานที่มีเกียร์เดียว ดีเจเอก บอกว่า เมื่อกำลังขาแข็งแรง เพิ่มความแข็งแกร่งให้ตัวเองมากขึ้น กีฬาก็กลายเป็นสิ่งท้าทายกับตัวเอง ความสุขคือชอบการเอาชนะตัวเอง ชีวิตมีการวางเป้าหมาย การได้เอาชนะสร้างความภูมิใจ แล้วก็จะมีการตั้งเป้าหมายต่อไปเรื่อยๆ ซึ่งเป็นที่มาของการลงสนามวิ่ง

“ผมฝึกความแข็งแกร่ง ลงสนามการแข่งขันไตรกีฬาระยะมาตรฐานด้วยครับ เริ่มต้นที่การวิ่ง 10 กิโลเมตร ปั่นจักรยาน 40 กิโลเมตร และว่ายน้ำอยู่ที่ 1.5 กิโลเมตร ระยะนี้ถือเป็นระยะมาตรฐานของไตรกีฬาที่ใช้ในการแข่งขันโอลิมปิก นักกีฬาทุกคนนะครับ ใครทำได้ก็ไปต่อที่สนามไอรอนแมน เป็นการแข่งขันที่ถือว่ายากเป็นอันดับต้นๆ ของโลกกีฬา จบภายใน 1 วัน การแข่งขันประกอบด้วย ว่ายน้ำ 3.86 กิโลเมตร ปั่นจักรยาน 180.25 กิโลเมตร และวิ่ง 42.2 กิโลเมตร ทุกอย่างต้องทำอย่างต่อเนื่อง โดยมีเวลาให้เพียง 17 ชั่วโมง สนามที่ผมมุ่งมั่นและตั้งเป้าหมายว่าจะไปให้ได้คือ ไอรอนแมนที่สวิตเซอร์แลนด์ครับ”

เอก กฤษณาวารินทร์ ‘แข่งกับเวลา แข่งกับตัวเอง’

ดีเจเอกประเมินสถานการณ์ว่าน่าจะทำเวลาได้ 14-15 ชั่วโมง ก็น่าจะโหดไม่น้อยแล้ว แม้ว่ามีพื้นฐานในการปั่นจักรยานแข็งแกร่งเป็นทุนอยู่แล้ว แต่เส้นทางนี้เป็นเขา ไม่ใช่ทางราบ และอากาศราว 25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิระดับนี้ไม่มีอุปสรรคกับการวิ่ง แต่สำหรับว่ายน้ำจัดว่าต้องว่ายฝ่าน้ำค่อนข้างเย็น ที่สำคัญคือการที่เริ่มหัดว่ายน้ำในช่วงวัยเป็นผู้ใหญ่แล้ว ก็จะสู้คนว่ายน้ำเป็นตั้งแต่เด็กๆ ไม่ได้แน่นอน จึงทำให้ต้องฝึกฝนหนักยิ่งขึ้นไปอีก

“ผมลงสนามไตรกีฬา 6-7 รายการ ภายในเวลา 1 ปีกว่าที่ผ่านมา พอได้เล่นอะไรใหม่ๆ แล้วมันก็ฮึกเหิมนะครับ ผมไม่ถนัดว่ายน้ำ แล้วว่ายน้ำทะเลมันก็ยิ่งทำให้เราตื่นเต้น เรามาเริ่มต้นเล่นไตรกีฬาในวัย 40 กว่าปีแล้ว แต่หัวใจการแข่งขันก็คือความท้าทายที่ไม่ได้จะเอาชนะใคร เราจะสู้เพื่อเอาชนะนอกจากตัวเอง ทำเพื่อความสะใจและแข่งกับตัวเอง คิดแบบนี้สนุกกว่า

เอก กฤษณาวารินทร์ ‘แข่งกับเวลา แข่งกับตัวเอง’

ไอดอลของผมคือโค้ชผู้ฝึกสอนของผมเวลานี้ สุนทร ใจมาบุตร ผู้ฝึกสอนไตรกีฬา Stroke Technical Open Water Swimming ‘โค้ชกระสุน’ หรือที่ทุกคนทราบว่าเป็นนักกีฬา ‘มนุษย์ล้อ’ โค้ชประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ จากคนประสบความสำเร็จเป็นนักไตรกีฬาความหวังของชาติ พีกในอาชีพถึงที่สุด แต่วันหนึ่งชีวิตเล่นตลก ต้องสูญเสียประสาทยืดเหยียด ร่างกายตั้งแต่หน้าอกไล่ลงมาถึงฝ่าเท้าไม่สามารถควบคุมได้ แต่นั่นกลับไม่ใช่อุปสรรคในชีวิตเขาเลยครับ

โค้ชกระสุนกลับมาเทรนตัวเองให้กลับมาเล่นกีฬาได้ เท่านั้นไม่พอเขายังถ่ายทอดความรู้ให้คนอื่นได้อีกด้วย ในสนามกีฬาโอลิมปิกคนพิการ แม้ว่าเสียเปรียบคนพิการตั้งแต่กำเนิดที่ควบคุมร่างกายดีกว่า หรือคนขา-แขนขาดเพียงข้างเดียว แต่โค้ชไม่ยอมแพ้ ผมจึงให้โค้ชกระสุนเป็นไอดอล ผมว่ายน้ำไม่เก่งเท่าคนอื่นก็ไม่เป็นไร ฝึกแข่งกับตัวเองไปเรื่อยๆ ครับ สถิติที่ดีกว่าเดิมคือชัยชนะของเรา”